ประชาไท -13 ก.ค.49    มีรายงานข่าวแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้ของแข็งทุบกระจกรถของ น.ส.ศุภวรรณ ชนะสงคราม อายุ 34 ปี เจ้าหน้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย ใน อ.จะนะ สงขลา ขณะที่เดินทางมารับฟังการพิจารณาคดีที่ศาล จ.สงขลา กรณีการสลายการชุมนุมที่หน้าโรงแรมเจบี อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2545 โดยมีกลุ่มชาวบ้านและแกนนำเดินทางมาร่วมรับฟังกว่า 40 คนและมีแกนนำเครือข่ายค้านท่อก๊าซฯที่ตกเป็นจำเลยชุดที่ 2 ในคดีนี้อีก 12 คนและศาลได้นัดสืบพยานโจทย์ในวันเดียวกันนี้

น.ส.ศุภวรรณ เชื่อว่าผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้คงไม่ต้องการชิงทรัพย์ เพราะหากต้องการทรัพย์สินน่าจะทุบกระจกข้างซึ่งง่ายกว่าการทุกกระจกหน้ารถจนร้าวทั้งบาน ซึ่งคงหวังจะข่มขู่ตนเองและไม่พอใจการเคลื่อนไหวของกลุ่มคัดค้านท่อก๊าซฯ ขณะนี้ยังไม่เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน อยากจะรอดูเหตุการณ์ไปก่อน เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีคนเห็นผู้ที่ลงมือทุบรถด้วย

ทั้งนี้ เหตุสลายการชุมนุมที่หน้าโรงแรมเจบี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2545 ในระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯเดินทางมาประชุม ครม.นั้นมีกลุ่มชาวบ้านและเอ็นจีโอตกเป็นจำเลย 2 ชุด โดยชุดแรกศาลได้ยกฟ้องไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังเหลือชุดที่ 2 อีก 12 คนที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี โดยในวันนี้ศาลได้นัดสืบพยานฝ่ายโจทก์

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ศาลได้พิจารณายกฟ้องผู้ต้องหาชุดแรก ปรากฎว่า ทางชาวบ้านเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อก๊าซได้ฟ้องร้องหน่วยงานราชการจำนวน 3 หน่วย คือ จังหวัดสงขลา กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มค้านท่อก๊าซฯที่หน้าโรงแรมเจบีเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุและละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญของประชาชน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลปกครองสงขลาได้พิจารณาเห็นว่าการกระทำของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐานของประชาชน และพิพากษาให้จ่ายค่าเสียหายให้กับชาวบ้านจำนวน 24 คน ในวงเงินคนละ 10,000 บาท