Skip to main content
sharethis

สะใจไหม สิระ เจนจาคะ ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ้น ส.ส. เพราะเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุด ลงโทษจำคุกคดีฉ้อโกงเมื่อ 26 ปีก่อน

คนจำนวนมากสะใจ เพราะมองว่าสิระกร่าง รับใช้อำนาจ ขัดขวางการตรวจสอบรัฐบาล ฯลฯ แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่ศาลวินิจฉัย สมมติสิระเคยทำผิดแล้วกลับตัวกลับใจ เป็น ส.ส.ที่ยึดมั่นประชาธิปไตย ก็ถูกวินิจฉัยให้พ้น ส.ส.อยู่ดี

รัฐธรรมนูญมาตรา 98(10) ห้ามผู้เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในความผิดบางประเภทลงสมัคร ส.ส. ได้แก่ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริต (สิระเข้าข่ายนี้) ความผิดกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ค้าหรือผลิตยาเสพติด เจ้ามือหรือนายบ่อนพนัน ค้ามนุษย์ ฟอกเงิน

ซึ่งมีผลย้อนหลังและต้องห้ามตลอดชีวิต สิระสมัคร ส.ส.ไม่ได้อีก จากความผิดสมัยเป็นเซลส์ขายรถเมื่อ 26 ปีก่อน ทั้งที่ชาวบ้านเห็นคาตาว่า นายบ่อนเป็น ส.ส.ได้ “แป้ง” ก็เป็นรัฐมนตรีได้

พูดแบบนี้ไม่ใช่อยากให้สิระเป็น ส.ส.ต่อไป โคตรสะใจเหมือนกัน แต่ถ้าแยกตัวบุคคลจากหลักการ ข้ออ้างที่ว่าต้องการให้ผู้สมัคร ส.ส. “ปราศจากมลทินมัวหมอง” มันมีกลิ่นอายของรัฐศาสนา อำนาจศักดิ์สิทธิ์ หรือพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ต้องกลั่นกรองคนก่อนให้ประชาชนเลือก เพราะมองว่าประชาชนไร้สมองหรือกิเลสหนา

มาตรา 98(10) เพิ่งมีในรัฐธรรมนูญ 2560 รัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆ ห้ามเฉพาะผู้ถูกออกจากราชการฐานทุจริต ตอนนี้ห้ามกว้างไปหมด (รวมถึงคดีฉ้อโกงแบบสิระ ซึ่งอันที่จริงยอมความได้)

มาตรา 98(7) คนเคยติดคุกในคดีอื่นๆ ต้องพ้นโทษสิบปี จึงสมัคร ส.ส.ได้ จากเดิมห้าปี

รัฐธรรมนูญ “คนดีย์” 2560 จึงมาจากทัศนะดูถูกประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ว่าเป็นเด็กอมมือเลือก ส.ส.ไม่เป็น ทั้งที่คนเคยติดคุกก็ไม่เห็นเป็นไร ถ้าเขากลับตัวเป็นคนสุจริต เป็นที่ยอมรับของสาธารณชน

กรณีสิระ ถ้ามองในทัศนะประชาธิปไตย ปัญหาไม่ใช่เคยต้องคำพิพากษาจำคุก แต่อยู่ที่ไม่เปิดเผยอดีต ปกปิดตัวตน โดดขึ้นมาเป็นคนดีย์ด้วยการติดป้าย “คิดดีทำดี” ปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้งกับพุทธะอิสระ จนรัฐประหารตั้งเป็น สปช.

คนเลือกสิระก็ไม่ใช่เด็กอมมือ แต่หูตาฝ้าฟางเลือกพลังประชารัฐ หนุนประยุทธ์คนดีย์สืบทอดอำนาจ ซึ่งหากเทียบกันก็ตลกร้าย ประยุทธ์ทำรัฐประหารเป็นกบฏ แต่นิรโทษตัวเองได้ สิระเบี้ยวเงินสมัยเป็นเซลส์ขายรถ มี พ.ร.บ.ล้างมลทินแล้วยังขาดคุณสมบัติตลอดชีพ

ตอนประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็ถกเถียงกันว่ามีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98(15) “เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” หรือไม่ อ๋อ ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าไม่ใช่ เป็นรัฏฐาธิปัตย์ไปโน่นเลย

รัฐธรรมนูญคนดีย์กำจัดสิระ จึงไม่ใช่ของขวัญปีใหม่ เช่นเดียวกับกำจัด 5 อดีต กปปส. หรือต่อไปอาจเป็นวิรัช ปารีณา

มันซ่อนความน่าสะพรึงกลัวด้วยซ้ำว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ที่แก้ไม่ได้ ไม่ยอมให้แก้ จะยิ่งสถาปนาระบอบคนดีย์ลวงตา องค์กรอิสระต่างๆ จะเป็นผู้วิเศษคุ้มครอง ใครไม่พึงประสงค์ จะกำจัดให้ประชาชนแซ่ซ้อง ทั้งที่โครงสร้างยังไม่เป็นประชาธิปไตย 250 ส.ว.ยังอยู่ เป็นผู้ปราศจากมลทินมัวหมอง ทั้งที่มาโดยไม่ชอบธรรม กร่างกว่าสิระด้วยซ้ำไป

“ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ที่ความเป็นประชาธิปไตยหดแคบลง ตามศาลรัฐธรรมนูญตีความ ก็จะยิ่งสร้างความมั่นคง บังคับให้ประชาชนยอมจำนนต่อเพดานที่ต่ำลง แค่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ขายความฝัน “แลนด์สไลด์” เข้ามาแทนประยุทธ์ในโครงสร้างอำนาจที่เปลี่ยนไม่ได้

รัฐธรรมนูญคนดีย์นี่แหละอันตราย ใช้กำจัดฝ่ายประชาธิปไตยมาเยอะแล้ว ตั้งแต่ยุบพรรคพลังประชาชนจนถึงอนาคตใหม่ ธนาธรก็ไม่ได้เป็น ส.ส.เพราะข้อห้ามถือหุ้นสื่อ ทั้งที่เป็นแค่นิตยสารแฟชั่น ไม่ส่งผลต่อความได้เปรียบทางการเมือง แต่การกำหนดคุณสมบัติจุกจิก มันเพิ่มอำนาจองค์กรศักดิ์สิทธิ์ อำนาจตีความ ให้อยู่เหนืออำนาจอธิปไตยของปวงชน จนอำนาจเลือกตั้งไม่มีความหมาย

ผู้สมัคร ส.ส.ต้องปราศจากมลทินมัวหมอง แล้วใครบ้างสูงส่ง คณะรัฐประหาร คณะเนติบริกร องค์กรกฎหมาย องค์กรอิสระ ผู้พิทักษ์ทั้งหลายที่ปั้นหน้าเคร่งขรึมปากถือศีล แล้วกลายเป็นอภิสิทธิ์ชน ทั้งที่เป็นคนเท่ากัน

ใครก็ได้สมัคร ส.ส. ไม่เห็นต้องมีข้อห้ามยุ่งยาก กฎหมายเลือกตั้งทั้งโลกไม่มีประเทศไหนจุกจิกเท่าประเทศไทย ยกเว้นรัฐศาสนา หรือฮ่องกงใต้บังคับบัญชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน ไม่มีองค์กรจัดการเลือกตั้งที่ไหนในโลก ใหญ่โตมโหฬารเปลืองงบประมาณมีอำนาจมากเท่า กกต. ซึ่งเอาเข้าจริงได้แต่จ้องจับผิดจุกจิก จับทุจริตไม่ได้ เลือกสิระก็ไฟดับ

แน่ละ ฝั่งประชาธิปไตยหรือแม้แต่ชาวบ้านทั่วไปที่เหลือทนกับสิระ อาจจะขอไชโยโห่ร้องสะใจอีกสักครั้ง แต่หลังจากนั้นก็ต้องตระหนักว่า นี่เป็นอำนาจอันตราย อย่าไปยุยงส่งเสริมให้ใช้อำนาจที่ขัดต่อหลักการประชาธิปไตย เช่นยุบพรรคพลังประชารัฐ ต้องรับผิดฐานส่งสมัคร ฯลฯ

เพราะนอกจากขัดหลักการ ยังรู้กันว่าเป็นไปไม่ได้

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ https://www.khaosod.co.th/politics/news_6799173

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net