กลุ่มทะลุฟ้าและไผ่ ดาวดินจัดกิจกรรมหล่อเทียนทำบุญประเทศ ขับไล่เสนียดจัญไร 2 วันแรกผ่านไปด้วยดี โดยวันนี้นอกจากกิจกรรมหล่อเทียนและกิจกรรมเสวนาหาทางออกรื้อระบอบประยุทธ์แล้ว ยังมีการแสดงดนตรีสดจากแอมมี่ The Bottom Blues อีกด้วย ด้านผู้จัดพร้อมลุยต่อพรุ่งนี้ 4 โมงเย็นที่สวนลุมพินี

21 ก.ค. 2564 วันนี้ (21 ก.ค. 2564) เวลาประมาณ 16.00 น. 'กลุ่มทะลุฟ้า' จัดกิจกรรมหล่อเทียนทำบุญประเทศ ขับไล่เสนียดจัญไร ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 2 แล้ว หลังจากที่เมื่อวาน (20 ก.ค. 2564) กลุ่มทะลุฟ้าได้กิจกรรมที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยกิจกรรมในวันนี้ มีไฮไลต์ คือ การแสดงดนตรีจากไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ The Bottom Blues และการหารือรื้อระบบประยุทธ์ภายใน 15 นาที เพื่อสะท้อนปัญหาและข้อเสนอแนะจากประชาชน

ไทยพีบีเอสและเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า หลังจากที่ผู้จัดกิจกรรมเริ่มจัดวางอุปกรณ์ ตั้งเวที และเครื่องขยายเสียงได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน นำโดย พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน ก็เข้ามายังบริเวณพื้นที่ชุมนุมเพื่อประกาศข้อกำหนดห้ามชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ระหว่างนั้นน ผู้ชุมนุมเข้าล้อมเจ้าหน้าที่และชูสามนิ้วเพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ให้ถอยออกจากพื้นที่จัดกิจกรรมบริเวณลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรม เมื่อเจ้าหน้าที่อ่านประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เสร็จแล้วจึงได้สลายตัว แต่ยังคงกระจายกำลังสังเกตการณ์ชุมนุมโดยรอบ เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในรัศมี 150 เมตรของวังสระปทุมซึ่งเป็นเขตพระราชฐาน

ตลอดทั้งกิจกรรมในวันนี้ มีตัวแทนจากกลุ่มทะลุฟ้า และเครือข่าย สลัลสับเปลี่ยนขึ้นมากล่าวปราศรัยบนเวที เช่น จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือปูนจากกลุ่มราษฎรเอ้ย โดยเนื้อหาหลักในของปราศรัยเกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศของรัฐบาล การจัดการสถานการณ์โควิด-19 และการจัดหาวัคซีน นอกจากนี้ ผู้ชุมนุมยังเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง

The Repoerters รายงานว่า นอกจากกิจกรรมปราศรัยแล้วยังมีกิจกรรม 'ตะโกนทะลุฟ้า' ที่เชิญชวนประชาชนมาร่วมกล่าวความในใจ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาล ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น. กลุ่มทะฟ้าได้เริ่มทำกิจกรรมหารือรื้อระบอบประยุทธ์ ซึ่งมีจตุภัทร์ เป็นผู้นำกิจกรรมในครั้งนี้ โดยจตุภัทร์ กล่าวถึงการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ที่ล้มเหลวของรัฐบาลทำให้ประชาชนป่วยและล้มตายจำนวนมาก การปฏิเสธไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยให้ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อยสามารถเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้อย่างเป็นธรรม นอกจากนี้ จตุภัทร์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารจัดการการระบาดโรคโควิด-19 'แบบไทยๆ' จึงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งจตุภัทร์ มองว่า อุปสรรคใหญ่ในการแก้ไขปัญหาก็คือนายกรัฐมนตรี จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ร่วมกันหาทางออก โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้ออกมาแสดงความคิดเห็น พร้อมเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหา ซึ่งสรุปออกมาเป็นแนวทางทั้งหมด 7 ข้อ ตามโพสต์ด้านล่าง

ในช่วงท้ายของกิจกรรม จตุภัทร์ นำข้อมูลเหล่านี้ที่มาสรุปให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมรับฟังอีกครั้ง จากนั้นจึงถึงคิวของการแสดงดนตรีจากแอมมี่ วง The Bottom Blues ซึ่งจตุภทร์ได้ทำการแสดงร่วม ต่อมา เวลา 18.50 น. กลุ่มทะลุฟ้า ประกาศยุติกิจกรรม พร้อมประกาศ พรุ่งนี้ (22 ก.ค. 2564) ทางกลุ่มจะไปจัดกิจกรรมในลักษณะเดียวกันที่สวนลุมพินี เวลา 16.00 น.

ประมวลกิจกรรม 'หล่อเทียนทำบุญประเทศ' วันแรก

วานนี้ (20 ก.ค. 2564) มติชนออนไลน์, ข่าวสดออนไลน์, และไทยพีบีเอส รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. กลุ่มทะลุฟ้า จัดกิจกรรม 'หล่อเทียน ทำบุญประเทศ ขับไล่เสนียดจัญไร' ขึ้นเป็นวันแรกที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีการนำแผงไม้มาวางซ้อนเป็นชั้น เพื่อทำฐานสำหรับหล่อเทียน นอกจากนี้ ยังมีการนำหมุดคณะราษฎรมาติดที่แท่นหล่อ พร้อมวางที่ปักธูป และนำสายสิญจน์มาพันโดยรอบ ขณะที่ประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมหล่อเทียน และฟังปราศรัยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งกิจกรรม

ต่อมาเวลา 16.50 น. จตุภัทร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า กลุ่มทะลุฟ้าจะกิจกรรมหล่อเทียนนี้อย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งตรงกับวันเข้าพรรษา โดยทางกลุ่มจะนำเทียนที่หล่อได้ไปแห่รอบเมืองและถวายวัด แต่จะเป็นวัดใดนั้นต้องปรึกษากับกลุ่มเครือข่ายที่ร่วมจัดกิจกรรมก่อน และจะเปิดเผยให้ทราบอีกครั้ง

นอกจากกิจกรรมหล่อเทียนและปราศรัยเรื่องความผิดพลาดตลอด 7 ปีของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แล้วนั้น ยังมีกิจกรรมอ่านบทกวี และการแสดงดนตรีจากวงสามัญชนอีกด้วย ทั้งนี้ กิจกรรมในวันแรกเสร็จสิ้นลงเมื่อเวลา 18.11 น. โดยประชาชนบางส่วนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้ช่วยกันเก็บขยะ ทำความสะอาดพื้นที่ ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน