Skip to main content
sharethis

กลุ่มสิทธิมนุษยชนอย่างฮิวแมนไรท์วอทช์แสดงความชื่นชมต่อกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามที่ประกาศให้ LGBTQ+ ไม่นับเป็น "โรค" อีกต่อไป และยังสั่งห้ามไม่ให้มีการ "บำบัดแก้เพศวิถี" ซึ่งเป็นกระบวนการอันตรายที่พยายามปรับแก้เพศวิถีของผู้มีความหลากหลายทางเพศ เดิมทีในเวียดนามยังมีสถานพยาบาลบางแห่งที่อ้างว่าสามารถบำบัดแก้เพศวิถีได้ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานว่าเป็นไปได้ในทางวิทยาศาสตร์

26 ส.ค. 2565 กลุ่มสิทธิมนุษยชนแสดงการชื่นชมเรื่องที่เวียดนามประกาศยกเลิกไม่ทำให้ความหลากหลายทางเพศนับเป็น "โรค" อีกต่อไป และมีการสั่งห้ามสถานพยาบาลต่างไม่ให้มีการ "บำบัดแก้เพศวิถี"

กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนามได้ประกาศเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของสิทธิความหลากหลายทางเพศ ทางกระทรวงได้ประกาศว่าการที่ผู้คนร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มชุมชน LGBTQ+ นั้นไม่นับเป็นความเจ็บป่วยและไม่ใช่สิ่งที่จะต้องมาบำบัดรักษาหรือ "แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด" กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามยังแถลงขอให้คนทำงานสาธารณสุขปฏิบัติต่อชาว LGBTQ+ โดยเคารพในความเป็นมนุษย์ของพวกเขาและทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ต้องเผชิญกับการถูกกีดกันเลือกปฏิบัติ

ในคำแถลงของรัฐบาลเวียดนามระบุอีกว่า กลุ่มคนทำงานสาธารณสุขของเวียดนามจะต้องไม่ "แทรกแซงหรือบังคับให้มีการบำบัดรักษา" คนไข้ที่เป็นคนรักเพศเดียวกัน และเน้นให้มีการสนับสนุนทางอารมณ์และพฤตืกรรมรวมถึง "ให้ความช่วยเหลือด้านสภาพจิตใจ" ซึ่งจะต้องกระทำโดย "กลุ่มคนที่มีความรู้เรื่องอัตลักษณ์ทางเพศวิถีเท่านั้น"

รัฐบาลเวียดนามยังได้สั่งแบนการ "บำบัดแก้เพศวิถี" หรือ "บำบัดซ่อมเพศ" (conversion therapy) ซึ่งเป็นการที่กลุ่มเหยียด LGBTQ+ พยายามจะนำบุคคลที่พวกเขาเห็นว่าเป็นเกย์หรือเพศวิถีอื่นๆ ที่ไม่ใช่ชายรักหญิงเอาไป "บำบัด" เปลี่ยนให้พวกเขามาเป็นชายรักหญิง และยกเลิกเพศวิถีที่พวกเขาเป็น แต่วิธีการเช่นนี้ไม่เป็นวิทยาศาสตร์และไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่ามันได้ผลในการเปลี่ยนแปลงพวกเขา

กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนามระบุอีกว่ามีสถานพยาบาลจำนวนมากในเวียดนามที่ยังคงกระทำผิดในเรื่องที่โฆษณาอ้างสรรพคุณว่าพวกเขาสามารถ "บำบัดรักษา" การรักเพศเดียวกันได้

สำหรับกลุ่มสิทธิมนุษยชนแล้วการประกาศในครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น "การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ครั้งใหญ่" ของเวียดนามต่อเรื่อง LGBTQ+ จากที่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในเวียดนามได้ทำการณรงค์มาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว และประสบความสำเร็จในแง่การทำให้เกิดการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่นเมื่อปี 2556 เวียดนามได้ถอด "การมีความสัมพันธ์ระหว่างคนรักเพศเดียวกัน" ออกจากบัญชีความสัมพันธ์ต้องห้ามซึ่งจัดทำโดยรัฐ

และในปี 2558 เวียดนามก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายทำให้การผ่าตัดแปลงเพศสามารถทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามกฎหมายในปี 2558 ก็ยังไม่ได้ให้สิทธิคนข้ามเพศอย่างเต็มที่เพราะมีการจำกัดการรับรองเพศสถานะไว้ให้สำหรับผู้ที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้วเท่านั้น ซึ่งยังคงถือว่าเป็นการทำให้เรื่องเพศสภาพของบุคคลกลายเป็นเรื่องทางการแพทย์มากเกินไปแทนที่จะคำนึงถึงอัตลักษณ์จากภายในของบุคคลนั้นๆ และเป็นการสร้างกำแพงให้คนข้ามเพศเข้าถึงการรับรองเพศสภาพได้ยากขึ้น

ไคล์ ไนท์ นักวิจัยเรื่อง LGBTQ+ จากฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวว่าการประกาศในครั้งนี้นับเป็นการปรับปรุงแก้ไขตัวเองครั้งใหญ่ของเวียดนาม และเนื่องจากคำประกาศนี้มาจากกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มันจึงน่าจะส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติในสังคมต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศได้มาก

ก่อนหน้าที่จะมีการตัดสินใจในครั้งนี้แผนการของรัฐบาลเวียดนามเคยเผชิญอุปสรรคจากการต่อต้านแผนการนี้มาก่อน แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยที่เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาผู้แทนขององค์การอนามัยโลกได้ออกแถลงการณ์ระบุว่าการพยายามเปลี่ยนแปลงเพศวิถีของบุคคลนั้น "ไม่มีอะไรทางการแพทย์มารองรับและไม่สามารถยอมรับได้"

ทั้งนี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชนในเวียดนามยังทำการเคลื่อนไหวเพื่อผลักดันให้มีการออกกฎหมายรับรองการแต่งงานระหว่างคนรักเพศเดียวกันด้วย

 


เรียบเรียงจาก

Vietnam declares that LGBTQ+ 'not an illness,' ends conversion therapy, 24-08-2022
https://www.upi.com/Top_News/World-News/2022/08/24/vietnam-lgbtq-illness-conversion-therapy/2161661339686/

New Transgender Rights Law in Vietnam Falls Short: Rights Group, Radio Free Asia, 01-12-2015
https://www.rfa.org/english/news/vietnam/transgender-12012015170918.html
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net