‘นี่คือหมายการเมือง’ ณธีภัสร์ ส.ส.ก้าวไกล ชี้ชัด หลังโดนหมายเรียกร่วมเวทีม็อบสมรสเท่าเทียม ยืนยันก้าวไกลพร้อมผลักดันสมรสเท่าเทียม เคียงข้างประชาชน ด้านศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผยมีผู้ได้รับหมายเรียกจากการร่วมกิจกรรม #ม็อบ28พฤศจิกา64 หรือม็อบสมรสเท่าเทียม ทั้งหมด 20 ราย โดยหนึ่งในนั้น คือ ชานันท์ ยอดหงษ์ ผู้รับผิดชอบนโยบายด้านอัตลักษณ์และความหลากหลายทางเพศของพรรคเพื่อไทย
17 ธ.ค. 2564 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่าเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2564 เวลา 12.35 น. ที่อาคารรัฐสภา ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีได้รับหมายเรียกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีร่วมปราศรัย #ม็อบ28พฤศจิกา64 หรือม็อบสมรสเท่าเทียม จัเขึ้นที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2564 โดยมีธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ และอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าวดังกล่าว
ณธีภัสร์ กล่าวว่า จากกรณีที่ตนร่วมปราศรัยม็อบสมรสเท่าเทียม ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2564 แต่กลับได้รับหมายเรียกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในข้อหาร่วมกันจัดกิจกรรมมีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งประชาชนทราบดีอยู่แล้วว่า พระราชกำหนดฉบับนี้ ประกาศในช่วงที่สถานการณ์โควิดรุนแรงและต่ออายุมาเรื่อยๆ ทั้งที่จริง รัฐบาลสามารถยกเลิกและใช้เพียง พ.ร.บ.คุ้มครองโรคติดต่อได้นานแล้ว แต่รัฐยังคงใช้ พรก.ฉบับนี้เป็นเครื่องมือและข้ออ้างในการจัดการกับผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง
ณธีภัสร์ กล่าวต่อว่า ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน หมายที่ตนถูกเรียกจึงเป็นเพียง 'หมายการเมือง' ที่ทำไปเพื่อข่มขู่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ให้ขึ้นเวทีปราศรัย และข่มขู่ประชาชนไม่ให้จัดการชุมนุม เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ และการออกหมายดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญมาตรา 125 หากจะออกหมายเรียกสภาผู้แทนราษฎร เจ้าหน้าที่จะต้องส่งไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสภาผู้แทนราษฎรอนุมัติก่อน แต่เจ้าหน้าที่กลับเลือกที่จะไม่ปฏิบัติทางกฎหมาย ส่งหมายเรียกโดยตรงถึงตัว ส.ส. ทั้งที่รู้ดีว่าไม่มีอำนาจที่จะกระทำได้ ซึ่งตนจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
นอกจากนี้ ณธีภัสร์ ขอยืนยันว่า ตนไม่สามารถไปตามหมายเรียกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้ แต่ตนจะไปตามหมายเรียกในฐานะผู้สังเกตการณ์ และไปให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ในวันนั้นที่ออกมาต่อสู้เพื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียม และต่อสู้เพื่อบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศร่วมกัน และตนจะไปตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบว่าประชาชนได้รับการปฏิบัติจากเข้าหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ไปเพื่อต่อสู้ข้างประชาชน ไม่ปล่อยให้ประชาชนต่อสู้อย่างลำพังแน่นอน โดยตนและพรรคก้าวไกล ยืนยันจะผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเต็มความสามารถเพื่อไม่ให้การต่อสู้ของพี่น้องประชาชนต้องสูญเปล่า
ด้าน อมรัตน์ ระบุว่า ตนมีประสบการณ์ได้รับหมายเรียกกว่า 14 ฉบับ จากการละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งตนในฐานะผู้สังเกตการณ์ และประธานคณะติดตามสถานการณ์ชุมนุม ตนได้ติดตามการชุมนุมทุกครั้งและได้รับหมายเรียกมาโดยตลอด โดยเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) ทาง กมธ. ได้เชิญ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บัญชาการอารักขาและควบคุมฝูงชน มาชี้แจง แต่ก็ไม่สามารถชี้แจงได้ว่า ที่ผ่านมา ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในคดีเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคไปกี่คดี ซึ่งแทบจะ 100% ในข้อหาละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เจ้าหน้าที่รัฐใช้กับการชุมนุม และผู้เห็นต่างทางการเมือง ยิ่งตอกย้ำว่า นี่คือหมายการเมือง ที่รัฐบาลใช้ปิดปากผู้เห็นต่างทางการเมือง ละเมิดสิทธิและเสรีภาพประชาชน ที่สำคัญ รัฐบาลอ้างนำมาป้องกันเชื้อโรค แต่ไม่เห็นรัฐบาลใช้กฎหมายจัดการกับผู้กระทำผิดที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
อมรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า พรรคก้าวไกล จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับคนตัวเล็กตัวน้อยที่โดนรังแกจากอำนาจอยุติธรรมของรัฐ เพื่อรักษาความยุติธรรมให้เกิดในสังคมไทยต่อไป
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา ณธีภัสร์โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก เตอร์ ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ - Nateepat Kulsetthasith ระบุว่าตนได้รับหมายเรียกให้ไปหรายงานตัวตามรายละเอียดที่แถลงข่าวไปข้างต้น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า "ม็อบที่โดนหมายแบบนี้เป็นฝ่ายต่อต้านเผด็จการทหารเท่านั้น ฝ่ายสนับสนุนนั้นกลับไม่โดนดำเนินคดี"
นอกจาก ณธีภัสร์ที่ได้รับหมายเรียกจากกรณีร่วมชุมนุมในม็อบสมรสเท่าเทียมเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2564 ยังมีชานันท์ ยอดหงษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ผู้รับผิดชอบนโยบายด้านอัตลักษณ์และความหลากหลายทางเพศ ก็ได้รับหมายเรียกจาก สน.ลุมพินี ให้ไปรายงานตัวจากกรณีร่วมปราศรัยในการชุมนุมดังกล่าวเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยังรายงานเพิ่มเติมว่ามีบุคคลที่ได้รับหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากการร่วมชุมนุมม็อบสมรสเท่าเทียมเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 20 คน โดยตำรวจกำหนดให้ผู้ที่ได้รับหมายเรียกเดินทางไปรายงานตัวในวันที่ 21 ธ.ค. ที่จะถึงนี้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2564 กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกโพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ @femliberateth ระบุว่า ตัวแทนกลุ่มได้นำจดหมายส่งถึง สน.ลุมพีนี เพื่อแจ้งว่าจะจัดกิจกรรมรณรงค์สาธารณะเพื่อสมรสเท่าเทียม และขอให้ตำรวจช่วยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในแก่ประชาชน ในวันที่ 28 พ.ย. 2564 เวลา 16.00 น. ที่บริเวณแยกราชประสงค์
ก็แค่มาแจ้งอะค่ะ
— เฟมินิสต์ปลดแอก (เฟมทวิต) (@femliberateth) November 25, 2021
มาแจ้งไม่ใช่มาขอชุมนุม
วันนี้ เฟมินิสต์ปลดแอก นำจดหมายส่งถึง สน.ลุมพีนี เพื่อแจ้งว่าจะจัดกิจกรรมรณรงค์สาธารณะเพื่อสมรสเท่าเทียม และขอให้อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย ในวันที่ 28 พฤศจิกายน เวลา 16.00 ที่บริเวณแยกราชประสงค์#ม็อบสมรสเท่าเทียม #ม็อบ28พฤศจิกา pic.twitter.com/Xk0KkgDZL9
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)