ศาลอาญาลงโทษจำคุก “อาย กันต์ฤทัย” 24 ปี คดีม.112 โพสต์ FB พาดพิง ร.9-10 รวม 8 โพสต์ แต่เนื่องจากสารภาพศาลลดโทษเหลือ 12 ปี โดยไม่รอการลงโทษ วางเงินประกันตัวชั้นอุทธรณ์ 6 แสนบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอฟังผล

27 ส.ค.2567 ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก มีนัดอ่านคำพิพากษาคดีของ “อาย” กันต์ฤทัย คล้ายอ่อน ผู้ชุมนุมทางการเมืองวัย 33 ปี จำเลยในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 จากรณีโพสต์ข้อความ ภาพ และคลิปบนเฟซบุ๊กจำนวน 8 โพสต์ เมื่อปี 2565 โดยเป็นโพสต์ที่เนื้อหาพาดพิง

ในวันนี้มีมวลชลมาให้กำลังใจกันต์ฤทัยและให้ตุ๊กตาแคร์แบร์เพื่อเป็นขวัญกำลังใจก่อนฟังคำพิพากษา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอ่านคำพิพากษาลงโทษกันต์ฤทัย ตามโจทก์ฟ้องตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) ให้จำคุกกรรมละ 3 ปี รวม 8 กรรม แต่เนื่องจากให้การรับสารภาพให้ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือกรรมละ 1 ปี 6 เดือน รวมโทษจำคุกทั้งหมด 8 ปี 48 เดือน หรือราว 12 ปี ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ

ขณะนี้ทนายความกำลังยื่นคำร้องขอประกันตัวกันต์ฤทัยระหว่างอุทธรณ์ โดยวางเงินประกันจำนวน 600,000 แสน บาท

15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวกันต์ฤทัยไปหลังศาลมีคำพิพากษา ศาลส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำร้องว่าจะให้ประกันหรือไม่ ซึ่งจะทราบผลจากศาลอุทธรณ์ภายใน 3 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คดีนี้ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2565 ก่อนกันต์ฤทัยได้รับหมายเรียกรับทราบข้อหาจากตำรวจ กันต์ฤทัยเคยถูกกลุ่มชายอ้างตัวเป็นตำรวจสันติบาลจำนวน 8 นาย เรียกตัวออกมาจากห้องพักแล้วพาตัวเธอไปทิ้งไว้ที่ สน.ลาดพร้าว และต่อมาวันที่ 1 ก.ค. 2565 เธอยังถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกว่า 6 นาย นำหมายค้นเข้าตรวจค้นห้องพัก โดยได้มีการตรวจยึดคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือไป รวมทั้งสอบถามข้อมูลสมุดบัญชีธนาคารเอาไว้อีกด้วย

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2566 พนักงานอัยการสั่งฟ้องคดีนี้ต่อศาลอาญา ระบุว่า โพสต์ของจำเลยเป็นการมุ่งทำลายดูหมิ่นด้วยด้วยการใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อองค์พระมหากษัตริย์ด้วยความไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศรัทธาและเคารพบูชาของประชาชนชาวไทย เป็นเหตุให้รัชกาลที่ 10 ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียง

ในชั้นสอบสวน กันต์ฤทัยได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตามในชั้นศาล ก่อนเริ่มการสืบพยาน กันต์ฤทัยตัดสินใจขอถอนคำให้การเดิมจากปฏิเสธเป็นรับสารภาพ ศาลจึงมีคำสั่งให้สืบเสาะประวัติจำเลย และนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 ส.ค.2567 นี้

นอกจากคดีนี้ยังมีคดีที่ อานนท์ กลิ่นแก้ว จากกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันฯ (ศปปส.) แจ้งความดำเนินคดีมาตรา 112 กับกันต์ฤทัย ไว้อีกคดีหนึ่งด้วย