Skip to main content
sharethis

ครม.มีมติต่ออายุมาตรการอุดหนุนค่า แก๊ส-ดีเซล-ไฟฟ้า ต่อถึง ธ.ค.65 และอนุมติงบสำรองจ่ายฉุกเฉิน 714.64 ล้านบาทให้กองทุนหมู่บ้านช่วยเหลือด้านสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายบริการประชาชน

13 ก.ย.2565 เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลรายงานผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องการต่ออายุมาตรการลดราคาพลังงาน ให้แก่กลุ่มผู้ถือสวัสดิการแห่งรัฐ และอนุมัติงบกลางให้กองทุนหมู่บ้านเพื่อช่วยเหลือด้านสาธารณณูปโภคและค่าใช้จ่ายประชาชน

อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าคณะรัฐมนตรีมีมติ เห็นชอบมาตรการเร่งด่วนด้านพลังงานเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์พลังงานไปจนถึงเดือนธันวาคม 2565 ประกอบด้วย การขยายมาตรการที่กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน 2565 รวมทั้งมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านไฟฟ้าสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft รายละเอียด ดังนี้

การขยายมาตรการไปถึงเดือนธันวาคม 2565

1. มาตรการช่วยเหลือด้านราคาก๊าซ LPG ประกอบด้วย

ขยายระยะเวลาส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่เกิน 100 บาท/ราย/เดือน และส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จาก 45 บาท/คน/ 3 เดือน เพิ่มขึ้นอีก 55 บาท/คน/ 3 เดือน รวมเป็น 100 บาท/คน/ 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม - ธันวาคม 2565 คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มประมาณ 5.5 ล้านราย งบประมาณประมาณ 302.5 ล้านบาท

2. มาตรการบริหารราคาน้ำมันดีเชล คงอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลโดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2565 เพื่อบริหารจัดการราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

สำหรับ มาตรการบรรเทาผลกระทบด้านไฟฟ้า เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน โดยการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือนกันยายน - ธันวาคม 2565 ดังนี้

(1) กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ให้ส่วนลดค่า Ft จำนวน 92.04 สตางค์/หน่วย

(2) กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301 - 500 หน่วย/เดือน ซึ่งเป็นคนชั้นกลาง ให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft ร้อยละ 75 จำนวน 51.50 สตางค์/หน่วย

(3) กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 351 - 400 หน่วย ให้ส่วนลดค่า Ft ร้อยละ 45 คือ จำนวน 30.90 สตางค์ต่อหน่วย/เดือน

(4) ผู้ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 401 - 500 หน่วย ให้ส่วนลดค่า Ft ร้อยละ 15 คือ จำนวน 10.30 สตางค์/หน่วย คาดว่า จะใช้งบประมาณ 9,128.41 ล้่านบาท

“มาตรการบรรเทาผลกระทบหลายมาตรการจสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน นี้ ในขณะที่ แนวโน้มสถานการณ์ที่ราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต ราคาค่าไฟฟ้า รัฐบาลจึงตั้งใจจะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนทั่วไปและประชาชนที่มีรายได้น้อยอย่างต่อเนื่อง และผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมด้วย” อนุชา กล่าว

นอกจากนั้น ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 714.64 ล้านบาท ให้สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เป็นค่าใช้จ่ายโครงการช่วยเหลือความเดือดร้อนของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานและค่าใช้จ่ายการให้บริการประชาชน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net