ประมวลสถานการณ์กลุ่มทะลุฟ้า นัดชุมนุม ศุกร์ 13 ไล่ทรราช (ส.ค.) เดินคล้องแขนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปบ้านพักประยุทธ์ ที่ราบ 1 ยืนหลักประท้วงสันติวิธี 'ปาสีไม่ปาขวด' เรียกร้อง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องออกโดยไม่มีเงื่อนไข แต่หลังจากไปถึงถนนวิภาฯ ไม่นาน ถูกตำรวจควบคุมฝูงชนสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา และกระสุนยาง จนประชาชนแตกกระจายและยุติกิจกรรมในเวลา 17.25 น. 

ประมวลสถานการณ์ #ม็อบ13สิงหา ศุกร์ 13 (ส.ค.) ไล่ทรราช ทะลุฟ้าประกาศเดินคล้องแขนไปบ้านประยุทธ์ ด้วยข้อเรียกร้องหนึ่งเดียว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องออกโดยไม่มีเงื่อนไข 

ทางกลุ่มทะลุฟ้า ระบุด้วยว่า ยังคงยืนยันแนวทางการประท้วงด้วยสันธิวิธี และอารยะขัดขืนต่อความอยุติธรรม พร้อมเน้นย้ำว่าจะไม่กระทำความรุนแรงต่อเพื่อนมนุษย์ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามสโลแกนบนที่โพสต์บนเฟซ 

“ปาสีไม่ปาขวดไม่อยากปะทะกับตำรวจ
อยากดวลกับประยุทธ์
ประยุทธ์ทรราชชาติชั่วออกไป !”

สำหรับบรรยากาศที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เมื่อเวลา 13.35 น. มีประชาชนบางส่วนเริ่มมาทำกิจกรรมกับกลุ่มทะลุฟ้า ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรถภูมิ 'อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์' นักดนตรีที่มักร่วมร้องเพลงในการชุมนุมต่างๆ เริ่มเล่นดนตรีที่อนุสาวรีย์ชัยฯ  

ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท อดีตแกนนำ กปปส. และวันนี้มาร่วมกิจกรรมกับกลุ่มทะลุฟ้า ปราศัยถึงปัญหาของกองทัพว่า ทหารที่เสียชีวิตในแนวหน้าล้วนเป็นทหารชั้นผู้น้อย ทหารระดับผู้บังคับบัญชาไม่เคยไปแนวหน้า คนเหล่านี้เอาแต่สั่งการให้ทหารชั้นผู้น้อยหรือเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนออกมาสู้กับประชาชน สิ่งที่เกิดขึ้นต้องยุติได้แล้ว ต้องมีการทำรัฐธรรมนูญใหม่ที่ทหารชั้นผู้น้อยมีสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท อดีตแกนนำ กปปส. และวันนี้มาร่วมกิจกรรมกับกลุ่มทะลุฟ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลาประมาณ 15.45 น. ผู้ชุมนุมเริ่มมารวมตัวกันบนถนนและมีการกั้นเชือกเพื่อกันถนน 2 เลน รถเครื่องเสียงมีการปราศรัยปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากการบริหารงานของรัฐบาลในสถานการณ์ระบาดของโควิด-19  

"แม้ว่ารัฐบาลจะบริหารประเทศจนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ประชาชนตกงาน การค้าขายก็ไม่สามารถทำได้ แต่เมื่อชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกก็ยังไม่ยอมออก แต่กลับใช้กำลังและการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ออกมาแสดงออกอย่างสุจริต" ผู้ปราศรัย กล่าว

นอกจากนี้ ผู้ชุมนุมฯ เอามังคุด และลำไยมาเทบนถนน เพื่อสะท้อนปัญหาของรัฐบาลที่บริหารประเทศผิดพลาดในช่วงโควิด-19 จนสินค้าทางการเกษตรมีราคาตกต่ำ ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรต้องลำบาก 

ขบวนทะลุฟ้าเริ่มเดินจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปบ้านพักประยุทธ์ 

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 16.20 น. พิธีกรทีมทะลุฟ้า ประกาศเผาผลไม้มังคุด-ลำไย เพื่อเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณฺ์ว่ารัฐบาลล้มเหลวเรื่องเศรษฐกิจ สะท้อนผลผลิตราคาเกษตรตกต่ำ โดยมังคุดและลำไยราคาเหลือเพียง กก. ละ 3 บาทเท่านั้น ทีมทะลุฟ้า จึงไปเหมามาเพิ่อนำมาใช้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์

"นี่คือล้มเหลวของรัฐบาล ปากท้องพี่น้องประชาชน ไม่สามารถอยู่ดีกินดีได้ ถ้าเรายังอยู่ใต้การนำประยุทธ์ จันทร์โอชา มาร่วมกัน ส่งเสียงขับไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยไปพร้อมกัน" พิธีกรทีมทะลุุฟ้า กล่าว

เวลา 16.23 น. ทีมทะลุฟ้าจัดขบวนไปบ้านพักประยุทธ์ จันทร์โอชา ในกรมทราบราบที่ 1 ถนนวิภาวดี-รังสิต โดยแนวหน้าจะเป็นประชาชนที่ยืนคล้องแขน พร้อมถือป้ายผ้ามีข้อความ 'ประยุทธ์ ต้องออกไปโดยทันที' ถัดมา เป็นรถจักรยานยนต์ รถกระบะเครื่องเสียง และรถพยาบาล  

เวลา 16.28 น. ขบวนของกลุ่มทะลุฟ้า เริ่มเดินโดยหัวขบวนอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ฝั่ง รพ.ราชวิถี โดยขบวนใช้เส้นทางถนนราชวิถี ผ่านหน้าสวนสันติภาพ เลี้ยวซ้ายบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง เพื่อมุ่งหน้าไปที่ถนนอโศก-ดินแดง โดยขบวนใช้เวลาเดินราว 30 นาที จนกระทั่งเวลา 16.55 น. ถึงแยกดินแดง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดี-รังสิต 

คฝ. รัวแก๊สน้ำตา-กระสุนยางใส่ ปชช. อีกครั้งที่แยกดินแดง

เมื่อเวลา 17.00 น. ขบวนทะลุฟ้าเดินเข้ามาถึงแยกดินแดง โดยรักษาแนวอยู่ที่แยกห่างจากแนวคอนเทนเนอร์ ประมาณ 100 เมตร แต่มีสื่อมวลชนกับกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนประชิดแนวคอนเทนเนอร์ และมีการจุดพลุขนาดเล็ก แต่มีผู้ชุมนุมบางคนเข้าไปประกาศบอกให้ใจเย็นๆ 

เวลา 17.12 น. ตำรวจมีการยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมส่วนที่อยู่หน้าแนวคอนเทนเนอร์ แต่มีแก๊สน้ำตาบางส่วนตกใกล้กับแนวผู้ชุมนุมที่อยู่แยกดินแดงด้วย ขณะที่ผู้ชุมนุมมีการตอบโต้ด้วยประทัด 

ด้านพิธีกรประกาศพยายามขอให้ผู้ชุมนุมตอบโต้อย่างสันติวิธี อย่าใช้ความรุนแรง 

"สำหรับมวลชนด้านหน้าหยุดตอบโต้ด้วยความรุนแรง เรามีเพียงสี ที่เป็นเครื่องมือในการแสดงออก ในการตอบโต้ด้วยสันติวิธี พวกเราไม่ต้องการความเสียหาย เรายืนยันในหลักสันติวิธี พวกเราจะไม่ใช้ความรุนแรงต่อเพื่อนมนุษย์ คู่ขัดแย้งของเราคือรัฐบาล พวกเผด็จการพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บริหารงานล้มเหลว 

"พวก (ตำรวจ) แนวหน้าที่ยังรับใช้พลเอก ประยุทธ์ ตอนนี้ พวก คฝ.ตอนนี้มันยังรับใช้พวกทรราช คุณต้องมองถึงประชาชนว่าเขาเดือดร้อน พวกเขามาด้วยความทุกข์ยาก คุณต้องใช้หลักสันติวิธี คุณอย่ามาใช้ความรุนแรงอย่างนี้ คุณมองความเป็นคนได้ไหม ความเป็นคนเท่ากัน" ทีมพิธีกร ทะลุฟ้า กล่าว

พิธีกรทะลุฟ้า ประกาศให้ประชาชนถอยออกมาจากระยะแนวปะทะ พร้อมประกาศว่า เราจะชนะได้ด้วยหลักสันติวิธีเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เหมือนจะไม่เป็นผล ตำรวจยังคงยิงแก๊สน้ำตาจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง และมีรายงานว่าตำรวจใช้แก๊สน้ำตา และกระสุนยางยิงใส่ประชาชนจากบนทางด่วนดินแดง 

เวลา 17.25 น. กลุ่มทะลุฟ้า ประกาศยุติการชุมนุม โดยที่เริ่มทำกิจกรรมบนถนนวิภาฯ เพียงระยะเวลานิดเดียวเท่านั้น

ผู้สื่อข่าว วอยซ์ทีวี รายงานว่าเวลา 17.29 น. ที่แนวปะทะที่แยกดินแดง เมื่อสักครู่มีการระดมยิงแก๊สน้ำตา จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ. ส่งผลให้ประชาชนหลายคนถอยร่นมาทางถนนอโศก-ดินแดง มุ่งหน้าไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขณะที่บางส่วนหนีไปทางใต้ทางด่วนดินแดง และบางส่วนไปทางแฟลตดินแดง-มุ่งหน้าถนนพระราม 9 

นอกจากนี้ ทางวอยซ์ทีวีรายงานด้วยว่า ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท อดีตแกนนำ กปปส. และวันนี้มาร่วมกิจกรรมกับกลุ่มทะลุฟ้า ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า ยังไม่ทราบว่าถูกอะไร แต่ตอนนี้มีเลือดไหลจำนวนมาก แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีผลกระทบต่อการมองเห็นหรือไม่  

ภายหลัง เมื่อเวลา 19.09 น. เฟซบุ๊ก 'Nat Thanakitamnuay' อัปเดตอาการของ 'ลูกนัท' ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าระหว่างชุมนุม 'ศุกร์ 13 ไล่ล่าทรราช' นัดโดยกลุ่มทะลุฟ้า ระบุว่า "ขออนุญาตอัพเดทความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของพี่ลูกนัทนะคะ ขอบคุณทุก ๆ คนที่เป็นห่วงพี่ลูกนัทค่ะ อาการเบื้องต้นตอนนี้ ลูกโลหะแก๊สน้ำตาถูกยิงเข้ามาที่เบ้าคิ้วพี่นัท ทำให้เกิดบาดแผลรูปครึ่งวงกลมที่เบ้าคิ้ว ซึ่งทีมแพทย์ค่อนข้างกังวลว่าการบาดเจ็บนั้นอาจก่อความเสียหายให้แก่ดวงตาของพี่นัท

"เนื่องจากทีมแพทย์ได้เปิดบาดแผล เพื่อพยายามตรวจดวงตาเบื้องต้นแล้ว แต่พบก้อนเลือดกีดขวางอยู่เยอะมาก ทำให้ต้องรมยาสลบพี่นัท และนำตัวเข้าห้องผ่าตัดเพื่อตรวจเช็คความเสียหายอาจที่เกิดขึ้นกับดวงตาค่ะ"

โพสต์เฟซดังกล่าวทิ้งท้ายขอให้ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของตน และขอให้ยึดหลักประท้วงโดยสันติวิธีต่อไป

ทั้งนี้ แม้จะการประกาศยุติการชุมนุมแยกดินแดงแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนยังคงปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์กระชับพื้นที่แยกดินแดงมาจนถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ และมีการพยายามจับกุมผู้ชุมนุมท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัดหน่วง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 18.30 น. ตำรวจ คฝ. พร้อมรถน้ำคุมพื้นที่แยกดินแดงโดนมีกำลังส่วนหนึ่งเดินเข้ามาบริเวณหน้าซอยร่วมมิตร มีการยึดจักรยานยนต์ที่จอดในบริเวณดังกล่าวไป และมีรายงานว่า ประชาชนถูกลูกหลงจากกระสุนยางของควบคุมฝูงชน (คฝ.)

พนักงานส่งของของบริษัทแห่งหนึ่งถูกกระสุนยางยิงเข้าหัวคิ้วขวาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนมายืนหลบฝนใต้ตึกบริษัทไอทีเมเนจเมเนจเมนต์ หน้าซอยคอนโดเกล้าสยาม ขณะที่ยืนดูอยู่ก็เห็นตำรวจควบคุมฝูงชนเดินออกมาจากทางถนนวิภาวดี-รังสิต และก็มีกระสุนยางยิงมาโดนบริเวณหน้าผากเหนือคิ้วข้างขวา 

พนักงานรับส่งของชี้บริเวณที่ถูกกระสุนยาง

พร้อมกันนี้ มีรายงานว่า ผู้สื่อข่าววอยซ์ทีวีถูกกระสุนยิงเข้าที่ต้นขาอีกด้วย 

สำนักข่าว The Reporters รายงานว่า เมื่อเวลา 19.23 น. ตำรวจส่งชุดเคลือนที่เร็ว เพื่อควบคุมสถานการณ์ และจับกุมผู้ชุมนุมที่ยังหลงเหลืออยู่ตามถนนราชวิถี ราชปรารภ และทางถนนอโสก-ดินแดง มุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 9  

'ราษฎรตาลีบัน' : ออกมาดีกว่าอยู่เฉยๆ 

วัยรุ่น (สงวนชื่อ-นามสกุล) อายุ 17-18 ปี มักปรากฎอยู่แนวหน้าของการชุมนุมในช่วงหลัง จนมีผู้เรียกเชิงล้อเลียนว่า 'ราษฎรตาลีบัน' ให้เหตุผลยังออกมาเคลื่อนไหวหรือชุมนุมในช่วงนี้ว่า ดีกว่าอยู่เฉยๆ หากพวกตนไม่ออกมานั้น เขาก็จะไม่รู้ว่ามีคนเรียกร้องประเด็นนี้ อย่างน้อยหากเขาดูอยู่เขาก็ต้องคิดบ้างว่ามีคนที่ออกมาเรียกร้อง เมื่อเรามี 1 สิทธิ 1 เสียงอย่างน้อยเราออกมา คนที่คิดเหมือนเราก็ออกมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามการชุมนุมได้จากทางเฟซบุ๊ก ประชาไท Prachatai.com