Skip to main content
sharethis

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม บุกยื่นหนังสือ 'ประวิตร' ขณะลงพื้นที่หาเสียง ร้องทวงสิทธิที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยอย่างเป็นธรรม สิทธิทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง และสิทธิที่จะมีรัฐสวัสดิการ เป็นต้น ส่วนวันนี้ยื่น UN ช่วงเย็นเสวนาปัญหาสลัมสี่ภาค

25 ม.ค.2565 เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเย็น ที่ชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนา หรือ เชิงสะพานไม้ 2 เขตหลักสี่ กทม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ช่ว สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ หรือ 'มาดามหลี' ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตหลักสี่-จตุจักร หมายเลข 7 พรรคพลังประชารัฐ หาเสียงที่ชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนา หรือ ชุมชนเชิงสะพานไม้ 2 และใกล้เคียง โดย ผู้สื่อข่าว ‘วอยซ์’ รายงานว่า ระหว่างที่พล.อ.ประวิตร ทักทายประชาชนอยู่นั้น มีตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟเดินทางมายื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประวิตร เพื่อต้องการให้ไปรับหนังสือและมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภาคประชาชนที่หน้าที่ทำการสหประชาชาติหรือยูเอ็นประจำประเทศไทย ซึ่งกลุ่มพีมูฟปักหลักชุมนุมรออยู่กว่า 5 วันแล้ว โดยมี อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย สิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวแทนรับหนังสือแทนพล.อ.ประวิตร ไว้ก่อน

ส่วนวันนี้ (25 ม.ค.) พชร คำชำนาญ โพสต์รายละเอียดกิจกรรมของพีมูฟทวงสิทธิ ว่า เวลา 9.00 น. ยื่นหนังสือถึง UN ในฐานะองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน ในวันที่หลากหลายปัญหาการละเมิดสิทธิรุมเร้า UN จะเดินหน้ายืนหยัดจุดยืนเพื่อสิทธิมนุษยชาได้ขนาดไหน ส่วนช่วงเย็นเครือข่ายสลัมสี่ภาค จะพาพวกเราทุกคนสู่ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาที่ดินชุมชนทับซ้อนกับที่ดินรถไฟมากขึ้น

ทั้งนี้ช่วงสายของวานนี้ (24 ม.ค.) เวลา 9.15 น. พีมูฟทวงสิทธิ ตั้งขบวนเพื่อเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยตำรวจตั้งแนวลวดหนามกั้นถ.พิษณุโลกหน้า โรงเรียนราชวินิตมัธยม ทำให้ตั้งแต่ 11.20 น.ที่ผ่านมากลุ่มดังกล่าวยังคงปักหลักอยู่บนท้องถนน เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปยื่นร่างมติ ครม. ภาคประชาชนได้ โดยมีข้อเรียกร้องแรกในขณะนี้ที่จะเปิดเงื่อนไขการเจรจาคือ รื้อแนวลวดหนามดังกล่าวออกทั้งหมด

ทั้งนี้ข้อเรียกร้องของพีมูฟ เช่น การทวงสิทธิที่จะได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยอย่างเป็นธรรม สิทธิในการเข้าถึงการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ สิทธิทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง และสิทธิที่จะมีรัฐสวัสดิการ เป็นต้น

สำหรับแถลงการณ์ของพีมูฟ มีดังนี้

แถลงการณ์ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)

พีมูฟทวงสิทธิ สร้างอำนาจกำหนดชีวิตด้วยมติ ครม. ภาคประชาชน

​นับเป็นวันที่ 5 แล้วที่พวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ปักหลักชุมนุมอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าต้องได้พบพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของพีมูฟ และยื่นข้อเรียกร้องเชิงนโยบายทั้งสิ้น 15 ข้อ เข้าสู่การประชุมของคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเท่านั้น

​จนถึงวันนี้ เราได้พบเพียงผู้แทนที่อ้างตนว่าได้รับมอบหมายให้มาดูแลประเด็นปัญหาของพวกเราจากพลเอกประวิตร ที่ทำงานไม่ต่างจากบุรุษไปรษณีย์ ทำได้เพียงส่งสาร แต่ปรากฏชัดว่าไม่สามารถประสานงานไปยังพลเอกประวิตรได้จริงและไม่มีอำนาจในการตัดสินใจนำข้อเรียกร้องของเราเข้าสู่การประชุม ครม. ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบและข้อกฎหมายของทางราชการมากกว่าชีวิตและความเป็นความตายของประชาชน

​เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราจึงได้ร่างมติคณะรัฐมนตรีฉบับภาคประชาชนขึ้นมา ประกอบด้วยข้อเรียกร้องทั้ง 15 ข้อ และรายละเอียดจากพวกเราประชาชนที่ประสบปัญหาตัวจริงเสียงจริง พวกเราใช้เวลาเพียง 1 วันในการทำให้ร่างมติ ครม. นี้เกิดขึ้น เพราะเราอยากสะท้อนให้ผู้มีอำนาจและเพื่อนๆ อีกหลายกลุ่มได้เห็นว่า ปัญหาเชิงนโยบายเหล่านี้ไม่อาจรอให้เวลาล่วงเลยไปแล้วจึงค่อยแก้ หากรัฐบาลมีความจริงใจและมีประสิทธิภาพมากพอก็จะสามารถแก้ไขปัญหานำเข้าสู่ ครม. ได้โดยไร้ข้ออ้างใดๆ

​นับแต่บัดนี้ เราจะนำร่างมติ ครม. ภาคประชาชนไปยื่นให้ถึงมือ ครม. พวกเราได้ประกาศระดมกำลังมวลชนเพิ่มเติม จนมีมวลชนไม่ต่ำกว่า 1,000 คน จาก 119 เครือข่าย และจะทยอยเข้ามาสมทบเรื่อยๆ เราจะนำมวลชนของพวกเราเคลื่อนขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นร่างมติ ครม. ฉบับนี้ และจะมีทั้งหมด 2 เงื่อนไขที่รัฐบาลต้องรับ ได้แก่

1. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนากยกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ต้องมารับร่างมติ ครม. ภาคประชาชนด้วยตนเอง

2. จะไม่มีการเปิดเจรจาวงเล็ก แต่ให้มารับร่าง มติ ครม. ภาคประชาชนด้วยตนเอง และเจรจาต่อหน้าผู้เข้าร่วมชุมนุมทั้งหมด

3. จะต้องมีหลักประกันที่ชัดเจน เป็นลายลักษณ์อักษร ว่าจะมีการนำข้อเรียกร้องทั้งหมดเข้าสู่การประชุมของ ครม. ให้มีมติเห็นชอบโดยเร็วที่สุด

​พวกเรายืนยันว่า เราให้เวลาท่านในการแก้ไขปัญหาของพวกเรามานานพอแล้ว และไม่อาจทนรอได้อีกต่อไป ยิ่งดำเนินการล่าช้าเท่าไร มวลชนก็จะเพิ่มมากขึ้น และการเคลื่อนไหวก็จะถูกยกระดับมากขึ้นเท่านั้น และอาจนำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลท่ามกลางความสั่นคลอนของพวกท่านเอง

พีมูฟทวงสิทธิ สร้างอำนาจกำหนดชีวิตประชาชน

24 มกราคม 2565

 

.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net