เพื่อไทยเปิดพื้นที่รับฟังเสียงเยาวชน-กลุ่มชาติพันธุ์ สานฝันต่อยอดทำนโยบาย

'นพ.ชลน่าน' นำทัพ ส.ส.เพื่อไทยบุกเชียงใหม่ เปิดพื้นที่รับฟังเสียงเยาวชนและกลุ่มชาติพันธุ์ นำความคิดต่อยอดเป็นนโยบาย สร้างความหวังสานต่อความฝันให้คนรุ่นใหม่ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ รวมถึงกำหนดนโยบายเพื่อสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์อย่างแท้จริง

29 มี.ค. 2565 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชนประจำปี 2565 "ผู้นำฝ่ายค้านพบกลุ่มชาติพันธ์ เยาวชน และประชาชน" ณ โรงแรมสเตย์ วิท นิมมานเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ โดยมี ส.ส. ร่วมรับฟังปัญหา ได้แก่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ วิทยา ทรงคำ ส.ส.เชียงใหม่ ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ ณัฏฐ์พัฒน์ รัฐผไท ส.ส.เชียงใหม่ ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด สงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน ศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ อดีต ส.ส.เชียงราย สุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ รวมถึงศรีโสภา โกฏคำลือ และวิกรม เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกพรรค ร่วมรับฟังปัญหาด้วย

 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า "โครงการผู้นำฝ่ายค้านพบเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่นับเป็นเวทีที่สองของโครงการผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน ต่อจากการรับฟังปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งโครงการครั้งนี้มุ่งหวังต้องการเห็นความคิดของเยาวชนในฐานะที่ต้องเติบโตไปเป็นผู้ที่จะรับผิดชอบบ้านเมืองต่อไปในอนาคต ซึ่งคาดหวังว่าเวทีในครั้งนี้จะสะท้อนในทุกมุมมองของเยาวชนคนรุ่นใหม่ หากเป็นปัญหาที่เยาวชนได้ประสบอยู่ จะได้รวบรวมปัญหาทั้งหมดเพื่อนำไปสู่การแก้ไขตามกระบวนการของฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป"

นพ.ชลน่าน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในหลายปัญหายังสามารถนำมากำหนดเป็นนโยบายได้ โดยเฉพาะนโยบายด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะสามารถสร้างงานและสร้างโอกาสให้กับเยาวชนในอนาคต อีกทั้งยังได้เห็นมิติการมีส่วนร่วมของเยาวชนในด้านการเมือง ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยต้องยอมรับว่าการมีส่วนร่วมของเยาวชนในขณะนี้มีขึ้นโดยไม่ได้ผ่านการจัดตั้ง แต่มีผลพวงมาจาก ส.ส.รุ่นใหม่ที่เป็นต้นแบบ หรือไอดอลให้กับเยาวชน เวทีนี้จึงเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์และแรงบันดาลใจในการทำงานการเมืองของ ส.ส.รุ่นใหม่ให้กับกลุ่มเยาวชน

ด้าน จักรพล กล่าวว่า "เยาวชนคืออนาคตของชาติ เพราะฉะนั้นจึงควรนำแนวคิดของเยาวชนมาเป็นตัวกำหนดนโยบาย เพื่อให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่ตอบสนองความต้องการ และเกิดความหวังให้กับเยาวชนอย่างแท้จริง" ขณะที่ธีรารัตน์ กล่าวว่า "เยาวชนสำคัญมากๆ เรียกว่าสำคัญที่สุด เพราะน้องๆเหล่านี้จะเติบโตขึ้นไปเป็นบุคลากรสำคัญของประเทศ วันนี้จึงอยากมารับฟังปัญหาของทุกคน เราจะเป็นตัวแทนที่จะเข้าไปแก้ปัญหาเหล่านั้น อนาคตของประเทศไทยรวมถึงอนาคตของคนรุ่นใหม่จะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน"

ส่วนจิราพร กล่าวว่า "การมีส่วนร่วมทางการเมือง และการพัฒนาประเทศของเยาวชนคนรุ่นใหม่มีมาตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง พ.ศ.2475 ดังจะเห็นได้จาก เหตุการณ์ 14 ตุลา และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ หรือแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีเยาวชนเข้าไปมีส่วนร่วมเช่นเดียวกัน และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ในฐานะอนาคตของชาติ ซึ่งเยาวชนทุกคนมีความปรารถนาดีที่ต้องการเห็นประเทศชาติได้รับการพัฒนา การตั้งเวทีในครั้งนี้จึงเป็นการรับเสียงปัญหาเยาวชนในฐานะของฝ่ายค้าน เพื่อนำไปผลักดันต่อในสภา"

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2565 นพ.ชลน่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชนประจำปี 2565 "ผู้นำฝ่ายค้านพบกลุ่มชาติพันธุ์" ณ โรงแรมสเตย์ วิท นิมมาน จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี ส.ส.ในพรรคร่วมรับฟังปัญหาและแลกเปลี่ยนกับตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์

 

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ผู้เข้าร่วมงานดังกล่าว กล่าวถึงการรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาชาติพันธุ์ในครั้งนี้ว่ากลุ่มชาติพันธุ์ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัดมีความหลากหลายในเชื้อชาติ หลากหลายเผ่าพันธุ์ ซึ่งมีต้นตอจากปัญหาหลักคือความเหลื่อมล้ำและการขาดโอกาส ซึ่งหากมองในมิติของเศรษฐกิจต้องยอมรับว่าประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวยอยู่มาก แต่ความเหลื่อมล้ำของกลุ่มชาติพันธุ์นับเป็นปัญหาสำคัญทางโครงสร้างของไทย เริ่มต้นตั้งแต่ปัญหาที่ดินทำกิน ซึ่งกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ราบสูงตั้งแต่เกิด แต่กลับไม่ได้รับสิทธิในความเป็นอยู่ และประกอบอาชีพ ซึ่งภาครัฐเองกลายมาเป็นผู้ขัดแย้งโดยตรงกับกลุ่มชาติพันธุ์

"หลังจากการรัฐประหารในปี 2557 รัฐได้ถูกปรับโครงสร้างให้กลายเป็นรัฐราชการ มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จนกลายเป็นการกดทับชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มชาติพันธ์" จุลพันธ์ กล่าว

ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า โครงการผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชนเกิดขึ้นจากงบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงพื้นที่รับฟังเสียงสะท้อนของประชาชนในทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นบทบาทโดยตรงของฝ่ายค้าน ทั้งการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายที่ได้ประกาศไว้นั้นได้เข้าถึงประชาชนจริงหรือไม่ และลงพื้นที่มาในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ทั้งปัญหาเฉพาะหน้าและปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่เกี่ยวเนื่องกับการแก้ไขกฎหมาย

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
 

สำหรับเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชนในครั้งนี้ได้รับฟังเสียงสะท้อนของกลุ่มชาติพันธุ์ที่เข้าร่วมกว่า 50 คน โดยเฉพาะเสนอให้มีการกำหนดนโนบายเพื่อกลุ่มคนชาติพันธุ์อย่างแท้จริง ผ่านกระบวนการคนอยู่ร่วมกับป่าและป่าอยู่ร่วมกับคน ไม่ใช่เป็นการผลักดันคนออกจากพื้นที่ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เพื่อให้กลุ่มคนชาติพันธุ์สามารถลืมตาอ้าปากได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท