ภาพจาก www.thairath.co.th
------------------------------------

ประชาไท -- 23 มิ.ย. 48 "การวางแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2548-2550 มีเป้าหมายในการกำกับดูแลเกี่ยวกับโทรคมนาคมว่าควรเป็นอย่างไร และยังต้องเชื่อมข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อให้เกิดความเสรีในการบริการ ทั้งในWTO,ทวิภาคีตามข้อตกลงเอฟทีเอที่จะทำกับสหรัฐและอีกทุกๆ ประเทศซึ่งกำลังรอให้สหรัฐเป็นแม่แบบอยู่ในขณะนี้" นายกุลิศ สมบัติศิริ รองเลขาธิการกทช. กล่าว

วันนี้คณะอนุกรรมาธิการด้านพลังงาน การสื่อสารและโทรคมนาคม ในคณะกรรมาธิการการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ วุฒิสภา โดย นายอนันตชัย คุณานันทกุล ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้เชิญคณะกรรมาการกิจการโทรคมนาคม(กทช.) บริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และกรรมการในบริษัท ทศท. คอเปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อทราบข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจโทรคมนาคม เนื่องจากกทช.กำลังดำเนินการร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2548-2550 อยู่ในขณะนี้

"สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2550 นั้น จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะการเปิดเสรีจะทำให้มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามา มีการจัดระบบและการกำหนดราคาที่เป็นธรรม เมื่อเราออกใบอนุญาตให้เราก็จะมีหน้าที่เข้าไปดูแลให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้น อีกทั้งเราจะเป็นแรงผลักดันในเวทีระหว่างประเทศอีกด้วย ซึ่งการเจรจาเอฟทีเอกับสหรัฐครั้งที่ 4 ในวันที่ 11 ก.ค.นี้ เราก็จะจัดเวทีเชิญผู้ประกอบการและนำเสนอจุดยืนที่เป็นธรรมเพื่อให้การเจรจาเกิดประโยชน์สูงสุด" นายกุลิศ ชี้แจง

ด้าน นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ อนุกรรมาธิการการแปรรูปฯ ได้เสนอแนะต่อกทช.ว่า แผนแม่บทที่ตั้งไว้ 3 ปี (พ.ศ.2548-2550) เป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไป ควรจะมีแผน 5 ,10 ปี รองรับไว้ด้วย เพราะมีหลายส่วนในเวลาที่สั้นเกินไปจะทำให้ไม่เห็นผลอย่างชัดเจน นอกจากนี้กทช.ควรเน้นเรื่องการพัฒนากิจการโทรคมนาคม โดยลดการนำเข้าและส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตในไทยให้มากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราเลือกที่จะนำเข้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งถ้าเราผลิตเองก็จะสามารถพัฒนาในระยะยาวต่อไปได้

ธิติกมล สุขเย็น