กลุ่มรีพับลิก (Republic) ผู้เรียกร้องให้สหราชอาณาจักรเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสาธารณรัฐ เตรียมออกแคมเปญ “ล้มราชวงศ์” ก่อนถึงพระราชพิธีฉลอง ‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’ ครองราชย์ครบ 70 ปีในเดือน มิ.ย. นี้ พร้อมชวนประชาชนตั้งคำถาม ‘ราชวงศ์คืออะไร’ และ ‘อะไรคือสิ่งที่ผลาญงบประมาณของประเทศกันแน่’ ด้านโพลล์เผยคนรุ่นใหม่ในสหราชอาณาจักรมีแนวคิดนิยมสาธารณรัฐมากขึ้น
11 ม.ค. 2565 รีพับลิก (Republic) กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อเรียกร้องให้สหราชอาณาจักรเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสาธารณรัฐ ประกาศเมื่อวานนี้ (10 ม.ค. 2565) ว่าพวกเขาเตรียมออกแคมเปญรณรงค์ “ยกเลิกราชวงศ์อังกฤษ” ในช่วงก่อนถึงพระราชพิธีฉลองวาระการครองราชย์ครบรอบ 70 ปีหรือพระราชพิธีแพลทินัมจูบิลี (Platinum Jubilee) ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย. ปีนี้
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีพระชนมายุ 95 พรรษา เป็นกษัตริย์ที่มีอายุมากที่สุดในโลกและครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก โดยในวันที่ 6ก.พ. 2565 พระองค์จะทรงครอชราชย์ครบ 70 ปี ซึ่งสำนักพระราชวังบักกิงแฮมเปิดเผยว่าแผนการจัดงานพระราชพิธีแพลทินัมจูบิลีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 นั้นจะใช้เวลาเฉลิมฉลองทั้งสิ้น 4 วันเต็ม
อย่างไรก็ตาม กลุ่มรีพับลิกซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านราชวงศ์ใช้โอกาสนี้เพื่อประกาศแคมเปญ “Not Another 70” (ไม่มีอีก 70 ปี) เรียกร้องให้ยกเลิกสถาบันการเมืองรูปแบบเก่าตามประวัติศาสตร์อย่างสถาบันกษัตริย์
เกรแฮม สมิท ผู้ก่อตั้งกลุ่มรีพับลิก กล่าวว่า “ขณะที่เสียงส่วนน้อยต้องการจะเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 70 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แต่เรากลับต้องเริ่มมองต่อไปยังอนาคตทั้งหมด ภาพของพระเจ้าชาร์ลส์ซึ่งป็นว่าที่กษัตริย์องค์ต่อไปนั้นไม่ใช่ภาพที่น่ายินดี และเรามีทางเลือกสำหรับประชาธิปไตยที่ดีกว่ามาเสนอให้คุณ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
“ถึงเวลาแล้วที่เราต้องถกเถียงกันอย่างจริงจังเรื่องรัฐธรรมนูญของสหราชอาณาจักร ยอมรับเสียว่า ‘ชาร์ลส์’ ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดที่ประเทศนี้จะได้รับ และเราสามารถเลือกประมุขของประเทศได้ ในฐานะที่เราเป็นคนชาติเดียวกัน” สมิท กล่าว
สมิท กล่าวต่อไปว่า “ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปฏิเสธเหตุผลโต้แย้งอันไร้สาระ ทั้งเรื่องการท่องเที่ยว ความมีเสถียรภาพ และความรักที่มีต่อราชวงศ์ เราต้องมองอย่างมีเหตุและผลว่าแท้จริงแล้ว ‘ราชวงศ์คืออะไร’ และ ‘อะไรคือสิ่งที่ผลาญงบประมาณของประเทศกันแน่’ ค่าใช้จ่ายเหล่านั้นไม่ใช่แค่งบประมาณรายปี แต่มันคือค่าใช้จ่ายเพื่อประชาธิปไตยของเรา เพื่อสถานะพลเมืองของเรา และเพื่อหลักการของเรา”
“ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา สมาชิกราชวงศ์ถูกกล่าวหาว่าเหยียดเชื้อชาติ โกหกตลบแตลงเรื่องการต่อสู้กับสภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง มีความลับผิดบังอำพราง ใช้เงินภาษีในทางที่ผิด ใช้จ่ายเงินเพื่อเกียรติยศของตนเอง และเพื่อเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ทั้งยังมีประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งรวมถึงการปกป้องเขาจากกระบวนการยุติธรรม”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
“นี่คือสถาบันเก่าแก่และทรุดโทรมที่ไม่สมควรไปต่อ สถาบันนี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อต่อต้านหลักการประชาธิปไตยที่หยั่งรากลึกอย่างมากในชาติของเรา เป็นสถาบันที่เต็มไปด้วยความลับและการทุจริต ซึ่งส่งผลร้ายต่อประชาธิปไตยของสหราชอาณาจักร”
“ตอนนี้ คือเวลาที่เราจะต้องมองไปยังอนาคตที่เป็นประชาธิปไตย และอนาคตที่ปราศจากสถาบันกษัตริย์” สมิท กล่าว พร้อมบอกว่าทางกลุ่มจะเปิดเผยรายละเอียดแคมเปญ “Not Another 70” ในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในสหราชอาณาจักรที่มีต่อสถาบันกษัตริย์รวมถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงชื่นชอบในตัวพระองค์และอยากให้สถาบันกษัตริย์คงอยู่ แต่ความนิยมดังกล่าวกลับลดลงเมื่อเป็นเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ นอกจากนี้ ผลสำรวจต่างๆ ยังระบุว่าประชาชนคนรุ่นใหม่ในสหราชอาณาจักรเริ่มมีความคิดเห็นให้ประเทศเปลี่ยนรูปแบบการปกครองเป็น ‘สาธารณรัฐ’ มากขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
แปลและเรียบเรียงจาก:
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)