ไกลแค่ไหนคือใกล้ ทนายขอคำพิพากษาคดีร.7 จากศาลแพ่ง-อุทธรณ์แต่ไม่ได้ อ้างหมายศาลอาญามาเลยกำหนด

สืบพยานโจทก์ปากแรกคดี #19กันยาทวงคืนอำนาจราษฎร ต้องเลื่อนอีกครั้ง เหตุศาลแพ่งและอุทธรณ์ไม่ส่งคำพิพากษาคดีกระทรวงการคลังฟ้อง ร.7 อ้างเหตุหมายศาลอาญามาถึงหลังกำหนดวันที่ศาลขอให้ส่งเอกสารจึงเป็นเหตุขัดข้อง อีกทั้งศาลอุทธรณ์ยังอ้าง ผอ.สำนักงานอำนวยการไม่มีอำนาจสั่งให้ส่งเอกสาร จำเลยขอให้ศาลออกหมายเรียกข้อมูลเดินทางไปกลับเยอรมนีของร.10 และการใช้งบประมาณประจำปีอีกเป็นครั้งที่ 5 แต่ยังต้องรอผลคำสั่ง

8 ก.ค.2565 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก มีนัดสืบพยานในคดีชุมนุม 19-20ก.ย.2563 ที่มีจำเลย 22คน โดยการสืบพยานวันนี้เป็นช่วงทนายความจำเลยถามค้านพยานโจทก์คือพ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร รองผู้บังคับการกองกำกับการตำรวจนครบาล 1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสืบพยานวันนี้ต้องเลื่อนออกไปอีกครั้งเนื่องจากทนายความจำเลยแถลงว่ายังไม่ได้เอกสารหลักฐานคำพิพากษาฉบับเต็มของคดีที่กระทรวงการคลังเคยฟ้องรัชกาลที่ 7 ให้ต้องชดใช้เงินคืนแก่กระทรวงการคลังจากศาลแพ่งและศาลอุทธรณ์ที่เป็นผู้ครอบครองอยู่

ทนายความแถลงว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พ.ค.2565 ได้ขอให้ศาลอาญาออกหมายเรียกคำพิพากษาคดีดังกล่าวไปยังประธานศาลอุทธรณ์ แต่ศาลอาญาสั่งแก้ไขให้ออกหมายถึงผู้อำนวยการสำนักอำนวยการศาลอุทธรณ์แทน แต่ทางศาลอุทธรณ์กลับมีหนังสือตอบกลับมาว่าการพิจารณาออกคำสั่งในเรื่องนี้อยู่ในอำนาจของประธานศาลอุทธรณ์ ผู้อำนวยการฯ ไม่มีอำนาจที่จะมีคำสั่งออกมา

นอกจากนั้นทางศาลอุทธรณ์ยังระบุว่าศาลอาญายังกำหนดให้ส่งเอกสารภายในวันที่ 7 มิ.ย.2565 แต่ทางผู้อำนวยการสำนักงานอำนวยการศาลอุทธรณ์เพิ่งได้รับหมายเรียกเอกสารในวันที่ 10 มิ.ย.2565 จึงเป็นเหตุขัดข้องที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามหมายเรียกได้

ส่วนทางด้านศาลแพ่ง ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการของศาลแพ่งก็ปฏิเสธไม่ยอมรับหมายเรียกพยานหลักฐานดังกล่าว โดยอ้างเหตุหมายเรียกมีการแก้ไขและวันที่ระบุให้ส่งเอกสารให้ศาลอาญาได้ล่วงเลยเวลามาแล้วจึงไม่อาจส่งให้ได้

นอกจากนั้นทางด้านทนายความจำเลยยังแถลงกับศาลอีกว่าจำเลยที่ 1, 2, 4และ7 ได้ขอศาลเป็นครั้งที่ 5 ให้ออกหมายเรียกพยานหลักฐานอีกหลายรายการได้แก่

1. ข้อมูลการเดินทางเข้าออกประเทศในการเดินทางไปประเทศเยอรมนีของในหลวงรัชกาลที่ 10 ตั้งแต่ 13 ต.ค.2559-20 ก.ย.2563 จากทั้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและการบินไทย รวม 2 รายการ

2. ข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณส่วนพระองค์ประจำปีงบประมาณ 2563

3. ข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณของสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตั้งแต่ปี 2560-2564

ทางทนายความยืนยันต่อต่อศาลว่าพยานหลักฐานเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ในการถามค้านพยานปากแรกนี้ด้วย จึงขอให้ศาลเลื่อนการสืบพยานปากนี้ออกไป

ทางฝ่ายอัยการแถลงไม่คัดค้านการขอเลื่อนคดีของจำเลย นอกจากนั้นได้ขอเลื่อนการสืบพยานในวันที่ 15 ก.ค.ที่จะถึงนี้ออกไปด้วยเนื่องจากเป็นวันหยุดราชการที่ทางรัฐบาลเพิ่งประกาศเพิ่มขึ้นมา

ศาลจึงมีคำสั่งให้เลื่อนคดีออกไปตามที่ทั้งทนายความและอัยการแถลงเหตุผลไว้ นอกจากนั้นวันนัดสืบพยานที่กำหนดไว้แต่เดิมในเดือนกรกฎาคมมีระยะเวลากระชั้นชิดและมีวันหยุดราชการจำนวนมาก ไม่อาจขอหมายเรียกเอกสารดังกล่าวได้ทันจึงให้ยกเลิกวันที่เหลืออยู่ แล้วกำหนดนัดสืบพยานใหม่เป็นวันที่ 5 ส.ค.2565

กิตติศักดิ์ กองทอง ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่าข้อมูลข้างต้นทั้งหมดรวมถึงคำพิพากษาคดีของรัชกาลที่ 7 นี้ ฝ่ายจำเลยเคยขอให้ศาลออกหมายเรียกมาใช้ประกอบการสืบพยานมาก่อนแล้ว 4 ครั้ง โดยครั้งแรกสุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2564 แต่ศาลยกคำร้องขอของฝ่ายจำเลยมาตลอด จนกระทั่งครั้งที่ 4 ศาลจึงยินยอมออกหมายเรียกคำพิพากษาคดีของรัชกาลที่ 7 จากศาลแพ่งและศาลอุทธรณ์ให้เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2565 แต่ในส่วนของข้อมูลการเดินทางของรัชกาลที่ 10 และการใช้จ่ายงบประมาณศาลยกคำร้องของจำเลยไม่ออกหมายเรียกให้ ทางทนายความจึงต้องทำคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกข้อมูลเหล่านี้อีกเป็นครั้งที่ 5 ในวันนี้และยังต้องรอดูว่าศาลจะมีคำสั่งอย่างไรต่อไป

การสืบพยานคดีนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2564 แต่การสืบพยานคืบหน้าไปได้เพียงส่วนของฝ่ายอัยการโจทก์ถามพยานฝ่ายตนคือ พ.ต.อ.วรศักดิ์เท่านั้น สืบเนื่องมาจากศาลปฏิเสธในการออกหมายเรียกเอกสารหลักฐานให้ฝ่ายจำเลยมาโดยตลอด โดยทางฝ่ายจำเลยได้ยืนยันถึงความจำเป็นของหลักฐานเหล่านี้ว่าเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่ทำให้จำเลยส่วนหนึ่งถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และยุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 จากการปราศรัยในการชุมนุมครั้งนั้น

จำเลยในคดีนี้ได้แก่ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง, ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา, ณัทพัช อัคฮาด, ธนชัย เอื้อฤาชา, ธนพ อัมพะวัติ, ธานี สะสม, ภัทรพงศ์ น้อยผาง, สิทธิทัศน์ จินดารัตน์, สุวรรณา ตาลเหล็ก, อนุรักษ์ เจนตวนิชย์, ณัฐชนน ไพโรจน์, “ครูใหญ่” อรรถพล บัวพัฒน์, อะดิศักดิ์ สมบัติคำ, จัสติน ชูเกียรติ แสงวงค์ และแอมมี่ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์

ในคดีนี้มีคนที่ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 ด้วย คือ รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์, อานนท์ นำภา, หมอลำแบงค์ ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก และไผ่ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท