ทูตยูเครนในไทยแถลงชัด 'ยังไม่มีคนไทยไปช่วยรบ'-จี้รัสเซียหยุดยิง แล้วยูเครนจะเป็นมิตร

"หยุดฆ่าเราแล้วเราจะเป็นมิตรด้วย" อุปทูตยูเครนประจำประเทศไทยแถลงชัดต่อสื่อไทยและสื่อต่างชาติในไทยกรณีกองทัพรัสเซียใช้กำลังทหารบุกรยูเครน ชี้ การบุกยูเครนของรัสเซียคือ "สงครามเต็มรูปแบบ" เผย ยังไม่มีคนไทยเดินทางไปช่วยรบในยูเครน พร้อมชี้แจงรายละเอียดเงินบริจาคที่คนไทยส่งให้ยูเครนกว่า 7 ล้านบาท รวมถึงการช่วยเหลือชาวยูเครนพลัดถิ่นที่อาศัยอยู่ในไทยและเดินทางกลับประเทศไม่ได้

18 มี.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (18 มี.ค. 2565) เวลา 11.00 น. ที่โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ สถานทูตยูเครนประจำประเทศไทยจัดงานแถลงข่าวสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยเชิญสื่อไทยและสื่อต่างประเทศในไทยเข้าร่วม โอเล็กซานเดรอ ไลซัค (Oleksandr Lysak) อุปทูตยูเครนประจำประเทศไทย เป็นผู้อ่านแถลงการณ์และตอบคำถามผู้สื่อข่าว

แถลงการณ์ของสถานทูตยูเครนกล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมของสงครามที่เกิดขึ้นจากการรุกรานของรัสเซียตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน พร้อมเน้นย้ำจุดยืนของยูเครนที่ต้องการใช้วิธีการสันติภาพเพื่อหาทางออกให้กับข้อพิพาท โดย 2 เงื่อนไขแรกในการเจรจาสันติภาพคือเรื่องการหยุดยิงและรัสเซียต้องถอนกำลังทหารออกจากยูเครนทั้งหมด นอกจากนี้ อุปทูตยูเครนยังกล่าวขอบคุณประชาคมโลกที่ร่วมส่งแรงใจและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ยูเครน พร้อมระบุว่าไทยร่วมบริจาคเงินให้กับสถานทูตยูเครนตามบัญชีบนหน้าเฟซบุ๊กเพจของสถานทูต เป็นเงินกว่า 7 ล้านบาท

โอเล็กซานเดรอ ไลซัค (Oleksandr Lysak) อุปทูตยูเครนประจำประเทศไทย
 

ระหว่างการแถลงข่าว อุปทุตยูเครนบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตได้วิดีโอคอลพูดคุยกับยูเฮนี เฮราซิมชุก (Eugene Gerasymchuk) ประชาชนในเมืองซูโตเมียร์ (Zhytomyr) อยู่ทางตะวันตก ห่างจากกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนประมาณ 150 กิโลเมตร และขออนุญาตเปิดการพูดคุยผ่านวิดีโอคอลแบบสดขึ้นบนจอภาพในห้องแถลงข่าว เพื่อให้ผู้สื่อข่าวไทยได้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครนและเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงสถานการณ์ในเมืองซูโตเมียร์

ยูเฮนี เฮราซิมชุก (Eugene Gerasymchuk) บนหน้าจอวิดีโอคอลด้านหลัง แสดงให้เห็นภาพอาคารเรียนที่ถูกกองทัพรัสเซียโจมตีทางอากาศจนได้รับความเสียหาย
 

เฮราซิมชุกบอกว่าเขาทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครส่งอาหารและน้ำ รวมถึงความช่วยเหลือด้านอื่นๆ ให้แก่ประชาชนในเมืองซูโตเมียร์ ซึ่งขณะนี้ ประชาชนที่อยู่ในเมืองต้องซ่อนตัวอยู่ในที่หลบภัยหรือลงไปอยู่ในหลุมหลบภัยใต้ดิน พร้อมระบุว่าด้านหลังของเขาคืออาคารเรียนที่ถูกกองทัพรัสเซียถล่มจนได้รับความเสียหาย และถ่ายให้เห็นบรรยากาศโดยรอบที่มีซากหนังสือเรียนปะปนอยู่กับเศษซากอาคารที่ถล่มลงมา ภาพซากอาคารด้านหลังนั้นตรงกับภาพที่ปรากฏในการรายงานของสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ และสำนักข่าว NBC ของสหรัฐฯ โดยบีบีซีรายงานว่าเมืองซูโตเมียร์มีประชากร 280,000 คน เป็นเส้นทางขบวนขนส่งเพื่อมนุษยธรรมจากยุโรปเข้าสู่เมืองอื่นที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครน แต่เมืองนี้ถูกกองทัพรัสเซียถล่มตั้งแต่ช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของการรุกราน

ภาพอาคารเรียนในเมืองซูโตเมียร์ที่ถูกถล่มโดยกองทัพรัสเซีย (อ้างอิงจากสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ)
 

ผู้สื่อข่าวประชาไทสอบถามกับเฮราชิมซุกกรณีรัสเซียอ้างว่า “มีอาวุธและทหารยูเครนซ่อนอยู่ในโรงเรียน” ซึ่งเป็นเหตุทำให้พวกเขาต้องทำลายโรงเรียนในเมืองซูโตเมียร์รวมถึงเมืองต่างๆ ในยูเครน โดยเฮราซิมชุกตอบว่า “ไม่จริง นั่นเป็นโฆษณาชวนเชื่อของทางการรัสเซีย” และในขณะที่มีการโจมตี ในอาคารนั้นมีบุคลากรของอาคารอยู่เพียงไม่กี่คน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวประชาไทตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลัง พบว่าเฮราซิมชุกเคยเป็นนักข่าวที่ zhitomir.info ซึ่งเป็นสำนักข่าวท้องถิ่นในเมืองซูโตเมียร์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของสถานทูตยูเครนไม่ได้แจ้งในห้องแถลงข่าวว่าเฮราซิมชุกเคยทำงานเป็นสื่อมวลชน ขณะที่ตัวของเฮราซิมชุกพูดในวิดีคอลเพียงแค่ว่าเขาทำงานเป็นผู้ช่วยนักข่าว (fixer) ให้กับผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่ทำงานอยู่ในยูเครนเพื่ออัปเดตสถานการณ์สงคราม

อุปทูตยูเครนตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่รัสเซียเรียกการบุกรุกครั้งนี้ว่าเป็น “ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร” และจากการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ทางรัสเซียกล่าวว่าต้องการทำให้ปัญหาในยูเครนสิ้นสุด และอ้างว่ายูเครนไม่เคยประกาศสงครามกับรัสเซียเช่นกัน ในเรื่องนี้ อุปทูตตอบว่าสถานการณ์ต่างๆ เป็นไปอย่างที่เห็นและยูเครนเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ‘สงคราม’ ไม่ใช่ข้อพิพาท ไม่ใช่ปฏิบัติการพิเศษแบบคำที่รัสเซียใช้ และยูเครนจะต่อสู้กับผู้บุกรุกชาวรัสเซียต่อไป พร้อมระบุว่ายูเครนต้องการแก้ไขปัญหานี้ให้เสร็จและโต้ตอบรัสเซียที่เข้ามาบุกรุกในดินแดนของยูเครน

“ประชาชนชาวยูเครนหลายคนถูกทำลายอย่างหนัก บางคนที่อยู่ในภูมิภาคลูฮันสก์และดอนบัสนั้นถูกทำลายจนเกือบหมดสิ้น กองทัพรัสเซียพุ่งเป้าไปที่ประชาชน บังคับพวกเขาให้ยอมร่วมมือกับฝ่ายตัวเอง พวกเขาขอให้ชาวยูเครนยอมจำนน แต่แน่นอนว่าชายชาวยูเครนไม่เห็นด้วย ดังนั้น นี่คือสงครามเต็มรูปแบบที่รัสเซียกระทำต่อยูเครน” อุปทูตยูเครนประจำประเทศไทยกล่าว

ส่วนกรณีพลเมืองไทยที่สมัครเข้าร่วมกองกำลังปกป้องประเทศของยูเครนนั้น อุปทูตยูเครนประจำประเทศไทยกล่าวว่าขณะนี้ยังไม่มีคนสัญชาติไทยบินไปร่วมรบในยูเครน แต่รัฐบาลยูเครนทำเว็บไซต์รับสมัครชาวต่างชาติที่ต้องการสมัครเป็นทหารอาสาเข้าไปช่วยรบกับกองทัพยูเครน และชาวต่างชาติทุกคนที่ประสงค์จะเข้าร่วมกับกองทัพยูเครนสามารถเข้าไปลงทะเบียนในเว็บไซต์แล้วเดินทางมายังยูเครนได้ สำหรับการเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือนั้น อุปทูตยูเครนบอกว่ายูเครนพยายามทำให้เป้าหมายต่างๆ บรรลุตามเป้าแต่ตอนนี้สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือการหยุดสงคราม หยุดการฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ และทางยูเครนพยายามอย่างมากที่จะยุติสงครามนี้

ภายในงานแถลงข่าวมีการจัดแสดงภาพถ่ายความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากสงครามในยูเครน
 

อุปทูตยูเครนกล่าวว่าขณะนี้มีชาวยูเครนอยู่ในประเทศไทยกว่า 3,000 คน ชาวยูเครนเหล่านี้ไม่สามารถเดินทางกลับไปยังยูเครนได้เพราะไม่มีเที่ยวบินเดินทางไปยูเครนและสนามบินในยูเครนถูกทำลายจนไม่สามารถใช้งานได้ สถานทูตยูเครนให้ความช่วยเหลือกับชาวยูเครนเหล่านี้ด้วยการเปิดเว็บไซต์ลงทะเบียนหาที่พักหลบภัยให้แก่ชาวยูเครนทั่วโลก โดยในประเทศไทยมีผู้ลงทะเบียนเปิดที่พักพิงให้ชาวยูเครนอพยพหลบภัยสงครามแล้วประมาณ 20 แห่ง และสถานทูตช่วยเหลือเรื่องค่ายใช้จ่าย รวมถึงกระสานกับทางการไทยเรื่องขยายเวลาพำนักในไทยให้กับชาวยูเครนที่เดินทางออกนอกประเทศไม่ได้และจำเป็นต้องอยู่เกินวีซ่า นอกจากนี้ เงินบริจาคจำนวน 7 ล้านบาทนั้น สถานทูตยูเครนประจำประเทศไทยได้นำฝากไว้ที่ธนาคารแห่งชาติยูเครนเพื่อให้รัฐบาลยูเครนนำไปใช้จ่ายด้านมนุษยธรรม และทางสถานทูตจะจัดทำรายการชี้แจงค่าใช้จ่ายเงินบริจาคให้ทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามอุปทูตยูเครนว่าได้มีการติดต่อกับรัฐบาลไทยให้ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามชาวยูเครนหรือไม่ และไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับชาวยูเครนที่ต้องการลี้ภัยหรือเปล่า ในเรื่องนี้อุปทูตยูเครนตอบว่าทางสถานทูตได้ติดต่อรัฐบาลไทยเพื่อขอความช่วยเหลือให้ชาวยูเครนที่อยู่ในไทยขณะนี้ และไม่อยากให้เรียกชาวยูเครนที่อยู่อาศัยในไทยขณะนี้ว่าผู้ลี้ภัย (refugee) แต่อยากให้เรียกว่าบุคคลพลัดถิ่น (displaced person) เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถเดินทางกลับไปยูเครนได้ในขณะนี้ ทั้งยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับครอบครัวของอุปทูตที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเคียฟว่าพวกเขาต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยตลอดเวลา และเจ้าหน้าที่สถานทูตยูเครนต่างเป็นห่วงเพื่อนร่วมชาติทุกคนที่อยู่ในประเทศขณะนี้เช่นกัน

ช่วงท้ายของการแถลงข่าว อุปทูตยูเครนตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามว่าได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของสถานทูตรัสเซียในไทยบ้างหรือไม่ ซึ่งอุปทูตบอกว่ามีการพูดคุยกัน

“ผมเรียกร้องเขา รวมถึงทุกๆ คนให้หยุดสงครามนี้ พวกเขาเข้าใจว่าสงครามนี้ไม่ใช่ผลประโยชน์ของชาวประชาชนชาวรัสเซีย สงครามนี้เริ่มต้นขึ้นโดย ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ ไม่ใช่สงครามของประชาชนชาวรัสเซีย สงครามนี้เป็นของรัฐบาลรัสเซีย และพวกเขาบอกว่าที่เราเป็นแบบนี้ เราไม่มีทางเลือก เราต้องเข้าสู่สงคราม แต่ยังมีอีกหลายทางเลือกแห่งสันติภาพ เจรจาต่อรอง และบรรลุเป้าหมาย พวกเขาบอกว่า ‘ยูเครนควรจะเป็นมิตร’ แต่ถ้าพวกเขาฆ่าเราแล้วเราจะเป็นมิตร (กับรัสเซีย) ได้อย่างไร หยุดฆ่าเราแล้วเราจะเป็นมิตรด้วย” อุปทูตยูเครนกล่าว

สำหรับแถลงการณ์เต็มของสถานทูตยูเครนประจำประเทศไทย ฉบับแปลภาษาไทย จะมีการอัปเดตอีกครั้งในเว็บไซต์ประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท