‘ปรัชญ์’ นักข่าวสิ่งแวดล้อม และอดีต บ.ก.กรีนนิวส์ เดินทางมาศาลนครปฐม เพื่อนัดตรวจพยานหลักฐาน จากกรณีถูกบริษัทเหมืองแห่งหนึ่งที่ไปลงทุนในเมียนมาฟ้องหมิ่นประมาทจากการรายข่าว เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อหา พร้อมยืนยันรายงานข่าวเพื่อเป็นประโยชน์สาธารณะ

23 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งวันนี้ (22 มี.ค. 65) นายปรัชญ์ รุจิวนารมย์ นักข่าวสิ่งแวดล้อม และในฐานะอดีตบรรณาธิการสำนักข่าวสิ่งแวดล้อม (GreenNews) พร้อมด้วยทนายความเดินทางไปศาลจังหวัดนครปฐม เวลา 13.30 น. ตามนัดตรวจพยานหลักฐานและกำหนดการนัดสืบพยาน

ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความ (กลาง) และนายปรัชญ์ รุจิวนารมย์ นักข่าวสิ่งแวดล้อม (ขวา) หน้าศาลจังหวัดนครปฐม เมื่อ 22 มี.ค. 65 (ที่มา ธีระชัย ศาลเจริญกิจถาวร)

ครั้งนี้ฝ่ายโจทก์ร่วมได้ยื่นคำร้องขอเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง เป็นเงินรวม 135 ล้านบาท โดยอ้างว่ามีการนำเสนอข่าว "ศาลพม่าสั่งบริษัทเหมืองแร่ไทยชดใช้ชาวบ้านทวาย 2.4 ล้านบาท เหตุเหมืองดีบุกทำสิ่งแวดล้อมพัง" บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย 'เฟซบุ๊ก' กลุ่มสาธารณะ ''GreenNews" เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 63 โดยฝ่ายผู้เสียหายแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ให้ดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งต่อมา พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง

ด้าน ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความของปรัชญ์ กล่าวว่า นายปรัชญ์ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมเสนอสืบพยานเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในข่าว และยืนยันการทำหน้าที่นำเสนอข่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะ

ส.รัตนมณี พลกล้า กล่าวเสริมว่า คดีนี้เป็นคดีข้ามพรมแดนที่บริษัทเหมืองแร่ซึ่งทำการอยู่ในประเทศเมียนมาโดยมีกรรมการบริษัทเป็นชาวไทย แต่มีการราบงานข่าวโดยสำนักข่าวในประเทศไทย จึงต้องมีการนำสืบพยานฝ่ายจำเลยหลายรายทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา อาทิ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม นักวิชาการด้านสื่อมวลชนและสิทธิมนุษยชน อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและอนุกรรมการที่เคยดำเนินการตรวจสอบกรณีเหมืองเฮงดา ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคตะนาวศรี ประเทศเมียนมา ทนายความของชาวบ้านเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการ และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ

ส่วนฝ่ายพนักงานอัยการผู้เป็นโจทก์และบริษัทฝ่ายโจทก์ร่วมแถลงจะสืบพยานเป็นพนักงานสอบสวน กรรมการบริษัทโจทก์ร่วม พยานที่อ่านข่าว และล่ามผู้แปลเอกสาร

ทั้งนี้ ศาลจังหวัดนครปฐมกำหนดนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์-จำเลยในวันที่ 6-9 กันยายน 2565