Skip to main content
sharethis

ฮิวแมนไรท์วอทช์ องค์กรสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์สืบเนื่องดีเอ็นเอศพในแม่น้ำโขงตรงกับ 2 ใน 3 นักกิจกรรมไทยลี้ภัยในลาวที่หายตัวไปเมื่อ ธ.ค. 2561 จี้ลาวสอบสวนอย่างจริงจัง หลังเคยดูเหมือนจงใจปิดบัง เมินสอบสวนกรณีการหายตัวไปของ 'โกตี๋' และ 'ดีเจซุนโฮ' 

23 ม.ค. องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกแถลงการณ์สืบเนื่องกรณีการหายตัวไปของสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน (78 ปี) ภูชนะ (54 ปี) และสหายกาสะลอง (47 ปี) นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้ลี้ภัยจากเหตุการณ์รัฐประหาร 2557 ที่หายออกจากที่พัก ขณะลี้ภัยอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยไม่มีใครติดต่อได้ตั้งแต่ 11 ธ.ค. 2561 โดยล่าสุดผลตรวจสอบดีเอ็นเอของสองศพที่พบในแม่น้ำโขงนั้นตรงกับภูชนะและกาสะลอง

ฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่าที่ผ่านมา รัฐบาลลาวจงใจปิดบัง ไม่มีความจริงจังกับการสอบสวนการหายตัวไปของนักเคลื่อนไหวต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ในกรณีอิทธิพล สุขแป้น หรือดีเจซุนโฮที่หายตัวไปตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2559 และวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ที่หายตัวไปตั้งแต่เดือน ก.ค. 2560 เน้นย้ำรัฐบาลลาวให้มีการสอบสวนการหายตัวไปของทั้งสามคน รวมถึงกรณีอื่นๆ ที่เคยเกิดด้วย 

ผล DNA ยืนยัน ศพลอยแม่น้ำโขงเป็นคนสนิท อ.สุรชัย

ลืออุ้ม อ.สุรชัย ผู้ลี้ภัยหายจากที่พัก 12 วันแล้ว

ผู้ลี้ภัยหายในต่างแดนทำอย่างไร : คุยกับนักสิทธิฯ ปม ‘โกตี๋-ดีเจซุนโฮ’ หายตัว

ลาว: สอบสวนการหายตัวไปของนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลจากไทยสามคน
พิสูจน์พบศพที่มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายในแม่น้ำโขง ตรงกับนักเคลื่อนไหวที่หายตัวไป

(นิวยอร์ก) – รัฐบาลลาวควรสอบสวนการหายตัวไปของนักเคลื่อนไหวจากไทยสามคนอย่างเร่งด่วน มีผู้พบเห็นพวกเขาเป็นครั้งสุดท้ายที่กรุงเวียงจันทน์ในเดือนธันวาคม 2561 ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวในวันนี้ ในวันที่ 22 มกราคม 2562 ทางการไทยแจ้งต่อฮิวแมนไรท์วอทช์ว่า ผลการตรวจตัวอย่างดีเอ็นเอของศพที่พบในแม่น้ำโขง ตรงกับนักเคลื่อนไหวที่หายตัวไปสองคน ได้แก่ ภูชนะและสหายกาสะลอง

สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ อายุ 78 ปี นักเคลื่อนไหวต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์คนสำคัญของไทย และคนสนิทสองคน ได้แก่ ภูชนะ อายุ 54 ปี และสหายกาสะลอง อายุ 47 ปี หายตัวไประหว่างอยู่ที่เวียงจันทน์ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 เพื่อนร่วมงานของพวกเขาได้แจ้งความการหายตัวไปของพวกเขาโดยทันที

การพิสูจน์อัตลักษณ์ศพภู ชนะและสหายกาสะลองที่ถูกพบเมื่อวันที่ 26 และ 27 ธันวาคมตามลำดับ ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับตัวสุรชัย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว เนื่องจากทั้งสองศพมีสภาพที่มือและเท้าถูกมัด ใบหน้าถูกตีจนแหลกเหลว จำไม่ได้ นอกจากนั้นยังมีการคว้านท้องศพและเทปูนใส่เข้าไปแทน

“ดูเหมือนว่ารัฐบาลลาวจงใจปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการลักพาตัว และการสังหารนักเคลื่อนไหวจากไทยอย่างโหดเหี้ยม” แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว “ทางการลาวต้องสอบสวนอย่างน่าเชื่อถือ และดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีอันโหดเหี้ยมนี้ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลอย่างมากต่อชะตากรรมของนักเคลื่อนไหวจากไทยที่ลี้ภัยในลาว”

สองวันก่อนกองทัพไทยจะทำรัฐประหารและยึดอำนาจในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 สุรชัยได้หนีไปลาว เพื่อหลบเลี่ยงการดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และรัฐบาลทหารไทยกล่าวหาว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับกองกำลังต่อต้านรัฐบาล ระหว่างอยู่ในลาว สุรชัยพร้อมกับนักเคลื่อนไหวที่หายตัวไปคนอื่น ๆ ยังคงจัดรายการวิทยุออนไลน์ วิพากษ์วิจารณ์ระบอบปกครองของทหารในไทย และสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยอย่างรุนแรง ที่ผ่านมารัฐบาลไทยเรียกร้องให้ทางการลาวส่งตัวสุรชัยและนักเคลื่อนไหวต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์อื่น ๆ จากไทยกลับคืนมาให้ โดยล่าสุดได้มีการร้องขอเมื่อตอนที่นายกรัฐมนตรีไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเยือนกรุงเวียงจันทน์ในวันที่ 13 ธันวาคม

ที่ผ่านมา รัฐบาลลาวไม่ได้สอบสวนอย่างจริงจังต่อการหายตัวไปก่อนหน้านี้ของนักเคลื่อนไหวต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ที่อาศัยอยู่ในเวียงจันทน์ ได้แก่ อิทธิพล สุขแป้นที่หายตัวไปตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2559 และวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณที่หายตัวไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2560 ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว

สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ไม่มีสำนักงานในลาวซึ่งให้การคุ้มครองกับผู้ลี้ภัย รัฐบาลลาวยังไม่อนุญาตให้สำนักงานภูมิภาคของ UNHCR ที่กรุงเทพฯ เข้าไปดำเนินการคุ้มครองคนไทยที่หลบหนีการปราบปรามทางการเมืองไปยังประเทศลาว

“รัฐบาลลาวมีพันธกรณีที่จะต้องสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสุรชัยและนักเคลื่อนไหวจากไทยคนอื่น ๆ ซึ่งหายตัวไปในลาว” อดัมส์กล่าว “รัฐบาลต่างประเทศและแหล่งทุนควรกดดันรัฐบาลให้ดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อสอบสวนกรณีเหล่านี้ และดำเนินคดีกับผู้มีส่วนรับผิดชอบทุกคน”

เมื่อ 21 ม.ค.2561 เวลาประมาณ 12.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนาย ต.(ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ) บุตรชายของ 'ภูชนะ' คนสนิทของนายสุรชัย แซ่ด่าน ที่หายไปว่า ผลการตรวจ DNA โดยใช้เนื้อเยื่อของศพที่ถูกสังหารด้วยการมัดแขน รัดคอ ทุบจนใบหน้าเละ และท้องถูกผ่ายัดเสาปูนที่ลอยมาติดที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นั้น เมื่อตรวจสอบแล้วมีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับนาย ต.จริง

ภูชนะ (นามแฝง) เป็นคนใกล้ชิดของนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ สุรชัย แซ่ด่าน นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ลี้ภัยออกจากประเทศไทยและได้หายตัวไปจากที่พักในประเทศเพื่อนบ้านในช่วงคืนวันที่ 12-13 ธ.ค.2561 พร้อมกันกับสุรชัยและคนสนิทอีกคนหนึ่ง

ปรานี ด่านวัฒนานุสรณ์ ภรรยาของสุรชัยกล่าวว่า ได้ทราบข่าวจากบุตรชายของภูชนะแล้ว แต่ยังไม่ขอพูดอะไร โดยเบื้องต้นได้ทำใจแต่แรกแล้วว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะต้องเกิดขึ้นสักวันหนึ่ง

ขณะที่ นาย ว. พี่เขยของ 'กาสะลอง' อีกหนึ่งผู้ลี้ภัยที่ได้หายไปพร้อมกับนายสุรชัยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากได้ทราบผลการตรวจสอบ DNA จากลูกชายของภูชนะ ทางญาติของกาสะลองก็ได้ติดต่อไปที่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีและได้คำตอบว่า จะได้ทราบผลการตรวจสอบ DNA ภายในเวลา 2-3 วันนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net