Skip to main content
sharethis

สปสช. ประชุมหน่วยบริการใน กทม. เตรียมความพร้อมดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน (Home Isolation) ด้าน สธ. ตั้งศูนย์ประสานงาน CCR Team สนับสนุนการดูแลผู้ป่วยที่บ้านและลงพื้นที่แก้ปัญหาหน้างาน ขณะที่ ส.ส.เพื่อไทยวอนรัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนให้พระและสัปเหร่อ หวั่นติดเชื้อทั้งวัดจนไม่สามารถทำพิธีศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ได้

15 ก.ค. 2564 ผลการประชุมของ สปสช. ผ่านระบบ Zoom เมื่อวานนี้ (14 ก.ค. 2564) เพื่อเตรียมความพร้อมด้านสารสนเทศการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Isolation) ของหน่วยบริการในพื้นที่ กทม. สำหรับบันทึกเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการและระบบส่งต่อผู้ป่วยในชุมชน โดยมีตัวแทนหน่วยบริการปฐมภูมิในพื้นที่ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 490 ราย

นพ.โกเมนทร์ ทิวทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุนระบบปฐมภูมิและคลินิกหมอครอบครัว สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในส่วนของ สธ. จะเป็นหน่วยงานเสริมที่ช่วยให้หน่วยบริการปฐมภูมิหรือคลินิกชุมชนอบอุ่นทำการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้านหรือที่ชุมชน (Home/Community Isolation) ให้ได้ดีที่สุด ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะมีหน่วยบริการปฐมภูมิ 178 ทีมที่ขึ้นทะเบียนตาม พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ คลินิกชุมชนอบอุ่นที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ส่วน CCR team ของ สธ. จะมี 10 ทีม ทำหน้าที่เหมือนหน่วยเคลื่อนที่เร็วลงไปช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ พร้อมระบุว่า CCR Team ทีมจะมี 8-10 คน ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ 1.ทีมคลินิก แพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข 2.เครือข่ายภาคประชาชนหรืออาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ในพื้นที่ที่จะช่วยติดตามการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้านหรือที่ชุมชนของผู้ป่วย และ 3.เจ้าหน้าที่เขตของ กทม. หรือทหาร เพื่อประสานในการลงพื้นที่

สำหรับขั้นตอนการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้านหรือที่ชุมชน จะยึดแนวทางของกรมการแพทย์ และ สปสช. เป็นหลัก คือ ผู้ป่วยจะได้รับหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว และปรอทวัดไข้แบบดิจิทัล สำหรับกักตัวที่บ้าน 14 วัน พร้อมอาหารวันละ 3 มื้อ โดยแพทย์จะวิดีโอคอลติดตามอาการผ่านโปรแกรม AMED Telehealth ซึ่งเป็นระบบบริการทางการแพทย์ทางไกลของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

นพ.โกเมนทร์ ทิวทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุนระบบปฐมภูมิและคลินิกหมอครอบครัว
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
 

"ขณะเดียวกัน หน่วยบริการเองก็จะได้รับการสนับสนุนถังออกซิเจน ยาฟาวิพิราเวียร์ ยาฟ้าทะลายโจร เครื่องวัดความดัน อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ถุงมืออนามัย หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และชุดตรวจหาเชื้อแบบแอนติเจน (Antigen Test Kit) เพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วยที่บ้านอีกทางหนึ่ง ขณะที่ สธ. ได้ตั้งศูนย์ประสานงาน CCR Team เพื่อช่วยประกอบทีมในพื้นที่รับผิดชอบ ประสานติดต่อสนับสนุนยา เวชภัณฑ์ การลงพื้นที่แก้ไขปัญหาร่วมกับ สปสช. สำนักอนามัยกทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรับเคสบางส่วนแล้วส่งให้ 1330 เป็นหลัก" โกเมทร์ กล่าว

ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในส่วนของอาหารสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รับการดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชน สปสช. ได้สนับสนุนงบประมาณค่าอาหารและค่าบริหารจัดการให้แก่โรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วย โดยโรงพยาบาลมีหลายทางเลือกในการจัดการ เช่น ให้โรงครัวประกอบอาหารแล้วใช้รถโรงพยาบาลหรือรถของเครือข่ายไปส่งให้ผู้ป่วย หรืออาจใช้บริการบริษัทส่งอาหารก็ได้

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
 

ทั้งนี้ สปสช.ได้ติดต่อทั้งบริษัทผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ บริษัทที่ขนส่งอาหารอย่างเดียว หรือบริษัทที่ทั้งผลิตและขนส่งอาหาร รวมทั้งแพลตฟอร์มต่างๆ ที่โรงพยาบาลสามารถเป็นแอดมินแล้วมอบหมายบริษัทส่งอาหารไปส่งงานตามบ้านก็ได้ หรือจะให้ผู้ป่วยที่อยู่ที่บ้านสั่งอาหารเองตามวงเงินที่กำหนดไว้ก็ได้ โดยจะรวบรวมข้อมูลการติดต่อแต่ละบริษัทแล้วหากหน่วยบริการไหนสนใจจัดการในรูปแบบไหนก็สามารถไปหารือกันในรายละเอียดอีกครั้ง

นอกจากนี้ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระบบระบบดูแลที่บ้าน-ที่ชุมชนแล้วจำนวน 2,200 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่พบว่าติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุก และผู้ป่วยรอเตียงจากสายด่วน 1330 ทั้งจากกลุ่มที่รอเตียงเดิมจากสายด่วน 1330 และกลุ่มที่พบผลบวกจากการตรวจเชิงรุกแล้วจำนวน 2,200 ราย

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
 

ส.ส.เพื่อไทยวอนรัฐเร่งฉีดวัคซีนให้พระก่อนศพโควิดล้นวัด 

กวีวงศ์ อยู่วิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เขตบางนา-พระโขนง ลงพื้นที่วัดบางนาใน พระอารามหลวง ร่วมพิธีเก็บอัฐิของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่ได้รับการประสานจากญาติของผู้เสียชีวิต ให้ช่วยดำเนินการหาที่ฌาปนกิจศพให้ จึงทำให้ทราบปัญหาของวัดว่า ตอนนี้มีพระและเจ้าหน้าที่วัดทยอยติดเชื้อโควิด-19 จากการปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งทั้งหมดยังไม่ได้ฉีดวัคซีน นอกจากนี้ วัดยังขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันตัวเองจากเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ทั้งหน้ากากอนามัย ถุงมือยาง รวมถึงชุด PPE ที่ต้องเปลี่ยนทุกวัน จึงอยากให้รัฐบาลช่วยดูแลพระและเจ้าหน้าที่เหล่านี้ด้วย โดยขอให้เร่งจัดสรรวัคซีนและมอบอุปกรณ์ป้องกันเชื้อให้แก่พระและเจ้าหน้าที่ที่ทำพิธีเผาศพ เพื่อสร้างความมั่นใจและลดความเสี่ยงให้กับผู้ปฏิบัติงาน ก่อนที่จะไม่มีวัดไหนพร้อมที่จะรับเผาศพผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกต่อไป

"อย่าให้วลี 'วัดพร้อม พระไม่พร้อม' ต้องเกิดขึ้นในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ระลอกนี้ ช่วยรักษาชีวิตของคนที่เป็นเหมือนที่พึ่งสุดท้ายของชีวิตให้ได้รับความปลอดภัยจากการทำหน้าที่ของพวกเขาด้วยเถอะครับ" กวีวงศ์กล่าว

กวีวงศ์ อยู่วิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เขตบางนา-พระโขนง ขณะลงพื้นที่วัดบางนาใน พระอารามหลวง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net