Skip to main content
sharethis
 
13 ม.ค. 2556 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ได้ออกแถลงการณ์ต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการเผชิญหน้าอย่างตึงเครียด โดยสมาคมคัดค้านความรุนแรงในทุกรูปแบบ รวมถึงการรัฐประหารใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง
 
0000
 
นับแต่ช่วงปลายปี 2556 จนถึงปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่ของประชาชน ระหว่างรัฐบาลกับประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลและคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) โดยฝ่ายรัฐบาลเห็นว่าประเทศต้องเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็ว ส่วน กปปส.  ได้เรียกร้องให้ปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้งและเสนอให้มีสภาประชาชน ความขัดแย้งครั้งนี้ทำให้ประชาชนได้แบ่งความคิดออกเป็นหลายฝ่าย 
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) และองค์กรตามรายชื่อข้างท้ายนี้ ขอแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยเห็นว่า
 
1. เราขอคัดค้านความรุนแรงทุกรูปแบบความรุนแรงไม่ว่าจะเกิดจากฝ่ายใดไม่อาจยอมรับได้ การส่งเสริมให้เกิดความรุนแรง จะนำไปสู่การเป็นรัฐที่ล้มเหลว เป็นการได้มาซึ่งความยุติธรรมของผู้ชนะ เป็นชัยชนะบนรอยเลือดของประชาชน ส่วนฝ่ายผู้แพ้จะถูกกดขี่อยู่ในสังคม เป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหม่ที่จะรุนแรงกว่าเดิมเพราะไม่อยู่บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกันอีกต่อไป ซึ่งไม่มีประชาชนคนใดประสงค์จะให้เป็นเช่นนั้น ดังนั้น ความรุนแรงจึงต้องไม่เกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใดๆก็ตาม
 
2. การรัฐประหารไม่สามารถนำความสงบคืนสู่สังคมการรัฐประหารไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศในระยะยาวได้ ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วว่าสุดท้ายแล้วประเทศก็จะกลับไปสู่วังวนความขัดแย้งเช่นเดิม อีกทั้ง การรัฐประหารเป็นวิธีการที่ไม่เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย ไม่ไว้วางใจอำนาจของประชาชน ไม่เชื่อมั่นว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิและมีคุณค่าในฐานะมนุษย์เท่าเทียมกัน ไม่เชื่อมั่นว่าประชาชนมีศักยภาพในการเลือกสิ่งที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ เป็นการทำลายความเชื่อในฐานะมนุษย์ของพลเมืองในรัฐนั้นโดยสมบูรณ์
 
3. การเจรจา เป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาโดยไม่เกิดความรุนแรง
ในสถานการณ์ปัจจุบันทุกฝ่ายไม่สามารถหาทางออกที่ดีสุดแก่ฝ่ายของตนได้ หากแต่จะเป็นการสร้างเงือนไข ความรุนแรงในสังคมแทน ทุกฝ่ายต้องไม่เอาความรุนแรง หาหนทางเจรจา สร้างหลักประกันความต้องการของสองฝ่าย พร้อมใจกันปฏิรูปประเทศ ขจัดปัญหาด้านคอรัปชั่น การใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบ ความอ่อนแอของการตรวจสอบ และต้องหาทุกวิธีทางที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งภายในกรอบของระบอบประชาธิปไตย เพื่อธำรงไว้ซึ่งสิทธิทางการเมืองและอำนาจอธิปไตยของประชาชน
 
ด้วยความเคารพในสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.)
มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (Enlaw)
มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.)
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net