Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา 'พีมูฟ' ยื่นหนังสือถึง 'แพทองธาร' เสนอนโยบาย 10 ด้านให้รัฐบาล แก้ปัญหาที่ดิน-ทรัพยากร-สวัสดิการ โดยมีตัวแทนพรรคเพื่อไทยรับหนังสือแทน - แกนนำพีมูฟหวังรัฐบาลจะนำข้อเรียกร้องไปดำเนินการ ไม่เพิกเฉย เพราะก่อนหน้านี้เคยยื่นเรื่องดังกล่าวมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบรับที่ดี

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ได้เผยแพร่ แถลงการณ์ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ฉบับที่ 1 รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร เรื่อง จับตาคำแถลงนโยบาย ‘แพทองธาร’ ข้อเรียกร้อง 10 ด้าน รัฐบาลต้องตอบสนอง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทั้งในเมืองและชนบทในด้านที่ดิน ที่อยู่อาศัย คือปัญหาปากท้องที่มีต้นกำเนิดจากโครงสร้างสังคมอันบิดเบี้ยว บีบให้พวกเราภาคประชาชนในนาม ‘ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม’ หรือ ‘พีมูฟ’ ต้องออกมาเรียกร้องต่อรัฐบาลชุดแล้วชุดเล่า ล่าสุดคือการผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบาย 10 ด้านถึงรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ให้เร่งบรรจุอยู่ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลให้ได้ก่อนวันที่ 12-13 กันยายนนี้ เพื่อเป็นหลักประกันทางนโยบายขั้นแรกว่าปัญหาทั้งหมดของเราจะได้รับการแก้ไข คืนเกียรติ คืนศักดิ์ศรี คืนชีวิตมีกินมีใช้ให้ประชาชนอย่างแท้จริง

นโยบายทั้ง 10 ด้านของเรานั้น ประกอบด้วย สิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย การกระจายอำนาจ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ที่ดินและการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การป้องกันภัยพิบัติ การคุ้มครองชาติพันธุ์และสิทธิความเป็นมนุษย์ สิทธิและสถานะบุคคล รัฐสวัสดิการ และที่อยู่อาศัย ซึ่งเราเห็นว่านโยบายเช่นนี้จะสามารถนำพาสังคมที่เป็นธรรมมาสู่พี่น้องประชาชนได้ และอย่างน้อย 2 รัฐบาลที่ผ่านมา คือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ เศรษฐา ทวีสิน ยังไม่ตอบสนองและแสดงความจริงใจเดินหน้าผลักดันเท่าที่ควร

เสียงของประชาชนควรจะเป็นเสียงแรกที่รัฐบาลทุกชุดต้องเร่งรับฟังและเดินหน้าในทางปฏิบัติ หาใช่พวกพ้องนักการเมืองและกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจ ในการจัดทำคำแถลงนโยบายของรัฐบาลอย่างน้อย 2 ชุดที่ผ่านมานั้นไม่มีส่วนร่วมของประชาชนแต่อย่างใด ทั้งที่เราคือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย คือผู้ที่จะได้รับประโยชน์หรือผลกระทบโดยตรง ที่สำคัญจำนวนประชาชนคนยากจนนั้นมีจำนวนมหาศาลมากกว่ากลุ่มคนร่ำรวยหลายเท่า และเราคือเจ้าของประเทศเหมือนกัน

เพื่อให้การแก้ไขปัญหาทั้งปากท้องและโครงสร้างเดินหน้าไปด้วยกัน เราขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ดังนี้

1. รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ต้องนำนโยบายของพีมูฟทั้ง 10 ด้าน บรรจุอยู่ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ในวันที่ 12-13 ก.ย. นี้ ซึ่งเราจะติดตามอย่างใกล้ชิด และพร้อมเดินหน้าเคลื่อนไหว วิพากษ์วิจารณ์ หากรัฐบาลไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของประชาชน

2. ในกระบวนการแก้ไขปัญหาหลังจากนี้ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องเปิดเจรจากับพีมูฟด้วยตนเอง เพื่อแสดงความจริงใจ วิสัยทัศน์ และศักยภาพในฐานะนายกรัฐมนตรีให้ประชาชนได้เห็น เนื่องจากที่ผ่านมาทั้งประยุทธ์และเศรษฐาต่างหลบหน้าพวกเรา ไม่เคยมารับฟังปัญหาและข้อเรียกร้องของเราโดยตรง

ทั้งนี้ เราขอประกาศถึงสาธารณชน สื่อมวลชน และพรรคการเมืองทุกพรรค ว่าเราจะเดินหน้าผลักดันนโยบายภาคประชาชนผ่านทุกพรรคการเมืองต่อไป และจะจัดเวทีสาธารณะเพื่อเปิดตัวนโยบายทั้ง 10 ด้านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในวันที่ 13 ก.ย. นี้ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คู่ขนานกับการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ขอเชิญชวนภาคประชาชนผู้เดือดร้อนและมีอุดมการณ์ร่วมกับเราให้ร่วมกันออกมาส่งเสียงถึงรัฐบาล และยืนยันว่า เราพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาทางนโยบายกับรัฐบาลใหม่หลังจากนี้

ยื่นหนังสือถึง 'แพทองธาร' เสนอนโยบาย 10 ด้านให้รัฐบาล แก้ปัญหาที่ดิน-ทรัพยากร-สวัสดิการ

สำนักข่าวไทย รายงานว่าเมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 6 ก.ย. กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-move นำโดยนายธีรเนตร ไชยสุวรรณ ประธานกรรมการบริหารขบวนการพีมูฟ เดินทางมายื่นหนังสือต่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอนโยบายของภาคประชาชน และกลไกการแก้ไขปัญหาของประชาชน

จากนั้นเวลา 09.20 น. ได้มอบหมายให้ ตัวแทนคณะทำงานของผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนมารับหนังสือเนื่องจากพื้นที่และอาคารชินวัตร 3 ถือเป็นพื้นที่บริษัทเอกชน ไม่ใช่สถานที่ของรัฐบาล โดยมีพลตำรวจโทอาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาดูความเรียบร้อย พร้อมด้วยเจ้าที่ตำรวจจาก สน.พหลโยธิน เจ้าของพื้นที่

สำหรับข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมคือ ข้อเสนอเชิงนโยบาย 10 ด้าน ประกอบด้วย  

1. สิทธิ เสรีภาพ และประชาธิปไตย เช่น การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่มีบทบัญญัติผลกระทบต่อสิทธิ เสรีภาพของประชาชน ในด้านต่างๆ

2. การกระจายอำนาจ ปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น และสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ

3. นโยบายการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เช่น ให้ยกเลิกคดีความที่ไม่เป็นธรรมทั้งปวง

4. นโยบายที่ดิน และการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม เช่น กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม ตามข้อเสนอของภาคประชาชน

5. นโยบายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติคือ การยกเลิกนโยบาย และกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน เช่น ยกเลิกนโยบายทวงคืนผืนป่า และแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐ

6. นโยบายภัยพิบัติ เช่น ส่งเสริมระบบการจัดการภัยพิบัติโดยชุมชน เพื่อลดความเสี่ยงของประชาชน ในการเตรียมความพร้อมก่อนเกิดเหตุ การช่วยเหลือระหว่างเกิดเหตุ และการฟื้นฟูเยียวยาหลังเกิดเหตุ

7. นโยบายการคุ้มครองชาติพันธุ์ และสิทธิความเป็นมนุษย์ โดยให้มีคณะกรรมการอำนวยการด้านแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ที่มีมติ ครม.รับรองสามารถดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีองค์ประกอบจากภาคประชาสังคมและชุมชนมากกว่ากึ่งหนึ่ง

8. นโยบายสิทธิของคนไร้สถานะ เพื่อแก้ปัญหาด้านสถานะ และสิทธิบุคคล ของคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ กลุ่มชาติพันธ์

9. นโยบายรัฐสวัสดิการ เดินหน้าข้อเสนอรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า

10. นโยบายด้านที่อยู่อาศัย เช่น รัฐต้องจัดสรรที่ดินให้ประชาชนอยู่อาศัยอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง

ทั้งนี้แกนนำขบวนการพีมูฟ หวังว่ารัฐบาลจะนำข้อเรียกร้องไปดำเนินการ ไม่เพิกเฉย เพราะก่อนหน้านี้เคยยื่นเรื่องดังกล่าวมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบรับที่ดี อย่างไรก็ตามนับจากนี้นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง จะประสานงานกลับมายังกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อนัดพูดคุย ซึ่งหวังว่าจะมีการพูดคุยก่อนที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 12-13 กันยายนนี้

สำหรับการยื่นหนังสือครั้งนี้ เป็นการยื่นหลังเป็นที่แน่ชัดแล้ว ว่าคณะรัฐมนตรีมีกำหนดการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ และจะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษ ในวันพรุ่งนี้เพื่อพิจารณาเห็นชอบร่างนโยบาย ที่นายกรัฐมนตรีจะแถลงต่อรัฐสภา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พีมูฟได้ยื่นหนังสือต่อพรรคเพื่อไทย ผ่านนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพรรคเพื่อไทย และนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย มาแล้ว
 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net