Skip to main content
sharethis

'ก้าวไกล' ตั้งญัตติด่วนเสนอแนวทางรัฐบาลแก้วิกฤต ‘ปลาหมอคางดำ’ ต้องมีการจำกัดการแพร่ระบาด เยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ และวิจัยหาทางป้องกันเอเลียนสปีชีส์อื่น ‘ณัฐชา’ ทวงสัญญารัฐบาล 7 วันตั้ง คกก.สืบหาความจริง เบิกงบประมาณกลางช่วยจัดการ

 

25 ก.ค. 2567 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานวันนี้ (25 ก.ค.) อาคารรัฐสภา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกลได้มีการยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาเร่งด่วนการระบาดของปลาหมอคางดำใน 17 จังหวัด เพื่อเสนอความเห็นต่อรัฐบาลให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

ณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.สมุทรสาคร เขต 1 พรรคก้าวไกล ในฐานะตัวแทนผู้เสนอญัตติจากฝั่งของพรรคก้าวไกล อภิปรายโดยเริ่มต้นว่าสิ่งที่รัฐบาลพูดมาเสมอว่า เรื่องของปลาหมอคางดำต้องเป็นวาระแห่งชาติเร่งด่วน จะมีการใช้งบกลางหรือการเพิ่มงบประมาณ แต่วันนี้ยังไม่เห็นเกิดขึ้น และแม้การแก้ปัญหาจะมีความจำเป็น แต่การหาคนรับผิดชอบก็จำเป็นไม่แพ้กัน

ณัฐพงษ์ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของสายพันธุ์ต่างถิ่นเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย ที่เคยมีการระบาดมาก่อนซึ่งก็คือปลาหมอคางดำ แต่เมื่อก่อนเรียกปลาหมอเทศข้างลาย หรือแม้แต่ปลานิลน้ำเค็มมาก่อน ซึ่งทุกครั้งก็นำไปสู่คำถามเดียวกันว่าการอนุญาตให้นำเข้าในเวลานั้นได้อย่างไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปดูรายละเอียดการอนุญาตหรือไม่ ไม่นับกับการที่เงื่อนไขการนำเข้าก็อ่อนเกินไปและยังทำได้ไม่ครบถ้วนด้วยซ้ำ ทำให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการทบทวนทั้งเงื่อนไขการอนุญาตต่อไปในอนาคต

ณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ทุกฝ่ายที่เสนอญัตติเข้ามาก็เพื่อต้องการเสนอทางแก้ไขให้รัฐบาล ที่ผ่านมาหน่วยงานหลายหน่วยมีความพยายามในการดำเนินมาตรการต่างๆ หลายเรื่องก็ทำไปแล้ว แต่อีกหลายเรื่องยังไม่ได้ทำหรือติดขัดบางด้าน ซึ่งหากรัฐบาลสามารถจัดลำดับความสำคัญและจัดกลุ่มในการปฏิบัติได้ดีกว่านี้ ก็อาจจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ณัฐพงษ์จึงมีข้อเสนอเบื้องต้นในการแก้ไขปัญหา ได้แก่

1. ‘การจำกัดพื้นที่’ ตอนนี้ปลาหมอคางดำระบาดไปแล้วถึง 17 จังหวัด และมีอัตราการระบาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่จำกัดพื้นที่ก็จะมีการขยายไปเรื่อยๆ หากรัฐสามารถรวบรวมข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ โดยให้ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมแจ้งได้ว่ามีปลาหมอคางดำระบาดที่ไหนบ้าง รวมทั้งการแจ้งความเดือดร้อนเข้ามารวบรวมเป็นข้อมูลขึ้นมาได้ ก็จะช่วยการแก้ปัญหาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ เพราะถ้าหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ได้ข้อมูลที่ถูกต้องก็จะเกิดความตื่นตระหนกอย่างในปัจจุบัน

2. ‘การจำกัดการขยายพันธุ์’ ซึ่งต้องมีการศึกษา ทุกวันนี้เรารู้จักปลาหมอคางดำน้อยเกินไป ข่าวลือต่างๆ ที่ปรากฏตามข่าวก็ไม่รู้ว่าเป็นจริงเท็จแค่ไหน การปล่อยปลานักล่าก็ต้องศึกษาว่าควรปล่อยขนาดเท่าไหร่ เหมาะสมกับการแก้ปัญหาแบบไหน  ไม่ใช่เพียงการทำเป็นอีเวนต์แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง มีกระบวนการประเมินผลว่าได้ผลดีอย่างไรและมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน

3. ‘การศึกษาวิจัยอย่างจริงจังและเป็นวิทยาศาสตร์’ โดยเฉพาะในกรณีการเหนี่ยวนำโครโมโซมเพื่อทำให้เป็นหมัน จะต้องมีการค้นคว้าวิจัยอย่างจริงจังมากกว่านี้ เพราะถ้าไม่มีข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นแทน

4. ‘การขอความรู้จากต่างประเทศ’ เพราะประเทศไทยไม่ใช่ประเทศแรกที่มีการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ควรมีการเรียนลัด ใช้บทเรียนจากต่างประเทศมาปรับใช้ในการแก้ปัญหา ศึกษาขอความรู้ว่าวิธีการต่างๆ ที่เคยใช้มา อย่างการใช้สารเคมีหรือการช็อตไฟฟ้าที่เคยมีการทำมาในต่างประเทศ สามารถนำมาใช้ได้ในบริบทประเทศไทยได้หรือไม่ หรือต้องใช้วิธีการอื่น หากมาทำในประเทศไทยมีความเหมาะสมหรือติดขัดอะไรหรือไม่ หรือแท้กระทั่งนำไปแปรรูปเป็นซูริมิ

5. ‘การเยียวยา’ ซึ่งไม่ใช่สิ่งเดียวกับการรับซื้อ การรับซื้อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนไปจับปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำ แต่การเยียวยาคือการชดเชยในสิ่งที่ประชาชนได้รับผลกระทบต่างหาก

6. ‘การเอาผิดผู้ทำให้เกิดการแพร่ระบาด’ โดยใช้กระบวนการต่างๆ ในการแสวงหาข้อเท็จจริง หาผู้กระทำความผิดมารับผิดชอบ ซึ่งตนหวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการคลี่คลาย ว่ากระบวนการใดที่เป็นสาเหตุในการทำให้ปลาหมอคางดำระบาดจนเกิดผลกระทบเป็นวงกว้างเช่นนี้

7. การจับตาสายพันธุ์เอเลียนสปีชีส์อื่น ว่ามีสายพันธุ์ต่างถิ่นอะไรอีกบ้าง ที่มีโอกาสแพร่ระบาดแบบปลาหมอคางดำ มีสายพันธุ์ใดที่ต่างประเทศขึ้นบัญชีไว้แล้วแต่ประเทศไทยยังไม่ได้ขึ้นบัญชีบ้าง และมีกฎหมายอะไรบ้างที่มีความหละหลวมและช่องโหว่ที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ต่างถิ่นได้บ้าง
ณัฐพงษ์ ยังกล่าวต่อว่า ปัญหาปลาหมอคางดำนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ผ่านมาถึง 8 อธิบดีกรมประมง และ 7 รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องนี้จะจบลงในยุคสมัยของรัฐบาลนี้ เพราะประชาชนและประเทศชาติทนรับความเดือดร้อนต่อไปไม่ไหวแล้ว

‘ณัฐชา’ จี้จะครบ 7 วัน รัฐบาลตั้งคณะกรรมการหาข้อเท็จจริง เบิกงบกลางช่วยเกษตรกร

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กรุงเทพฯ เขต 27 พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายเสนอญัตติขอให้สภาผู้แทนฯ ส่งข้อเสนอในการแก้ไขการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ โดยระบุว่าวันนี้ในสังคมไทยมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าสาเหตุการระบาดของปลาหมอคางดำนั้น อาจจะมาจากกลุ่มทุนใหญ่บ้าง มาจากการนำเข้าที่ผิดกฎหมายบ้าง พร้อมคำถามว่าสุดท้ายแล้วมันจะจบเหมือนกับกรณีหมูเถื่อนเมื่อสมัยรัฐบาลที่แล้วหรือไม่ ที่ไม่มีใครรับผิดชอบ และไม่มีการออกมาระบุถึงต้นตอและสาเหตุของการระบาด

ณัฐชา กล่าวว่า จนถึงวันนี้ รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ว่าที่ไปที่มาของการระบาดในบ่อของประชาชนเกิดขึ้นได้อย่างไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่ามีเอกชนผู้รับอนุญาตอยู่เพียงรายเดียว ฝ่ายเอกชนก็ยืนยันว่าทำตามเงื่อนไขทุกอย่าง แต่หน่วยงานกำกับดูแลกลับบอกว่าไม่ได้รับตามเงื่อนไขนั้น จึงนำไปสู่ความพยายามของตนในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ในการตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาฯ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัทเอกชนมาให้ข้อมูล แต่ฝ่ายนิติบัญญัติก็ทำได้เพียงขอความร่วมมือ จะได้ความร่วมมือหรือไม่ก็แล้วแต่ดุลพินิจของแต่ละฝ่าย

สส.กรุงเทพฯ กล่าวต่อว่า แต่แม้วันนี้จะยังไม่มีการระบุถึงต้นตออย่างเป็นทางการเกิดขึ้น และอนุกรรมาธิการก็ยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ แต่ตนขอสรุป ณ ที่นี้เลยว่านี่คือปลาเถื่อน และนักวิชาการหลายสำนักยืนยันตรงกันว่าการระบาดของปลาหมอคางดำครั้งนี้เป็นการระบาดของสายพันธุ์ต่างถิ่นครั้งที่รุนแรงที่สุด

ณัฐชา อภิปรายต่อว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีระบุว่าจะต้องตามหาความจริงให้ได้ มีการตั้งคณะกรรมการหาข้อเท็จจริงภายใน 7 วันเมื่อวันศุกร์ที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา วันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) จะครบ 7 วันแล้ว ตนอยากได้คำตอบจากหน่วยงานฝ่ายรัฐบาล ว่ามีข้อมูลมากน้อยแค่ไหนว่าใครคือต้นตอสาเหตุกันแน่

“นี่คือสิ่งที่ประชาชนต้องการ เรื่องปล่อยปลาจับปลาทำเมนูเขารับทราบหมดแล้ว แต่วันนี้เขาสงสัยว่าใครมาทำลายอนาคตของลูกหลานเขา” ณัฐชา กล่าว

ณัฐชา อภิปรายว่า แม้วันนี้รัฐบาลจะมีมาตรการต่างๆ ออกมาเต็มไปหมด รวมทั้งการรับซื้อ แต่เมื่อดูเม็ดเงินงบประมาณที่จะมีการตั้งไว้ถึง 50 ล้านบาท หากคำนวณจริงๆ แล้วจะรับซื้อได้ 2.5 ล้านกิโลกรัม แต่จากสถานการณ์ล่าสุด การประมาณการที่จับได้ที่สมุทรสาครจังหวัดเดียวก็เป็นแสนกิโลกรัมแล้ว ถึงวันนี้รวมกัน 5 แสนกิโลกรัม ถ้าจับไปเรื่อยๆ ก็เป็นไปได้ว่าสมุทรสาครจังหวัดเดียวจะจับได้ถึง 2.5 ล้านกิโลกรัมก็เป็นไปได้ งบประมาณนี้จะเพียงพอกับ 17 จังหวัดได้อย่างไร

ณัฐชา จึงขอเสนอว่า วันนี้รัฐบาลจะตัองรีบอนุมัติงบประมาณรายจ่ายกลางลงมาได้แล้ว รวมทั้งในการเยียวยาช่วยเหลือวันนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติได้หรือไม่ กรมประมงถามกรมบัญชีกลางไปแล้ว แต่วันนี้ยังรอหนังสืออยู่ แต่คำถามคือระหว่างที่รอหนังสืออยู่นี้ มีการระบาดไปกี่ล้านตันแล้ว ทุกวินาทีวันนี้มีความหมาย และวินาทีต่อจากนี้ไปรอไม่ได้อีกแล้ว

ณัฐชา ระบุว่า ถ้าวันนี้รัฐบาลไม่เร่งอนุมัติงบประมาณมาช่วยเกษตรกร เรื่องนี้จะไม่ใช่ปัญหาของประเทศไทยเพียงอย่างเดียว แต่จะกลายเป็นปัญหาระดับภูมิภาค มาตรการต่างๆ วันนี้ชัดเจนถูกต้องแล้ว แต่ผิดเวลา เพราะเป็นมาตรการที่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว สิ่งที่วันนี้ต้องทำเร่งด่วนก็เพราะ 1 ใน 17 จังหวัด มีจังหวัดตราด และเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดออกไปยังประเทศกัมพูชา

ณัฐชา กล่าวต่อว่า นี่คือเหตุผลที่รอไม่ได้ ต้องดำเนินการเลยวินาทีนี้ โดยการแบ่งมาตรการออกเป็น 3 ระดับ ตั้งแต่

1. ธงแดง ประกาศเขตจังหวัดที่มีการระบาดรุนแรง ให้อนุญาตอุปกรณ์การจับปลาทุกชนิด ซึ่งประกาศของกรมประมงสามารถอนุญาตได้ 2. ธงเหลือง ให้ใช้มาตรการปล่อยปลาสายพันธุ์นักล่า โดยมีการควบคุมไม่ให้เกิดการจับปลานักล่าขึ้นมา และ 3. ธงเขียว คือการเป็นเขตเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้มีการระบาดกลับมาอีกครั้ง

สส.พรรคก้าวไกล ระบุต่อว่า ถ้ารัฐบาลสามารถแบ่งมาตรการให้มีความชัดเจนได้เช่นนี้ โดยคณะทำงานในแต่ละจังหวัดเป็นผู้พิจารณามาตรการที่เหมาะสม ก็จะทำให้เกิดแนวทางที่ชัดเจนขึ้นมาได้ นี่เป็นเรื่องที่ช้าแม้แต่วินาทีเดียวไม่ได้แล้ว เกษตรกรวันนี้ตายรายวัน การเยียวยาช่วยเหลือท่านต้องเร่งอนุมัติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประกาศเขตภัยพิบัติและเร่งเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรก่อนโดยด่วน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net