Skip to main content
sharethis

กระทรวงการคลังแถลงการแจกเงินสด 10,000 บาทให้กลุ่มเปราะบางและคนพิการที่จะเริ่ม 25-27 และ 30 ก.ย.นี้เบื้องต้น 14.5 ล้านคนก่อน ไม่กังวลว่าเป็นเงินสดแล้วจะถูกใช้อย่างไร ย้ำยังมีดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอนเป็นเฟสสอง พร้อมเปิดช่องทางเว็บไซต์เพื่อใช้ตรวจสอบสิทธิ์แค่กรอกเลขบัตรประชาชน

17 ก.ย.2567 ยูทูป ทำเนียบรัฐบาล ถ่ายทอดสดแถลงข่าวรายละเอียดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในเช้าวันนี้ ในการแถลงระบุถึงช่วงวันโอนเงินสดเข้าบัญชีในกลุ่มเปราะบางและคนพิกา รวมถึงเหตุผลที่ให้กลุ่มเปราะบางและคนพิการก่อนและตอบคำถามในประเด็นเรื่องที่แจกเป็นเงินสดแล้วจะไม่ได้ถูกใช้ตามเป้าหมายหรือไม่ 

พิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแถลงว่าเนื่องจากประชาชนมีหนี้สินเยอะและเศรษฐกิจขณะนี้ยังไม่ดีขึ้นจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะของบประมาณเพิ่มเติมในปี 2567 แล้วก็ต้องรีบใช้แล้วโดยการเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่จะเข้าไปถึงประชาชนในเดือนกันยายนนี้

รมว.คลังกล่าวว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายทีจะได้รับการเติมเงินเข้าไปมีจำนวนไม่เกิน 14,555,240 ราย ประกอบด้วยกลุ่มผู้มีสวัสดิการแห่งรัฐที่ทำการยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว ณวันที่ 31 ส.ค.2567 จำนวน 12,405,954 ราย และกลุ่มคนพิการที่มีบัตรประจำตัวจำนวน 2,149,286 ณ วันที่ 31 ส.ค.2567

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เสริมในเรื่องนี้ว่าสำหรับกลุ่มคนพิการจะได้รับโดยไม่มีกรอบเรื่องจำนวนเงินฝากและรายได้ เพียงแค่เป็นคนพิการที่ได้ลงทะเบียนกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เท่านั้นก็จะได้รับการเติมเงิน 10,000 บาทเข้าไปในบัญชีเดียวกับที่ได้รับเงินช่วยเหลือรายเดือนอยู่แล้ว

แหล่งที่มาของเงินงบประมาณที่นำมาใช้ในโครงการและสัดส่วนการใช้ในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย

จุลพันธ์ สำหรับการตรวจสอบสิทธิจะมีเว็บไซต์ให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบได้ว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะรับเงินในรอบนี้หรือไม่โดยการกรอกเลขบัตรประชาชน โดยจะเริ่มให้เข้าไปตรวจสอบได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.2567 เป็นต้นไป

พิชัยกล่าวว่าจากงบประมาณที่ผ่านสภามาทำให้ ครม. อนุมัติโครงการไปหลายโครงการแล้วและก็ได้เงินเข้ามาพร้อมสำหรับโครงการแล้ว ส่วนการจ่ายจะทำให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้เริ่มต้นวันที่ 25 ก.ย. แต่ขีดความสารถการจ่ายจะสามารถทำได้วันละ 4.51 ล้านคนจึงต้องแบ่งการจ่ายออกเป็น 4 วัน 25-27 ก.ย. และอีก 1 วันคือวันที่ 30 ก.ย. เนื่องจาก 28-29 ติดเสาร์อาทิตย์แต่การจ่ายเงินจำนวนมากต้องมีคนดูแลระบบใกล้ชิด

จุลพันธ์ กล่าวเสริมว่าตามเวลาที่แจ้งไว้ว่าจะโอนชวง 25-30 ก.ย.นี้ กระบวนการที่จะต้องผูกพร้อมเพย์ก่อนหากใครยังตกหล่นหรือบัญชีมีปัญหาในช่วงวันที่แจ้งไว้ทางรัฐบาลก็จะมีการโอนซ้ำอีก 3 ครั้ง ครั้งแรกในวันที่ 22 ต.ค. ครั้งที่สอง 22 พ.ย. และครั้งที่สาม 22 ธ.ค. เพื่อให้ประชาชนมีเวลาในการไปดำเนินการผูกพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคารที่มีอยู่แล้วหรือถ้ายังไม่มีก็เปิดบัญชีใหม่ โดยงบส่วนนี้จะเป็นงบที่เหลือก็จะกันค้างไว้ให้

พรชัยฐีระเชว ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่าจากการประเมินแล้วกลุ่มที่แจกให้นี้เป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยและมีการใช้จ่ายสูงก็จะกระตุ้นเศรษฐฏิจได้อย่างเร็วและเป็นรูปธรรมที่สุดมีผลต่อเศรษฐกิจร้อยละ 0.35 ต่อ GDP และยังทำให้คุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบางที่ได้รับเงินส่วนนี้จะได้รับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายแล้วดีขึ้น ซึ่งกลุ่มเปราะบางมีแนวโน้มจะนำเงินที่ได้ไปในส่วนนี้ใช้ถึง 90% ที่ได้ไปหรือถ้าหากนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบมันก็ทำให้เงินเปลี่ยนมือไปและคนที่เป็นหนี้ก็จะปลอดหนี้แล้วทำให้เงินที่จะเคยนำไปจ่ายหนี้ถูกนำมาใช้อย่างอื่นแทน

ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่าการเปลี่ยนรูปแบบจากดิจิทัลวอลเล็ตมาเป็นแบบนี้ก็เพื่อแลกกับความรวดเร็วขึ้นจากเดิมที่ต้องไปพัฒนาระบบแล้วจ่ายในช่วงปลายปีก็จะมีผลต่อสภาพเศรษฐกิจมากขึ้นเพราะคนกลุ่มนี้ใช้จ่ายเร็วและจะใช้จนหมดแม้ว่าจะทำให้เป้าหมายต้องเปลี่ยนไปบ้างก็ตาม

ปลัดคลังกล่าวต่อว่า ปีนี้กระทรวงการคลังก็ได้ปรับเป้าหมาย GDP เพิ่มขึ้นเป็น 2.7%  เพราะเริ่มเห็นทิศทางที่ดีทำให้ตอนนี้ต้องรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจจึงเป็นเหตุที่เอาเงินเข้ามากระตุ้นตั้งแต่ช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงปลายปีเพื่อทำให้เป็นแรงส่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ในระยะที่ยาวขึ้น

จุลพันธ์ยังยืนยันว่านอกจากการเติมเงินให้กลุ่มเปราะบางแล้วก็ยังจะมีในส่วนของการเติมเงินให้กับประชาชนผ่านดิจิทัลวอลเล็ตอยู่เพราะว่าการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลยังเป้นเป้าหมายหลักของรัฐบาลที่จะพัฒนาให้มีความสามารถแข่งขันได้ในระยะยาว ซึ่งในส่วนของเฟส 2 ยังไม่ได้พูดถึงในการประชุม นอกจากนั้นส่วนของแอพพลิเคชั่นก็ยังพัฒนาไม่เสร็จแต่ก็พอจะมีกรอบเวลาที่พอจะเห็นภาพแล้วว่าเสร็จเมื่อไหร่

จุลพันธ์ตอบนักข่าวด้วยว่ายกรัฐมนตรีจะตั้งคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาดูโดยเฉพาะส่วนของงบประมาณที่มีอยู่ในมือและโครงการที่จะเดินหน้าต่อ รวมไปถึงดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะให้ความสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มเปราะบางก่อนเป็นลำดับแรกและเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตตามนโยบายที่แถลงไป

เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง สำหรับจำนวนคนในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตตอนนี้มีทั้งหมด 36 ล้านคน ก็จะมีการตัดคนที่มีเงื่อนไขไม่ครบออกอย่างเช่นมีเงินฝากเกินหรือกลุ่มที่ได้รับเงินจากรอบนี้ไปแล้วออก ส่วนที่ต้องเลื่อนให้กับประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนแม้ว่าจะมีความพร้อมแล้วในการให้ไปลงทะเบียนกับทางธนาคารต่างๆ เพราะว่าไม่ต้องการให้ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเปราะบางนี้เนื่องจากมีความซ้ำซ้อนกันอยู่สูงมากจึงให้กลุ่มเปราะบางลงทะเบียนรับก่อนแล้วจึงจะมีการประกาศวันลงทะเบียนสำหรับคนไม่มีสมาร์ทโฟนอีกครั้ง

ช่องทางหลักในการตรวจสอบสิทธิและผลการได้รับเงินในโครงการ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

  • เว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th
  • เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th
  • เว็บไซต์ https://govwelfare.dep.go.th/check (เฉพาะคนพิการ)
  • แอปพลิเคชัน "รัฐจ่าย" (โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)
  • ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทร. 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

  • คนพิการ
    • ศูนย์ช่วยเหลือสังคม พม. โทรศัพท์สายด่วน (Call Center) 1300
    • พก. โทร. 0 2354 3388 ต่อ 701 - 702 (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ)
    • ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบสถานที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ของศูนย์บริการคนพิการแต่ละแห่งได้ทางเว็บไซต์ www.dep.go.th/th/contact-us/dsc-contactcenter
    • อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
  • ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
    • ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0 2109 2345 ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
    • Call Center กรมบัญชีกลาง โทร. 0 2270 6400 ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net