Skip to main content
sharethis

สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ทำหนังสือขอโทษสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ขอโทษกรณีเสนอข่าวพาดพิงนักข่าวไทยพีบีเอสยุชาวบ้านทำลายแนวบิ๊กแบ๊ก ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดและไม่ได้ตรวจสอบกับไทยพีบีเอสเพื่อให้โอกาสได้ชี้แจง เผยตรวจสอบเบื้องต้น สาเหตุเกิดจากการเร่งรีบผลิตออกอากาศ ไม่ตั้งใจดิสเครดิต (16 พ.ย.54) สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของสถานี ชี้แจงกรณีเสนอรายงานปัญหาผลกระทบกระสอบทรายขนาดใหญ่ หรือบิ๊กแบ๊ก ที่อ้างอิงข้อมูลจากชาวบ้านย่านดอนเมืองว่า ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสมีส่วนในการให้ข้อมูลต่อกลุ่มชาวบ้าน จนนำไปสู่การตัดสินใจทำลายแนวบิ๊กแบ๊ก ซึ่งต่อมา สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวนี้ โดยระบุว่า ขออภัยต่อผู้ถูกพาดพิงทั้งผู้สื่อข่าวและต่อองค์กรหรือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่การรายงานอาจทำให้เข้าใจผิดว่า ผู้สื่อข่าวอยู่เบื้องหลังและไม่ได้ตรวจสอบไปยังฝ่ายบริหารของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเพื่อให้โอกาสได้ชี้แจง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าความบกพร่องเกิดจากความเร่งรีบในการผลิตงานเพื่อให้ทันกับการออกอากาศ โดยมิได้มีเจตนาทำลายความน่าเชื่อถือของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสแต่อย่างใด แถลงการณ์ระบุด้วยว่า พร้อมกันนี้ สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามมาตรฐานระเบียบวิชาชีพ และวินัยการทำงานของสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์แล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะระมัดระวังการทำงานให้มากขึ้น โดยเฉพาะการพาดพิงถึงบุคคลที่สามและการให้โอกาสได้ชี้แจงอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเคร่งครัด 0000 แถลงการณ์สปริงนิวส์ถึงไทยพีบีเอส ตามที่มีแถลงการณ์ของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสหรือทีวีไทย กรณีการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ที่อ้างถึงผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส มีส่วนในการยุยงให้ชาวดอนเมืองรวมตัวประท้วงการวางแนวชะลอน้ำหรือบิ้กแบ็ค ซึ่งฝ่ายบริหารไทยพีบีเอสได้มีหนังสือขอคำชี้แจงมายังสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์นั้น ฝ่ายบริหารและคณะบรรณาธิการของสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทันทีที่เกิดขึ้น พบว่ากรณีข่าวชิ้นดังกล่าวเป็นการนำเสนอเบื้องหลังความไม่พอใจของชาวบ้าน จุดกระแสความไม่พอใจบานปลายจนเกิดการรื้อแนวบิ๊กแบ๊ก ซึ่งส่งผลกระทบถึงแผนการบริหารจัดการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เมืองหลวงของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยหรือ ศปภ.และกรุงเทพมหานคร เนื้อหาส่วนใหญ่ในรายงานดังกล่าว เรียบเรียงขึ้นโดยการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากบุคคลและแหล่งข่าวต่างๆ เพื่ออธิบายถึงเหตุแห่งความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยเนื้อหาส่วนหนึ่งได้กล่าวพาดพิงถึงการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสมีส่วนอยู่เบื้องหลัง และไม่ได้ตรวจสอบไปยังฝ่ายบริหารของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเพื่อให้โอกาสได้ชี้แจง ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพที่ควรให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ขอน้อมรับในความบกพร่องที่เกิดขึ้น และขออภัยมาอย่างสูงต่อผู้ถูกพาดพิงทั้งผู้สื่อข่าวและต่อองค์กรหรือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส หากขอยืนยันว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าความบกพร่องดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้สื่อข่าวที่พยายามผลิตชิ้นงานอย่างเร่งรีบเพื่อให้ทันกับการออกอากาศ โดยมิได้มีเจตนาที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ตระหนักดีถึงผลกระทบต่อผู้ถูกพาดพิง โดยเฉพาะมาตรฐานการนำเสนอข่าวขององค์กร จึงมิได้เพิกเฉยต่อข้อผิดพลาดดังกล่าว จึงได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามมาตรฐานระเบียบวิชาชีพ และวินัยการทำงานของสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์แล้ว ทั้งนี้สถานีโทรทีศน์สปริงนิวส์ ขอเรียนว่าการทำหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชนของสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ มีนโยบายชัดเจนที่จะนำเสนอข่าวความจริงโดยปราศจากอคติ โดยให้ความสำคัญกับการติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่ประชาชนให้ความสนใจ ได้รับผลกระทบ หรือได้รับความเดือดร้อนอย่างรอบด้าน โดยไม่เอนเอียงชี้นำหรือให้น้ำหนักกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นกรณีพิเศษ จนได้รับการยอมรับจากผู้ชมทั่วประเทศ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวสปริงนิวส์ทุกคนได้ทำงานหนัก เพื่อติดตามนำเสนอข่าวอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างทุ่มเท เสียสละ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง ทั้งจากพื้นที่ประสบอุทกภัยทุกจังหวัด รวมถึงการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด โดยได้ตัดสินใจปรับผังรายการเพื่ออุทิศพื้นที่และสรรพกำลังทั้งหมดของสถานีในการรายงานข่าวมหาวิบัติอุทกภัย 54 อย่างเต็มกำลัง เพื่อสะท้อนภาพเหตุการณ์จริงในแต่ละพื้นที่อย่างถูกต้องรวดเร็ว ให้ประชาชนจะได้รับทราบสถานการณ์ที่เป็นจริงและเตรียมรับมือกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างครบถ้วน โดยพยายามอย่างที่สุดที่จะจัดระเบียบข้อมูลและการบรรณาธิการอย่างรัดกุมไม่ให้เกิดความสับสน ขัดแย้ง หรือตกไปเป็นเครื่องมือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์จึงขอน้อมรับในความบกพร่องผิดพลาดที่เกิดขึ้น และยืนยันว่า จะระมัดระวังการทำงานให้มากขึ้น โดยเฉพาะการพาดพิงถึงบุคคลที่สามและการให้โอกาสได้ชี้แจงอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเคร่งครัด และจะยืนหยัดในการทำหน้าที่สื่อสารมวลชนที่ตระหนักในความรับผิดชอบ สำนึกถึงประโยชน์ของส่วนรวม มีความเป็นกลางและเป็นธรรมตลอดไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net