ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา มีมติไม่เห็นชอบวาระ 3 ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1) โดยเห็นชอบเพียง 208 เสียง ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง คือ 369 เสียง ตามที่รัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนด - 'ภูมิใจไทย' แจงเหตุไม่ร่วมสังฆกรรม แค่ต้องการให้ส่งศาลตีความก่อน-โหวตไปเสียงก็สู้ไม่ได้

17 มี.ค.2564 Thai PBS ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา มีกำหนดการพิจารณาวาระ 3 ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ พ.ศ.... และแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1

โดยก่อนการพิจารณานายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้แบ่งญัตติที่เสนอในวาระแจ้งเพื่อทราบออกเป็น 3 แนวทาง คือ 1.ไม่พิจารณาโหวตวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2.พักร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ก่อน โดยส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกรอบ และ 3.เดินหน้าโหวตวาระ 3 โดยตลอดทั้งวันที่ผ่านมาแนวโน้มสมาชิกรัฐสภาอภิปรายไปในทิศทางทั้ง 3 แนวทาง

ขณะที่เมื่อเวลา 19.27 น. เกิดเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นกลางที่ประชุมรัฐสภา ระหว่างการอภิปรายของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เพื่อไทย โดย นพ.ชลน่าน ระบุว่า "ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขออภิปรายให้จบ และขอให้ประธานวินิจฉัย" สุดท้าย ประธานรัฐสภา ตอบว่า "สงสัยอภิปรายจนน้ำไหลไฟดับ" พร้อมให้ นพ.ชลน่าน เดินหน้าอภิปรายต่อจนจบ ก่อนสั่งพักการประชุม 20 นาที

เมื่อกลับมาหารือถึงแนวทางการลงมติในญัตติที่มีการเสนอ 3 แนวทางอีกครั้ง นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอให้พิจารณาตามระเบียบวาระเรื่องด่วนก่อน ซึ่งประธานรัฐสภาได้เปิดให้สมาชิกลงมติ โดยเวลา 21.00 น. ประธานรัฐสภาประกาศมติที่ประชุม โดยมีผู้ลงมติ 644 เห็นด้วยกับการพิจารณาระเบียบวาระเรื่องด่วนก่อน 473 คน ไม่เห็นด้วย 127 คน งดออกเสียง 39 คน ไม่ลงคะแนนเสียง 5 คน ดังนั้น ญัตติที่เสนอมา 3 เรื่องจึงตกไป

ภูมิใจไทยวอล์กเอ้าต์ เหตุ พปชร.มีวาระซ่อนเร้น

เวลา 20.10 น. ประธานรัฐสภาประกาศเดินหน้าโหวต ขณะที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาประกาศไม่ร่วมโหวตแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญวาระ 3 ก่อนเริ่มขานชื่อรายบุคคล

“ผมคงไม่ร่วมสังฆกรรมด้วยกับพวกฉ้อฉล ศรีธนญชัย โกหก ปลิ้นปล้อน และไร้สาระสิ้นดี นี่คือสภาโจ๊ก”

ภายหลังนายชาดา ได้เดินออกจากห้องประชุมพร้อมด้วยสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ขณะเดียวกัน ไทยพีบีเอส ได้สัมภาษณ์นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ภายหลังการวอล์กเอ้าต์ของสมาชิกพรรค โดยนายศุภชัย ระบุว่า ในช่วงเช้าพรรคร่วมรัฐบาลมีการหารือกันถึงทิศทางลงมติ แต่ภายหลังนายไพบูลย์ กลับเสนอญัตติให้โหวตวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทันที ทำให้พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย

“ในความรู้สึกของภูมิใจไทยมองว่า มันมี hidden agenda อยู่มาก ไม่ใช่วิธีการทำงานที่มีร่วมกัน พรรคร่วมรัฐบาลอาจมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน เราก็มีจุดยืน ดังนั้น รองหัวหน้าพรรคชาดา จึงแสดงจุดยืนออกมา ซึ่งเป็นจุดยืนของพรรค เราไม่มีประสงค์จะลงญัตติ”

นายศุภชัย ยังย้ำจุดยืนในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญโดยระบุว่าสนับสนุนให้เกิดขึ้นด้วยกลไก สสร. มาโดยตลอด แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา ในฐานะสมาชิกรัฐสภาก็ต้องยอมรับเพราะหากไม่กระทำตามจะมีความผิดอาญาได้ จึงเห็นควรว่าแทนที่จะลงมติในวันนี้ทันที ควรส่งไปทำประชามติก่อนดีหรือไม่ 

สำหรับญัตติโหวตวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ สมาชิกรัฐสภาลงมติ ดังนี้

เห็นชอบ ส.ส. 206 เสียง ส.ว. 2 เสียง รวม 208 เสียง
ไม่เห็นชอบ ส.ส. 0 เสียง ส.ว. 4 เสียง รวม 4 เสียง
งดออกเสียง ส.ส. 10 เสียง ส.ว. 84 เสียง รวม 94 เสียง
ไม่ประสงค์ลงคะแนน ส.ส. 9 ส.ว. 127 เสียง รวม 136 เสียง

ทั้งนี้ เสียงเห็นชอบไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้ง 2 สภา คือ ไม่มากกว่า 369 คน ดังนั้น ที่ประชุมมีมติไม่เห็นชอบให้ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ พ.ศ.... และแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญ จบการพิจารณาเรื่องด่วน

เวลา 23.20 น. ประธานสภาประกาศปิดประชุมสภาและเลื่อนวาระการประชุมที่เลื่อนไปเปิดประชุมต่อในวันพรุ่งนี้

'ภูมิใจไทย' แจงเหตุไม่ร่วมสังฆกรรม แค่ต้องการให้ส่งศาลตีความก่อน-โหวตไปเสียงก็สู้ไม่ได้

เว็บไซต์ไทยโพสต์ รายงานว่าเมื่อเวลา 22.30 น. ที่รัฐสภา นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยส.ส.ของพรรค แถลงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย วอล์คเอาท์ในการลงมติร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3  

นายภราดร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีเต็ม และวันนี้ทั้งวัน ต้องบอกว่า ประเทศนี้มีกระบวนการฉุดรั้งการเจริญเติบโตของประชาธิปไตย ฉุดรั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ฉุดรั้งการคืนอำนาจให้ประชาชนในการเลือกส.ส.ร. มาแก้รัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทย แสดงเจตนารมย์ที่ชัดเจนมาตลอดว่า ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยโดยการตั้ง ส.ส.ร. จึงไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่ส.ว.เสนอในวันนี้ตั้งแต่แรก ขณะที่แนวทางของพรรคร่วมฝ่ายค้านเราก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้เดินหน้าลงมติวาระที่ 3 เพราะเท่ากับว่าเรากำลังจะกระโดดลงเหวฆ่าตัวตาย เป็นการฆ่ารัฐธรรมนูญให้ตายด้วยมือของเราเอง