Submitted on Fri, 2014-07-11 13:47
11 ก.ค 2557 รศ. ดร. วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะเลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา (CHES) เปิดเผยถึงกรณีปัญหาเรื้อรัง 15 ปีของการบริหารระบบพนักงานมหาวิทยาลัย ว่า ถึงเวลาแล้วที่ คสช. ต้องหันมาคืนความสุขให้พนักงานมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ โดยเฉพาะอาจารย์และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย ที่ปฏิบัติงานในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
รศ. ดร. วีรชัย กล่าวถึงความเป็นมาว่า ในอดีตมีการกำหนดให้บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการในสถาบันอุดมศึกษา มีสถานะเป็นข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ต่อมาในปี พ.ศ. 2542 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้จัดจ้างพนักงานทดแทนอัตราข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย เพื่อรองรับการออกนอกระบบในปี พ.ศ. 2545 โดยให้ได้รับเงินเดือนในอัตราที่มากกว่าข้าราชการ คือ เพิ่มขึ้น 1.7 เท่า สำหรับอาจารย์ และเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า สำหรับบุคลากรสายสนับสนุน โดยจะไม่ได้รับสวัสดิการของระบบข้าราชการเดิม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการกำหนดอัตราพนักงานมหาวิทยาลัย ทดแทนอัตราข้าราชการ และปัจจุบันในสถาบันอุดมศึกษาไม่มีการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาแล้ว โดยจะใช้การบรรจุและแต่งตั้งพนักงานมหาวิทยาลัยทดแทนอัตราข้าราชการเดิม ปัจจุบันมีบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษากว่า 1 แสน 7 หมื่นคน มีข้าราชการเหลือเพียง 3 หมื่นคน และระบบที่กำหนดไว้ในอดีตดูเหมือนจะราบรื่นแต่ความจริงมีปัญหามาโดยตลอด คือ พนักงานมหาวิทยาลัยไม่ได้รับการปฏิบัติตามตามมติ ครม. ดังกล่าวจริง มีเพียงไม่กี่มหาวิทยาลัยเท่านั้นที่ให้เงินเดือนเต็ม 1.7 และให้สัญญาจ้างไปจนอายุ 60 ปี
รศ. ดร. วีรชัย กล่าวต่อว่า ที่น่าตกใจมากคือศูนย์ประสานงานฯ ได้รับทราบข้อมูลของอาจารย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในเขต 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่าได้รับเงินเดือนในอัตตราสูงสุดไม่เกิน 1.5 บางแห่ง ได้ 1.3 และมหาวิทลัยบีบสัญญาจ้างลงเหลือเพียง 3 ปี 4 ปี และสูงสุดไม่เกิน 5 ปี อาจารย์หลายคนได้ลาออก หลายท่าน ถูกบีบออกจากงาน ในสายอาจารย์ที่สอนรัฐศาสตร์สังคมศาสตร์ ต้องออกพื้นที่เพื่อทำวิจัย ทำการเรียนการสอน เสี่ยงต่อการลอบสังหาร และยังมีความไม่มั่นคงในอาชีพอาจารย์มหาวิทยาลัยอีก ด้วยสัญญาที่สั้น เงินเดือนไม่เป็นตามข้อตกลง จึงได้ร้องเรียนเข้ามายังศูนย์ประสานงานฯ จำนวนมาก
“เราขอให้ คสช. ใช้โอกาสนี้ คืนความสุขให้พนักงานมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ แก้ปัญหาระบบพนักงานมหาวิทยาลัยให้เหมือนกันทั่วประเทศ สำนักงบประมาณจัดสรรงบมาตามมติ ครม. อยู่แล้ว ก็ขอให้ทุกคนได้เงินเดือนค่าตอบแทนและอายุสัญญาจ้างเท่ากันตามเจตนารมย์ของมติ ครม. เมื่อปี 42 และหลายมหาวิทยาลัยทำดีอยู่แล้ว เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ ฯลฯ แต่มีมากกว่า 50 มหาวิทยาลัยที่แก้ไขปัญหายังไม่ได้ และไม่ปฏิบัติตามมติ ครม. ดังกล่าว ซึ่งปัญหาเกิดจากความไม่เข้าใจในระบบ และการให้อิสระในการบริหารจัดการพนักงานฯ” รศ. ดร. วีรชัยกล่าว