‘พล.ต.เจริญ-พล.ต.นพ.เหรียญทอง-กนก-สาธิต เซกัล’ นำ ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ ประท้วงหน้าสถานทูตนิวซีแลนด์ ทบทวนให้ที่พำนัก ‘ตั้ง อาชีวะ’ ชี้กลุ่มเป็น “พลังแผ่นดินแห่งธรรมของอารยชน” ระบุ ‘ตั้ง’ ต่างหากเป็นผู้ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของพระมหากษัตริย์ไทย

23 ม.ค.2558 มติชนออนไลน์ รายงานว่า พล.ต.เจริญ เตชะวณิช พร้อมด้วย พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา นายสาธิต เซกัล และคณะอดีตนายทหาร, นายตำรวจ รวมถึงประชาชนกว่า 60 คน ซึ่งรู้จักกันผ่านทางเครือข่ายโซเชียลมีเดีย เดินทางมายื่นหนังสือเปิดผนึกประท้วงต่อสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย  ถ.วิทยุ ในกรณีที่ประเทศนิวซีแลนด์ให้ที่พำนักอาศัยแก่ เอกภพ หรือ ตั้ง อาชีวะ ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตา 112 และใช้ประเทศนิวซีแลนด์เป็นสถานที่เคลื่อนไหวทางการเมือง

โดยมี แชนนอน ออสติน อุปทูตสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เป็นตัวแทนมารับหนังสือ

ในขณะที่การรักษาความปลอดภัยนั้น มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจกว่า 70 นายและชุดจู่โจมของกองบัญคับการตำรวจนครบาล 5 และตำรวจนอกเครื่องแบบอีกกว่า 30 นาย รักษาความปลอดภัยในบริเวณดังกล่าวอย่างเข้มงวด

นอกจากนี้เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ ยังเผยแพร่ภาพกิจกรรมดังกล่าว พร้อมรายงานด้วยว่า มี กนก รัตน์วงศ์สกุล มาร่วมให้กำลังใจกิจกรรมหน้าสถานทูตด้วยเช่นกัน

โดยแถลงการณ์ขององค์กรเก็บขยะแผ่นดิน ถึง รัฐบาลนิวซีแลนด์ กรณีดังกล่าวระบุว่า

“องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน ไม่ใช่องค์กรทางการเมือง หรือองค์กรป่าเถื่อนไล่ล่าชีวิตใครๆ หากแต่เป็นองค์กรของภาคประชาชนที่มีความกตัญญญูรู้คุณ และจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และได้รวมตัวกันเป็นพลังแผ่นดินแห่งธรรมของอารยชนเพื่อต่อต้านขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยที่ได้กระทำการบั่นทอนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อจะพัฒนาไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

องค์กรเก็บขยะแผ่นดินขอเรียนชี้แจงต่อรัฐบาลนิวซีแลนด์ว่า พระมหากษัตริย์ไทยทรงดำรงพระองค์อยู่เหนือความขัดแย้งในทางการเมือง หาได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือความขัดแย้งในทางการเมืองแต่อย่างใด ทั้งยังดำรงพระองค์อยู่ในทศพิธราชธรรม ซึ่งทำให้พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ไม่อยู่ในสถานะที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีใดๆ ต่อพสกนิกรหรือประชาชนทั่วไปได้ ดังเช่นการฟ้องร้องดำเนินคดีหมิ่นประมาทที่ประชาชนทั่วไปกระทำกัน

ดังนั้นราชอาณาจักรไทยจึงจำเป็นต้องมีกฎหมายในการปกป้องการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้งการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ยังเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักรไทยด้วย การที่บุคคลผู้กระทำความผิดอันเนื่องจากการหมิ่นประมาทหรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพต่อพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ดังเช่น นาย เอกภพ เหลือรา และ/หรือ บุคคลต่างๆ ได้หนีการจับกุมเพื่อดำเนินคดีโดยได้กล่าวอ้างว่าพวกตนนั้นเป็นผู้ประสบภัยทางการเมืองจึงเป็นการบิดเบือน ทั้งยังเป็นที่ปรากฎชัดว่าบุคคลดังกล่าวได้ใช้ประเทศนิวซีแลนด์เป็นแหล่งซ่องสุมเพื่อกระทำการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นองค์กรเก็บขยะแผ่นดินใคร่ขอความกรุณารัฐบาลประเทศนิวซีแลนด์ได้โปรดทบทวนการใช้ประเทศนิวซีแลนด์เป็นแหล่งการกระทำบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยอันเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักรไทย

หากรัฐบาลนิวซีแลนด์คำนึงถึง ปัญหาสิทธิมนุษยชนแล้วกโปรดรับทราบด้วยว่า นายเอกภพ เหลือรา ต่างหากเป็นผู้ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน อันเป็นสิทธิส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ไทย หากแต่เพราะพระมหากษัตริย์ไทยทรงดำรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรมจึงไม่ฟ้องร้องดำเนินคดี ทั้งๆที่พระมหากษัตริยไทยต่างหากที่ทรงอยู่ในสถานะเป็นผู้ประสพภัยจากขบวนการบ่อนทำลายทางการเมือง ทั้งทรงไม่สามารถป่าวประกาศขอความช่วยเหลือใดๆ จากประชาคมโลกด้วย”