Skip to main content
sharethis

FIFPRO ยุโรป เผยแผนปฏิวัติความปลอดภัยในสนามฟุตบอล จากความรุนแรงของฝูงชนและการบุกรุกสนามฟุตบอล หวังยุติการแบนแฟนบอลทั้งกลุ่ม เช่นการแบนแฟนบอลทีมเยือน ชี้ 40% ของนักเตะเสี่ยงภัยจากความรุนแรง เร่งผลักดันเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อปกป้องทั้งนักเตะและแฟนบอล


ที่มาภาพ: FIFPRO

เมื่อช่วงเดือน ก.ย. 2024 สหพันธ์นักฟุตบอลนานาชาติ (FIFPRO) รายงานว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงจากฝูงชนและการบุกรุกสนามฟุตบอลที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่นักฟุตบอลต้องเผชิญ ตาม 'รายงานความปลอดภัยในที่ทำงานของ FIFPRO ปี 2023' (FIFPRO Workplace Safety Report 2023) พบว่านักฟุตบอลเกือบ 40% ต้องเผชิญกับสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงความรุนแรงและการล่วงละเมิดจากแฟนฟุตบอล

FIFPRO ยุโรป เน้นย้ำว่าถ้าเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงการแบนแฟนฟุตบอล และควรจัดสรรทรัพยากรไปที่การปรับปรุงระบบการเฝ้าระวังมากกว่า

"ฟุตบอลเป็นกีฬาที่หยั่งรากลึกในความหลงใหลและพลังของแฟนบอล - นักฟุตบอลเติบโตจากการมีส่วนร่วมของแฟนบอล และแฟนบอลทีมเยือนสร้างบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับเกม" โยอาคิม วอลล์ติน (Joachim Walltin) เลขาธิการ FIFPRO ยุโรปกล่าว ทั้งนี้เขาเคยเล่นฟุตบอลอาชีพในนอร์เวย์เป็นเวลา 15 ปี

"การไม่มีแฟนบอลทีมเยือน ไม่เพียงแต่ลดทอนประสบการณ์ของนักฟุตบอล แต่ยังลดจิตวิญญาณการแข่งขันที่เป็นเอกลักษณ์ของฟุตบอล การแบนโดยรวมทำให้นักฟุตบอลสูญเสียการสนับสนุนทางอารมณ์และจิตใจที่สำคัญที่พวกเขาได้รับจากฐานแฟนบอล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลงานในสนาม" วอลล์ติน กล่าว

ผลักดันเทคโนโลยีเพื่อปกป้องทั้งนักเตะและแฟนบอล


ที่มาภาพ: FIFPRO

โดยอ้างอิงจากผลการศึกษาสำคัญของรายงานความปลอดภัยในที่ทำงานของ FIFPRO, FIFPRO ยุโรปกำลังได้แนวทางที่สร้างความสมดุลระหว่างการปกป้องนักฟุตบอล และการรักษาความสมบูรณ์ของการแข่งขันฟุตบอล ไว้ดังนี้:

ระบบตั๋วส่วนบุคคล

การใช้ระบบตั๋วส่วนบุคคลที่เชื่อมโยงตั๋วแต่ละใบกับบุคคลเฉพาะ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามและตรวจสอบแฟนบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ที่รับผิดชอบต่อพฤติกรรมรุนแรงหรือล่วงละเมิดจะถูกดำเนินการโดยไม่ต้องลงโทษแฟนบอลทั้งหมด

การเฝ้าระวังด้วยกล้องและ CCTV

การติดตั้งระบบ CCTV คุณภาพสูงในสนามกีฬาสมัยใหม่ที่สามารถให้หลักฐานชัดเจนของการประพฤติมิชอบ และสามารถใช้ภาพเพื่อระบุตัวบุคคลที่มีพฤติกรรมที่เป็นอันตราย

การใช้เทคโนโลยีใหม่

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น ซอฟต์แวร์จดจำใบหน้าและแอปพลิเคชันรายงานบนสมาร์ทโฟน เปิดโอกาสใหม่ในการเพิ่มความปลอดภัยของสนามกีฬา ซึ่งสามารถช่วยในการระบุตัวผู้กระทำผิดแบบเรียลไทม์และอำนวยความสะดวกในการรายงานต่อเจ้าหน้าที่อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

"FIFPRO ยุโรปเชื่อว่า หากเป็นไปได้ ควรลงโทษเป็นรายบุคคลมากกว่าเป็นกลุ่ม การแบนรายบุคคล การปรับ และการดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดมีแนวโน้มที่จะยับยั้งเหตุการณ์ในอนาคตได้มากกว่าการแบนทั้งหมด ซึ่งมักจะทำให้แฟนบอลที่ประพฤติตัวดีรู้สึกแปลกแยก" วอลล์ติน กล่าว

"สิ่งสำคัญคือหน่วยงานฟุตบอล หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และสโมสรต้องร่วมมือกันเพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมายจะถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ กับผู้ที่รับผิดชอบต่อความรุนแรงหรือการล่วงละเมิด ในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแบนโดยรวมได้ ควรนำมาใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายและเฉพาะในกรณีที่ไม่มีทางเลือกอื่นที่เป็นไปได้ในการปกป้องความปลอดภัยของนักฟุตบอลและแฟนบอลเท่านั้น" วอลล์ติน กล่าว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

รายงานความปลอดภัยในที่ทำงานของ FIFPRO

รายงานความปลอดภัยในที่ทำงานของ FIFPRO ฉบับล่าสุด ซึ่งเผยแพร่ในเดือน ม.ค. 2024 ชี้ให้เห็นถึงขนาดและผลกระทบของความรุนแรงและการล่วงละเมิดโดยแฟนบอลต่อนักฟุตบอลอาชีพ รายงานนี้อ้างอิงจากการสัมภาษณ์นักฟุตบอล ซึ่งสำรวจโดยสหภาพแรงงานนักฟุตบอล 41 ประเทศ

ผลการสำรวจได้รับการสนับสนุนจากรายงานการติดตามสถานะของคณะกรรมการสภายุโรป (Council of Europe committee) ภายใต้อนุสัญญาแซงต์-เดนีส์ (Saint-Denis Convention) ที่เผยแพร่ในเดือน พ.ย. 2023 ซึ่งระบุว่าจำนวนการจับกุมแฟนกีฬาระหว่างการแข่งกีฬา โดยเฉพาะในลีกฟุตบอลระดับสูงสุด "มีจำนวนมากและอาจถือว่าเป็นปัญหาที่กำลังเติบโต"

การใช้พลุไฟหรือขว้างปาสิ่งของเป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นพิเศษ แต่การกระทำรุนแรงยังรวมถึงการที่นักฟุตบอลถูกโจมตีโดยผู้บุกรุกสนาม หรือถูกกลั่นแกล้งจากอัฒจันทร์

ในขณะที่ 85% ของสมาชิกสหภาพแรงงานนักฟุตบอลที่ตอบแบบสอบถาม เห็นด้วยว่า "ในกรณีส่วนใหญ่ ความสัมพันธ์ระหว่างแฟนบอลและนักฟุตบอลเป็นไปในทางบวกอย่างมากและควรได้รับการทะนุถนอม" 76% กล่าวว่าความปลอดภัยในที่ทำงานเป็นความกังวลที่เพิ่มขึ้นสำหรับนักฟุตบอลอาชีพ และ 66% รู้สึกว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วัฒนธรรมแฟนบอลบางส่วนได้ "กลายเป็นความรุนแรงและการล่วงละเมิดมากขึ้นเรื่อย ๆ"


ที่มา:
FIFPRO Europe urges Council of Europe to consider negative impacts of collective bans on away fans (FIFPRO, 23 September 2024) 
 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net