Skip to main content
sharethis

ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องจำเลย 6 คนคดีชุมนุมชูป้าย "สหพันธรัฐไท" ที่หน้าห้าง MBK วันพ่อปี 61 ข้อหายุยงปลุกปั่น อั้งยี่และพ.ร.บ.คอมฯ แต่ยังลงโทษปรับ10,000 บาทข้อหาไม่แจ้งจัดชุมนุมและชุมนุมในระยะ 150 ม.จากวัง

19 เม.ย.2565 ที่ศาลอาญา รัชดาฯ มีนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในคดีจำเลย 6 คนชูป้าย “สหพันธรัฐไท” หน้าห้างมาบุญครองเมื่อ 5 ธ.ค.2561 คดีนี้อัยการฟ้องทั้ง 6 คนหลายข้อหาได้แก่ ยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, เป็นอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209, ชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งจัดชุมนุมและชุมนุมสาธารณะในรัศมี 150 เมตร จากวังของพระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา 7 และ 10 และยังมีจำเลย 1 คนถูกฟ้องในความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคือให้ยกฟ้อง 3 ข้อหาคือ มาตรา 116,เป็นอั้งยี่ และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่ยังลงโทษปรับรวมเป็นเงิน 10,000 บาทในข้อหาตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ 2 ข้อหาคือไม่แจ้งจัดการชุมนุมและชุมนุมในระยะ 150 เมตรจากเขตพระราชฐานข้อหาละ 5,000 บาท อย่างไรก็ตามค่าปรับส่วนนี้จำเลยจ่ายไปแล้วในศาลชั้นต้นจึงไม่ต้องจ่ายอีก

คดีนี้ เกิดเหตุจากเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 61 ได้มีกลุ่มบุคคลมารวมตัวกันชูป้ายที่เป็นสัญลักษณ์ธงลายขาว-แดง ที่มีข้อความ “Thai Federation” อยู่บริเวณสกายวอล์คหน้าห้างมาบุญครอง (MBK) โดยในวันดังกล่าว มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการควบคุมตัวบุคคลที่ออกมาทำกิจกรรมดังกล่าว อย่างน้อย 5 คน และมีอย่างน้อย 2 คน ถูกควบคุมตัวไปยังค่ายทหาร มทบ. 11 เป็นเวลา 5 วัน โดยอ้างคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ในการควบคุมตัว

ต่อมา มีการเเจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลทั้ง 5 คน เเละมีการติดตามจับกุมบุคคลอีก 1 คน มาเเจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง ที่สน.ปทุมวัน ในข้อหามาตรา 116, ข้อหาอั้งยี่, ข้อหาไม่แจ้งการชุมนุม และชุมนุมสาธารณะในรัศมี 150 เมตร จากวังสระปทุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ขณะที่เฉพาะผู้ต้องหาที่ 6 ยังถูกแจ้งข้อหากล่าวหาตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการเผยแพร่ภาพถ่ายกิจกรรมลงในเฟซบุ๊ก

ทั้งนี้คดีนี้ในศาลชั้นต้นให้เหตุผลในการพิพากษายกฟ้องไว้ว่าการชูธง การร่วมกันสวมเสื้อดำของพวกเขารวมถึงการโพสต์เชิญชวนคนมาร่วมชุมนุมยังไม่ถึงกับเป็นการก่อความกระด้างกระเดื่องขึ้นในประเทศ อีกทั้งฝ่ายโจทก์ก็ไม่นำสืบให้เห็นว่าเป็นสมาชิกกลุ่มไลน์สหพันธรัฐไทหรือร่วมประชุมวางแผนกัน แต่ศาลก็เห็นว่าพวกเขาจัดการชุมนุมโดยไม่ได้แจ้งจัดการชุมนุมภายใน 24 ชั่วโมงก่อนและบริเวณที่ชุมนุมก็อยู่ในระยะ 150 เมตรจากวังสระปทุม

ส่วนข้อหาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ของจำเลยอีก 1 คนนั้นภาพคลิปขณะเกิดเหตุการณ์ชุมนุมที่จำเลยโพสต์นั้นไม่ใช่ข้อมูลตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่กระทบต่อความมั่นคง

รู้จัก ‘ลุงสนามหลวง’ ชูชีพ ชีวสุทธิ์ – เส้นทางวิทยุใต้ดิน - กลุ่มเหยื่อสหพันธรัฐไท

ทั้งนี้คดีนี้เป็น 1 ใน 11 คดีเกี่ยวกับกลุ่ม "สหพันธรัฐไท" ที่เกิดขึ้นในช่วง 2561-2562 โดยมีจำนวนผู้ที่ถูกดำเนินคดีอย่างน้อย 20 คน และหลายคนก็ถูกคุมตัวเข้าค่ายทหารไปก่อนถูกดำเนินคดีด้วยข้อหายุยงปลุกปั่นและอั้งยี่เหมือนกับจำเลยในคดีนี้

ทั้งนี้พวกเขาต่างถูกดำเนินคดีจากต่างกรรมต่างวาระ พฤติการณ์ในคดีก็มีตั้งแต่นัดรวมตัวกัน ชุมนุมชูป้ายผ้า หรือกระทั่งขายเสื้อติดสัญลักษณ์สีขาวสลับแดง 

กิจกรรมที่หน้าห้างมาบุญครองเมื่อ 5 ธ.ค.2561 ที่มา: เพจองค์กรสหพันธรัฐไท

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเคยรายงานว่า กลุ่มสหพันธรัฐไทนี้ถูกกล่าวถึงในรายงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมาตั้งแต่ในช่วงปี 2561 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกนำมาใช้กล่าวหาบุคคลในคดีต่างๆ ระบุว่าเป็นกลุ่มที่มีเป้าหมายต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง และยังเกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัยที่หลบหนีไปเคลื่อนไหวในประเทศลาว โดยมีแกนนำหลัก 5 คน ได้แก่ วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋”, วัฒน์ วรรลยางกูร, ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือ “ลุงสนามหลวง”, สยาม ธีรวุฒิ หรือ “สหายข้าวเหนียวมะม่วง” และกฤษณะ ทัพไทย หรือ “สหายยังบลัด”

อย่างไรก็ตาม 4 ใน 5 คนนี้ปัจจุบันยังหายสาบสูญไปโดยกรณีของวุฒิพงศ์มีข่าวจากคนใกล้ชิดว่าถูกกลุ่มชายชุดดำราว 10 คนพร้อมอาวุธคุมตัวไปจากบ้านพักที่ใช้ลี้ภัยในประเทศลาวในปี 2560 จากนั้นในปี 2562 ก็ปรากฏข่าวว่าชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือ “ลุงสนามหลวง”, สยาม ธีรวุฒิ หรือ “สหายข้าวเหนียวมะม่วง” และกฤษณะ ทัพไทย หรือ “สหายยังบลัด” ต่างถูกทางการเวียดนามจับกุมตัวส่งกลับไทยแต่ทางการไทยก็ปฏิเสธไม่ทราบเรื่องดังกล่าวทำให้ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ทราบชะตากรรมของทั้งสามคน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net