Skip to main content
sharethis

'แพทองธาร' นำคณะรัฐมนตรีแถลงข่าวภายหลังการประชุม ครม.นัดพิเศษ มั่นใจประสานการทำงานของครม. ที่มาจากหลากหลายภาคส่วน เร่งเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจต่อเนื่อง - ตอบคำถามสื่อต่างประเทศ ย้ำจะทำให้ประเทศไทยกลับมามีอนาคต ยืนยันอยู่ครบวาระ สานต่อ นโยบายรัฐบาลสู่ประชาชน - รับไม่อยากมีคดีเพราะลูกยังเล็ก แต่จะพยายามรับมือให้ดีที่สุด

7 ก.ย. 2567 เวลา 11.50 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีแถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสแก่ดิฉันและคณะรัฐมนตรี เนื่องในวโรกาส เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีพระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า "ขอให้พรด้วยความยินดี ให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ไปแล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน" นับเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิตของดิฉันและคณะรัฐมนตรี พร้อมน้อมนำพระราชดำรัส มาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า พร้อมจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ พร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศอย่างเต็มที่ ดิฉันและคณะรัฐมนตรีทุกคน จะทำงานแข่งกับเวลา ทุกชั่วโมง ทุกวินาที  ไม่ให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเราคือผู้แทนของประชาชน ที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากทั่วพื้นที่ของคนทั้งประเทศ มาจากพรรคการเมืองที่มีความแตกต่างหลากหลาย ต่างภูมิภาค ต่างช่วงวัย

“ขอให้ความมั่นใจว่า… ดิฉันจะใช้ความสามารถในการประสานพลังกับคณะรัฐมนตรีทุกท่าน ให้ทำงานด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ “ใช้ความหลากหลาย กลายเป็นจุดแข็ง” ในการแก้ปัญหา อย่างเข้าใจและตรงจุด ดิฉันเชื่อว่า โอกาส” คือ สิ่งที่เราสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ วันนี้ ดิฉัน คณะรัฐมนตรี และข้าราชการทุกภาคส่วน พร้อมแล้วที่จะทำงานเพื่อสร้างความเท่าเทียมแห่ง “โอกาส” พลิกฟื้นความเชื่อมั่น ให้กับประเทศไทย ไม่ใช่เริ่มพรุ่งนี้ แต่นาทีนี้เป็นต้นไปค่ะ” นายกรัฐมนตรีย้ำ

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทุกวันนี้ปัญหาของประเทศเป็นปัญหาเรื้อรังและท้าทาย รัฐบาลจะนำปัญหาต่าง ๆ มาแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทั้งนโยบายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว นโยบายเร่งด่วน เช่น การปรับโครงการหนี้ การช่วยเหลือ SME กระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ส่วนนโยบายระยะกลาง ระยะยาว จะเป็นการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม เสริมสร้างด้านการสร้างสรรค์ และการเสริมสร้างซอฟต์พาวเวอร์ โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ระบบสาธารณูปโภค และการพัฒนาคน โดย ขอให้ติดตามรายละเอียดการ ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 12 – 13 ก.ย. 2567 นี้ คณะรัฐมนตรีจะดำเนินการต่อเนื่องจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี  โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลเน้นย้ำมาโดยตลอด และการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบด้วย

นายกรัฐมนตรีย้ำถึงการดูแลสินค้าเกษตรว่า เป็นสิ่งสำคัญ  และการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งคณะรัฐมนตรีเล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุก ๆ ปี ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนอย่างมาก  คณะรัฐมนตรีแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง  พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังขอให้ทุกกระทรวงดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567  ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องด้วย

ตอบคำถามสื่อต่างประเทศ ย้ำจะทำให้ประเทศไทยกลับมามีอนาคต ยืนยันอยู่ครบวาระ สานต่อ นโยบายรัฐบาลสู่ประชาชน

เวลา 11.50 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ตอบคำถามสื่อมวลชนต่างประเทศ ที่สอบถามถึงกรณีที่หลายประเทศมีความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ดังนั้น นายกรัฐมนตรี จะสื่อสารกับต่างชาติเกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทย และเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตนเองพร้อมที่จะทำให้ประเทศกลับมามีอนาคต และในวันนี้ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็พร้อมที่จะเดินหน้า ซึ่งเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้น ก็เป็นความโชคร้ายของนายเศรษฐา ซึ่งพวกเราเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่พวกเราก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้รัฐบาลอยู่ครบวาระ และส่งต่อนโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชน

รับไม่อยากมีคดีเพราะลูกยังเล็ก แต่จะพยายามรับมือให้ดีที่สุด

นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงการเริ่มการทำงานของ ครม.ชุดใหม่ที่มีเวลา 3 ปีจะมีการประเมินการทำงานสำหรับตัวนายก และ ครม. โดยให้เวลาเท่าใดว่า การจะวัดและประเมินต่าง ๆ คิดว่าเราต้องดูกันตลอด เพราะอย่างที่บอกแล้วว่าเราจะทำงานแข่งกับเวลา แต่ส่วนนโยบายและกระทรวงต่าง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายนั้นคือนโยบายอะไร ส่วนตัวในใจคิดไว้ว่าจะสรุปการทำงานใน 3 เดือนแรกให้กับประชาชนฟัง ซึ่งในที่ประชุม ครม. ได้ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นแยกว่าจะมีการนัดรัฐมนตรีมาคุยกันทุกอาทิตย์ แต่ก็สลับกระทรวงกันไปและให้เวลาเรียบร้อยแล้วว่าจะสะดวกช่วงไหนเผื่อรัฐมนตรีจะอยากปรึกษาเรื่องการทำงานให้เป็นไปอย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้ทุกคนพอมอบหมายอะไรไปแล้วเราไม่สามารถติดตามได้ว่าถึงไหน ซึ่งทุกคนมีความตั้งใจจะทำทุกนโยบายอยู่แล้วก็คิดว่าจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดผลงานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ส่วนนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภามีอะไรที่แตกต่างกับรัฐบาลนายเศรษฐาบ้างและเนื่องจากมีการใช้นิติสงคราม ใช้กฎหมายในสถานการณ์ทางการเมืองมีเยอะนายกฯ มีทีมกฎหมายที่จะมั่นใจได้อย่างไรที่จะสู้รบและรับมือได้ และรัฐบาลอยู่ครบ 3 ปี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกท่านมีความตั้งใจอยู่แล้ว ส่วนเรื่องกฎหมายนั้น เรามีทีมกฎหมายอย่างแน่นอน แต่ทั้ง ครม. มีทั้งผู้มีประสบการณ์และเป็นรัฐมนตรีใหม่ด้วยเช่นกัน เราปรึกษากันและกัน ด้วยประสบการณ์เหล่านี้ต้องช่วยกันตีความหมายของกฎหมายในบางเรื่องด้วย เพราะบางทีบางเรื่องไม่ได้ตอบว่าขาวหรือดำ ซึ่งแน่นอนว่ามีความตั้งใจและดูทุกอย่างพร้อมกับปรึกษาทุกหน่วยงานให้รอบคอบรัดกุม และขอความร่วมมือว่ารัฐบาลก็อยากทำงานให้ครบ 3 ปี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการทำงาน ซึ่งตอนนี้ได้มีการเปลี่ยนนายกและ ครม. ก็พยายามตอกย้ำว่าตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้นนโยบายที่เคยปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้วก็ค่อนข้างที่จะคล้ายเดิมและนโยบาย ครั้งนี้ก็มีการปรึกษากับพรรคร่วมเช่นกันจะเป็นนโยบายที่ต่อเนื่องกับรัฐบาลนายเศรษฐา และเป็นความเห็นของคณะรัฐมนตรีทุกคนสามารถที่จะมีการปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะคำปรับแก้ต่าง ๆ จะทำให้รัฐบาลดำเนินนโยบายได้อย่างเต็มที่  ทั้งนี้ นโยบายที่ได้รวบรวมในแถลงอยู่ในเล่มนี้ก็เป็นนโยบายที่ใช้ตั้งแต่หาเสียงและได้ตกลงกับพรรคร่วม จนมาถึงวันนี้ขอพูดได้เลยว่าค่อนข้างที่จะเหมือนเดิมมีการปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันและมั่นใจว่าจะสามารถทำนโยบายให้สำเร็จ

ส่วนกรณี กลุ่มบุคคลจ้องที่จะฟ้องร้องอีกหลายคดีที่จะตามมานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีคดี พอมีคดีก็จะพยายามรับมือให้ได้ดีที่สุด และจริง ๆ แล้วไม่อยากมีคดี เพราะลูกยังเล็กอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายกฯ ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งนามสกุลชินวัตร ปฏิเสธไม่ได้ในความเป็นพ่อลูกระหว่างนางสาวแพทองธารกับนายทักษิณ ชินวัตร ทำให้มีคนมองว่าระบอบทักษิณกลับมาอีกแล้วและมีการปรามาสว่ายังไง นายกฯ ก็หนีไม่พ้นเงาของนายทักษิณ จะให้ความมั่นใจหรือลบคำปรามาสนี้ได้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “จะไม่ขอตอบเรื่องท่านทักษิณแล้วเพราะเราต้องเดินไปข้างหน้าวิสัยทัศน์ที่ดีไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไรก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดีคือสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นขอตอบแค่นี้ก็แล้วกัน”

ส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทำทันทีนั้นโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท เดือน ก.ย. นี้จะสามารถดำเนินการได้ทันทีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องของไทม์ไลน์ขออนุญาตให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้อธิบายรายละเอียดแต่แน่นอนว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องเกิดขึ้นทันทีเพราะเป็นข้อแรกที่จะต้องเน้นย้ำและผลักดันต่อไป


ที่มาเรียบเรียงจากเว็บไซต์รัฐบาลไทย [1] [2] [3]


 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net