Skip to main content
sharethis

จับนักศึกษาไทยในไทเปเป็นนายหน้าเถื่อน หลอกคนไทยถือฟรีวีซ่ามาทำงานที่ไต้หวัน ไม่ถึงปีมีคนไทยหลงเชื่อจ่ายคนละ 50,000 บาท มาเป็นแรงงานผิดกฎหมายแล้วกว่า 60 คน


ที่มาภาพ: Radio Taiwan International

เมื่อช่วงต้นเดือน ต.ค. 2567 Radio Taiwan International รายงานว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรุงไทเปแถลงว่า สืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2567 ที่ผ่านมา มีสองสามีภรรยาชาวไทยคู่หนึ่ง เดินทางเข้าไต้หวันในฐานะนักท่องเที่ยว แต่อยู่เลยกำหนดและถูกนายหน้าคนไทยพาไปทำงานในโรงงานครอบครัวที่มีสภาพการทำงานย่ำแย่ คิดค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง หลังถูกนายหน้าหักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือเพียงชั่วโมงละ 20 เหรียญเศษ จึงหนีออกจากโรงงาน มาร่อนเรพเนจรอยู่ในกรุงไทเป เนื่องจากไม่มีเงินติดตัวและสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง หลังจากอดอยากอยู่หลายวัน ชาวไทยทั้งสองจึงตัดสินใจเดินเข้าไปมอบตัวที่สถานีตำรวจ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรุงไทเปได้รับแจ้งจากสถานีตำรวจรับคนไทยทั้งสองไปสอบปากคำ จึงทราบว่ามีนายหน้าที่เป็นคนไทยชักชวนมาทำงานที่ไต้หวัน จากข้อมูลที่คนไทยทั้งสองให้การ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรุงไทเปได้จัดส่งตำรวจนอกเครื่องแบบไปติดตามตรวจสอบนายหน้าเถื่อนแก๊งนี้นานหลายเดือน จนมีข้อมูลหลักฐานชัดเจน เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สนธิกำลังตำรวจท้องที่เข้าจู่โจมตรวจค้นพร้อมกันหลายเมือง ทั้งในจีหลง ไทจงและจางฮั่ว สามารถทลายเครือข่ายนายหน้าเถื่อนแก๊งนี้ได้ จับกุมนางสาวอมรรัตน์ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นนักศึกษาไทยที่มาเรียนภาษาในศูนย์สอนภาษาจีนมหาวิทยาดังทางภาคเหนือแห่งหนึ่ง และเป็นหัวหน้าแก๊ง รวมถึงล่ามที่เป็นลูกสมุน โชเฟอร์รับส่งคนงานและนายจ้างที่ว่าจ้างชาวต่างชาติอย่างผิดกฎหมายกว่า 10 คน ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งดำเนินคดีข้อหาค้ามนุษย์และฝ่าฝืนกฎหมายการจ้างงาน ขณะเดียวกันได้ขยายผลการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อติดตามผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป

จากการตรวจสอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรุงไทเปพบว่า หัวหน้าแก๊งนายหน้าเถื่อนดังกล่าว เป็นหญิงไทยหน้าตาดีและมีผู้ติดตามในสื่อโซเชียลเยอะพอสมควร มักจะโพสต์รถหรู กระเป๋าแบรนด์เนมและเงินสดเป็นฟ่อนอวดความร่ำรวยในเฟซบุ๊กเสมอ โดยนางสาวอมรรัตน์เล็งเห็นภาวะขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรงของนายจ้างทางภาคกลาง จึงอาศัยการเดินทางมาเรียนภาษาจีนบังหน้า แล้วใช้เฟซบุ๊กโฆษณาชวนเชื่อคนไทยที่ไม่รู้กฎหมายไต้หวันและอยากหางานทำ เสียแค่ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าทำเรื่องเพียง 50,000 บาท สามารถมาทำงานในไต้หวันได้ รับประกันมีงานให้ทำแน่นอน มีคนไปรับที่สนามบินส่งไปรายงานตัวยังสถานที่ทำงาน มีที่พักและอาหาร ให้บริการแบบครบวงจร ทำธุรกิจผิดกฎหมายนี้ไม่ถึงปี มีคนไทยหลงเชื่อเดินทางมาทำงานตามคำชักชวนแล้ว 60-70 คน คาดได้กำไรจากการขูดรีดเพื่อนร่วมชาติสูงกว่า 1 ล้านเหรียญไต้หวัน

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรุงไทเปยังตรวจพบว่า คนไทยที่หลงเชื่อคำชักชวนของนายหน้าเถื่อนแก๊งนี้ หลังเดินทางเข้าไต้หวันจะถูกพาไปทำงานจริงตามที่รับประกัน แต่เป็นงานหนักและโรงงานครอบครัวที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานแย่มาก เครื่องจักรเก่า ๆ เสี่ยงต่อความปลอดภัย แถมยังถูกนายจ้างที่ว่าจ้างอย่างผิดกฎหมายด่าและหักเงินสารพัดรายการ สุดท้ายเหลือเงินไม่มากนัก อย่างคู่สามีภรรยาที่เข้ามอบตัว ได้รับค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง หลังถูกหักเหลือเพียงชั่วโมงละ 20 เหรียญเศษ บางคนทนไม่ไหวหนีจากนายจ้าง แต่ไม่รู้จะไปพึ่งใคร จะกลับบ้านก็ไม่มีเงินเสียค่าปรับที่แพง จึงใช้วิธีหนีต่อไป บางรายตั๋วเครื่องบินเที่ยวกลับยังเป็นตั๋วปลอมด้วย ขณะที่ส่วนใหญ่ต้องแบกรับภาระหนี้สินที่กู้ยืมมาเป็นค่านายหน้า จำต้องอดทนสู้ต่อไป ซึ่งต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ นางสาวอมรรัตน์ก็จะโพสต์ข้อความให้กำลังใจ ในทำนองขอให้อดทนสู้เพื่อครอบครัว แต่เงินที่ได้จากหยาดเหงื่อความอดทนในการทำงานของผีน้อยไทย ส่วนใหญ่เข้ากระเป๋าของนายหน้าเถื่อนเหล่านี้

เฉินฮั่นผิง ผอ. สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรุงไทเปกล่าวเตือนว่า นายจ้างที่ว่าจ้างชาวต่างชาติเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงแรงงาน ต้องระวางโทษปรับสูงสุด 750,000 เหรียญ สำหรับนายหน้าหรือบริษัทจัดหางานที่จัดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าไต้หวัน ผิดวัตถุประสงค์ในการเดินทาง ต้องระวางโทษปรับ 200,000-1,000,000 เหรียญไต้หวัน หากกระทำการเป็นขบวนการในเชิงพาณิชย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับเงินไม่เกิน 1,200,000 เหรียญไต้หวัน ผู้ให้ที่พักพิงแก่ชาวต่างชาติเพื่อทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 60,000-300,000 เหรียญ จัดให้ชาวต่างชาติลักลอบเข้าไต้หวัน หรือจัดให้ชาวต่างชาติที่ถูกศาลสั่งห้ามออกนอกประเทศเดินทางออกจากไต้หวัน ต้องระวางโทษจำคุก 1-7 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 เหรียญไต้หวัน ช่วยเหลือชาวต่างชาติที่ถูกศาลสั่งห้ามออกนอกประเทศปลอมแปลงเอกสารการเดินทางเพื่อเดินทางออกจากไต้หวัน ต้องระวางโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 90,000 เหรียญไต้หวัน และหากใช้วิธีขู่เข็ญบังคับให้ทำงาน ยัดเยียดให้เป็นลูกหนี้ ยึดหนังสือเดินทางหรือขูดรีดผลประโยชน์จากผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก นอกจากถูกตั้งข้อหาค้ามนุษย์ซึ่งมีโทษรุนแรงแล้ว ยังจะโดนข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายการจ้างงานด้วย ผอ. สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรุงไทเปกล่าวเรียกร้องร่วมด้วยช่วยกัน หากพบเห็นมีนายจ้างหรือนายหน้าจัดหางานผิดกฎหมาย แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อทำการกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ พร้อมทั้งเอาผิดนายจ้างที่ว่าจ้างชาวต่างชาติอย่างผิดกฎหมาย เป็นการคุ้มครองสิทธิ์อันชอบธรรมในการทำงานของแรงงานท้องถิ่นและแรงงานต่างชาติที่เดินทางมาทำงานอย่างถูกกฎหมาย

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net