มุนินทร์ อ.นิติศาสตร์ มองกรณี ป.ป.ช.ไต่สวนคดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล เสนอแก้ไข/ยกเลิก มาตรา 112 ไม่ได้ผูกมัดด้วยคำวินิจฉัยศาล รธน. เพราะว่าเป็นคนละข้อหาและคนละศาล เสนอ สส.ควรได้รับเอกสิทธิ์ในการเสนอกฎหมาย ใช้อำนาจแทนประชาชนได้อย่างเต็มที่

18 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ผ่านระบบประชุมทางไกล 'Zoom' มุนินทร์ พงศาปาน อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองกรณีผลกระทบจากคำวินิจฉัยรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล จากนโยบายแก้ไขมาตรา 112 และเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 11 กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เป็นระยะเวลา 10 ปี จะส่งผลกระทบต่อการไต่สวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คดีจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ 44 สส. อดีตพรรคก้าวไกล ลงชื่อเสนอแก้ไข ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. … (แก้ไขเกี่ยวกับความผิดฐาน หมิ่นประมาท) ยกเลิกมาตรา 112 ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี 2564

มุนินทร์ มองว่า คนพยายามโยง 2 เรื่องนี้เข้าด้วยกัน แต่จริงๆ มันเป็นคนละข้อหากัน กระบวนการพิสูจน์ความผิดก็คนละแบบ ศาลที่พิจารณาก็คนละศาล และต้องไม่ลืมว่าศาลฎีกาไม่ได้ถูกผูกมัดด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในแง่ของการกระทำที่ว่า ถ้าผิด พ.ร.ป.รัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมืองแล้วต้องผิดจริยธรรมอัตโนมัติ มีระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน และศาลยุติธรรมเขามีกระบวนการทางกฎหมายที่ชัดเจนกว่า อย่างน้อยทำให้คนที่ถูกกล่าวหาได้ต่อสู้คดีทางเต็มที่ ซึ่งต่อให้เร่งกระบวนการให้เร็วขึ้นหรือไม่นั้น แต่คงใช้เวลาและความรอบคอบมากกว่าที่เกิดขึ้นในชั้น กกต. และศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรค

มุนินทร์ มองว่า จริงๆ ในการเสนอกฎหมายไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบตัวกฎหมาย แต่มันเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้าการเสนอกฎหมายที่ขัดต่อหลักจริยธรรม ศีลธรรม และต้องตามมาด้วยการรับผิดชอบ อย่างการถูกข้อหาละเมิดจริยธรรมร้ายแรง หรืออีกหลายๆ กรณี เช่น ถ้า สส.เสนอการค้าบริการเพศถูกกฎหมาย ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าผิดจริยธรรม และจะมาดำเนินการทางกฎหมายกับ ป.ป.ช. หรือศาลฎีกาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมันไม่ควรเกิดขึ้นเลย

โดยอาจารย์ มธ. เสนอในประเด็นนี้ว่า กฎหมายควรให้คุ้มครองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้มีเอกสิทธิ์ในการเสนอกฎหมาย ให้เขาทำหน้าที่นิติบัญญัติได้อย่างเต็มที่ในฐานะผู้ใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชน

"การเสนอกฎหมายมันเป็นอำนาจ เป็นการใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชน มันควรได้รับการคุ้มกัน มันได้รับเอกสิทธิ์อย่างเด็ดขาด ผมว่ากฎหมายของเราต้องพยายามให้เอกสิทธิ์ สส.เพื่อให้เขาได้ลองใช้หน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้ใครไปฟ้องร้องเขาในการอภิปราย หรือทำหน้าที่ในสภา" มุนินทร์ สำทับ
 

มุนินทร์ พงศาปาน (ที่มา: เฟซบุ๊ก Munin Pongsapan)

แม้ว่าทางคดีความของ ป.ป.ช.จะไม่จำเป็นต้องอ้างอิงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณียุบพรรคก้าวไกล แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมองว่าก็ต้องจับตาดูกันต่อไป เพราะว่ากระบวนการยุติธรรมตอนนี้ไม่มีอะไรที่วางใจได้เลย อะไรที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ในทางกฎหมาย ก็สามารถเป็นไปได้หมด โดยส่วนตัวเขาไม่เชื่อว่าพรรคก้าวไกลต่อให้แก้ไขมาตรา 112 รัดกุมแค่ไหน เขาก็จะหาเหตุให้มายุบ จะเล่นงานก็หาช่องอื่นได้ อย่างพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบด้วยเรื่องกู้ยืมเงินมันเป็นเรื่องไร้สาระมาก ถ้าจะใช้กฎหมายในการกำจัดกันมันก็คงไม่มีอะไรต้านทานได้ "ยกเว้นประชาชนแสดงพลังว่าเราไม่พอใจกับสถานการณ์เช่นนี้"