กรีนพีซประเทศไทย ชี้ “คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติไร้ซึ่ง “เจตจำนงทางการเมือง” ในการปกป้องสุขภาพของประชาชนซึ่งหายใจเอามลพิษ PM2.5 เข้าไปทุกวัน” หลังคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้ใช้ร่างมาตรฐานฝุ่น PM2.5 ในบรรยากาศทั่วไป
13 พ.ค. 2565 กรีนพีซประเทศไทย (Greenpeace) มีคิดความเห็นหลังเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2565 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้ร่างค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศทั้งค่าเฉลี่ยรายปี และค่าเฉลี่ย 24 ชม. ตามแผนฝุ่นแห่งชาติที่กำหนดให้ปรับค่ามาตรฐาน PM2.5 ในบรรยากาศทั่วไป เฉลี่ยรายปี ไม่เกิน 15 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรภายในปีนี้ (2565) และการปรับค่ามาตรฐาน PM2.5 ในบรรยากาศทั่วไปเฉลี่ย 24 ชม.ให้ไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ภายในปี 2566
อัลลิยา เหมือนอบ ผู้ประสานงานรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน กรีนพีซ ประเทศไทย กล่าวว่า
“มติของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่ไม่เหนือความคาดหมายนี้ นอกจากดำเนินการล่าช้าแล้ว ยังเป็นการซื้อเวลาแทนที่จะประกาศให้มีค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง และรายปีไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ต้องรีบขยับและปรับปรุงแผนการจัดการฝุ่นให้สอดคล้องกับค่ามาตรฐานใหม่นี้ เห็นได้ชัดว่า คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติไร้ซึ่ง “เจตจำนงทางการเมือง” ในการปกป้องสุขภาพของประชาชนซึ่งหายใจเอามลพิษ PM2.5 เข้าไปทุกวัน” อัลลิยากล่าว
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2565 ตัวแทนจากมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม กรีนพีซ ประเทศไทย มูลนิธิบูรณะนิเวศ สภาลมหายใจภาคเหนือ สภาลมหายใจเชียงใหม่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ นักกิจกรรมทางสังคม และ นันทิชา โอเจริญชัย เยาวชนนักสื่อสารด้านสิ่งแวดล้อมเดินทางไปที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ เป็นโจทก์ฟ้องร้องคดีฝุ่น PM2.5 ต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดในการคืนอากาศสะอาดซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานให้กับประชาชน
สำหรับคำขอท้ายฟ้องในคดีฝุ่น PM2.5 มีสาระสำคัญ 4 ประเด็น คือ
- ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ออกหรือแก้ไขประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง กำหนดมาตรฐานฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนในบรรยากาศทั่วไป ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล(WHO-IT3) ตามที่ได้มีการรับฟังความคิดเห็นไปแล้ว คือ ค่าเฉลี่ยราย 24 ชั่วโมงของฝุ่น PM 2.5 อยู่ที่ 37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าเฉลี่ยรายปีอยู่ที่ 15 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันออกหรือแก้ไขประกาศกำหนดค่ามาตรฐานควบคุมมลพิษฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนจากโรงงานอุตสาหกรรม และแหล่งกำเนิดอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ในการปล่อยทิ้งอากาศเสีย ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ออกสู่สิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล
- ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ออกหรือแก้ไขประกาศกำหนดค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศที่ระบายออกจากโรงงานสู่สิ่งแวดล้อมให้มีค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ไม่เกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดและเทียบเท่ามาตรฐานสากล
- ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ออกประกาศกำหนดประเภทสารมลพิษ หรือสารเคมีที่โรงงานต้องจัดทำรายงานข้อมูลตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 27 (พ.ศ. 2563) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 โดยมีการรายงานฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน อยู่ในบัญชีมลพิษและสารเคมีเป้าหมาย และจัดทำทำเนียบ การปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Register) รวมถึงมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะเพื่อให้ประชาชน ภาคประชาสังคม สามารถมีส่วนร่วมตรวจสอบ ป้องกันผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมได้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)