ปลัด มท. เผยความคืบหน้าสถานการณ์ผู้หนีภัยความไม่สงบจากเมืองล่าเสี้ยว ภายหลังหารือผู้แทนข้าหลวงใหญ่ UNHCR ประจำสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ยืนยันไม่มีการอพยพมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอนแต่อย่างใด

ผู้อพยพสงครามจากเมืองล่าเสี้ยว เข้ามาพักพิงที่วัดนากง เมืองลางเคอ รัฐฉานตอนใต้ | ที่มา: Know Shan State 

NBT Connext รายงานเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2567 ว่านายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ นายปกรณ์ จีนาคำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้หารือต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับความกังวลของประชาชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนและพื้นที่ใกล้เคียง ภายหลังจากมีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่เมืองล่าเสี้ยว รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ทำให้ประชาชนเมืองล่าเสี้ยวมีแนวโน้มจะอพยพโดยมีเป้าหมายจะเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านบ้านหัวเมือง จังหวัดลางเคอ รัฐฉาน เพื่อเข้ามายังอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้ประสานและหารือร่วมกับ Ms. Noriko Takagi ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ UNHCR ประจำสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาแล้ว ทำให้ทราบว่าผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาในเมืองดังกล่าวไม่ได้มีเป้าหมายมาที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมาจังหวัดแม่ฮ่องสอนมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งบูรณาการข้อมูลและวิเคราะห์สถานการณ์การสู้รบในประเทศเมียนมาอย่างต่อเนื่อง

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทย มีภารกิจในการดูแลความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายในประเทศ รวมไปถึงการดูแลรักษาแนวเขตพื้นที่ภายในระหว่างอำเภอ จังหวัด และระหว่างประเทศ ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับการดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางสงครามและต้องมาพักพิงในประเทศไทยตามแนวชายแดน รวมถึงดูแลชนกลุ่มน้อยที่ไร้สัญชาติ โดยดำเนินการภายใต้กฎหมายและหลักมนุษยธรรมตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้ หากเกิดกรณีที่มีชาวเมียนมาเดินทางเข้าไทยตามแนวชายแดนจากภัยสงครามสู้รบจริง หน่วยงานด้านความมั่นคงจะบูรณาการดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติในการบริหารจัดการ ตามแนวทางที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กำหนดโดยเคร่งครัด