ยก ‘น้ำมันรั่วระยอง’ เตือนใจ ‘ก้าวไกล’ จ่อยื่นร่างแก้ไข กม.ส่งเสริมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม

ยกเคส ‘น้ำมันรั่วระยอง’ เตือนใจ ‘ก้าวไกล’ เตรียมยื่นร่างแก้ไข พ.ร.บ.ส่งเสริมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ย้ำ ต้องมีมาตรการคุ้มครองประชาชนอย่างรวดเร็ว เป็นธรรม ครอบคลุมระยะยาว

 

25 ก.พ.2565 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (25 ก.พ.65) ที่อาคารรัฐสภา เบญจา เเสงจันทร์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนภาคตะวันออก พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี, นิติพล ผิวเหมาะ และ วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวถึงความจำเป็นในการเสนอแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เพื่อให้ร่างกฎหมายดังกล่าวสามารถดูเเลคุณภาพชีวิตประชาชนได้อย่างครอบคลุมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

เบญจา กล่าวว่า จากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเลของบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน หรือ SPRC ในบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง ตั้งแต่คืนวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา เราพบว่าไม่ใช่การรั่วไหลเพียงครั้งเดียว เพราะหลังจากนั้นยังเกิดเหตุคล้ายกันอีกครั้งแล้วครั้งเล่าถึง 3 ครั้ง จนถึงวันนี้ ผ่านมา 1 เดือนแล้ว ก็ยังไร้ข้อสรุปว่ามีปริมาณน้ำมันรั่วที่แท้จริงไหลออกมาเป็นปริมาณเท่าไหร่ 

แต่ผลกระทบที่ตามมาคือ ชาวระยอง แม่ค้าอาหารทะเล ชาวประมงผู้ประกอบการท่องเที่ยว นักวิชาการ และคนในสังคม มีความกังวลอย่างมากว่า ในการควบคุมปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลมีการใช้สาร dispersant หรือสารเคมีสลายคราบน้ำมันในทะเลจำนวนมาก จึงอาจกลายเป็นสารปนเปื้อนที่ตกค้างอยู่ในทะเลและส่งผลกระทบต่อจำนวนสัตว์น้ำในระยะยาว รวมถึงกังวลว่ามีสารตกค้างนี้มีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นสารก่อมะเร็งได้หรือไม่ จึงถือเป็นเป็นผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออาชีพประมง แม่ค้าอาหารทะเล ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยมีคำถามที่ตามมาว่าแล้วการชดเชยเยียวยากรณีนี้จะเป็นอย่างไรต่อในระยะยาว

“1 เดือนผ่านไปแล้ว คำถามเหล่านี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน การที่บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ข้ามชาติทำน้ำมันรั่วซ้ำแล้วซ้ำเล่า สร้างความเสียหายต่อพี่น้องประชาชน ทำลายวิถีชีวิตชาวประมง สภาพแวดล้อมทางทะเล เศรษฐกิจการท่องเที่ยว ทรัพยากรธรรมชาติทั้งทางทะเลและบนบก ทำลายแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทำลายแหล่งเพาะพันธ์และอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำรวมไปถึงป่าชายเลน ระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหารทั้งหมด ผลกระทบต่อเศรษฐกิจเมืองท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มากมายมหาศาลเช่นนี้ หน่วยงานรัฐจะต้องมีบทลงโทษที่เป็นรูปธรรมอย่างเร่งด่วน อย่าทำเพียงแค่แจ้งความดำเนินคดีแล้วจบไป ต้องเอาจริงเอาจังในการบังคับให้เอกชนต้องรับผิดชอบ รวมถึงต้องมีการวางมาตรการในการป้องกันเหตุเช่นนี้อีกในอนาคต ต้องเร่งรัดให้มีการดำเนินการชดใช้ ชดเชย เยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบ และจัดทำแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมโดยทันที”  

เบญจา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีพรรคก้าวไกลได้แถลงไปแล้วหลายครั้ง ว่าจะใช้ทุกกลไก ทั้งในสภาและนอกสภา ในการเฝ้าจับตา ติดตาม ตรวจสอบผลกระทบที่จะตามมา และจะหามาตรการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการยื่นแก้ไขกฎหมายเป็นจะเป็นอีกมาตรการหนึ่งในการทวงคืนความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชนและการเยียวยาสิ่งแวดล้อม โดยร่างกฎหมายที่ทางพรรคก้าวไกลกำลังจัดทำฉบับนี้ จะยื่นทันทีเมื่อสภาเปิดสมัยประชุม

วรภพ กล่าวว่า หากมัวเเต่ปล่อยให้พี่น้องประชาชนรอการดำเนินงานของภาคเอกชนที่ทำอย่างล่าช้า ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตก็จะดำเนินต่อไปในระยะยาว พรรคก้าวไกลจึงเสนอแก้ไขกฎหมาย โดยแก้ไขเพิ่มให้มีกองทุนส่งเสริมสิ่งเเวดล้อมมาทำหน้าที่ นอกจากการเยียวยาพี่น้องประชาชนแล้ว จะต้องเป็นตัวเเทนในการไล่ฟ้องภาคเอกชนเเทนประชาชนด้วย เพื่อให้เกิดการคุ้มครองได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม โดย ร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของพรรคก้าวไกล จะแก้ไขเพิ่มเติมอีก 8 มาตรา ประกบเข้าไปในการแก้ไข พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เพื่อให้ร่างกฎหมายดังกล่าวสามารถดูเเลคุณภาพชีวิตประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมได้อย่างครอบคลุมทั้งในระยะสั้นไปจนถึงระยะยาว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท