Skip to main content
sharethis

ทรู ดีแทค ไม่ใช่กิจการประเภทเดียวกัน กสทช.ทำชาวบ้านงงทั้งประเทศ นี่คือการตีความกฎหมาย โดยหมอโรคหัวใจคนเก่ง ซึ่งเป็นประธานและเป็น กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กับอดีตนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็น กสทช.ด้านส่งเสริมสิทธิเสรีภาพประชาชน

ทั้งสองคนลงมติว่า เมื่อไม่ใช่กิจการประเภทเดียวกัน กสทช.ก็ไม่มีอำนาจ ที่จะให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบการควบรวม ทำได้แค่ “รับทราบ”

ขณะที่กรรมการอีก 2 คนเห็นว่า กสทช.มีอำนาจ และลงมติไม่เห็นชอบ แต่กลับเป็นฝ่ายแพ้ เพราะอีกคนงดออกเสียง ทำให้คะแนน 2-2 เท่ากัน แล้วประธานใช้สิทธิ “ดับเบิลโหวต” ให้ฝ่ายตัวเองชนะ

คุณจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการควบรวมก็ตาม TDRI อาจพูดเว่อร์ไปก็ได้ว่า การควบรวมจะทำให้เกิดการผูกขาด ค่าบริการอาจสูงขึ้น 2-23% หรือถ้าฮั้วกันได้ระหว่าง 2 รายที่เหลือ ก็อาจสูงขึ้น 120-2,444%

แต่คุณย่อมเห็นว่าการลงมติเอาชนะกันมันพิลึกกึกกือ ในทางกฎหมาย ทั้งศาลปกครอง ทั้งกฤษฎีกา ยืนยันว่า กสทช.มีอำนาจ แต่ตัว กสทช.เองกลับยืนกรานไม่มีอำนาจ โดยอ้างว่าไม่ใช่กิจการประเภทเดียวกัน ทั้งที่ชาวบ้านมองยังไง มันก็คือค่ายมือถือเหมือนกัน เขาควบรวมแล้วจะลดค่าใช้จ่าย ควบศูนย์บริการ ลดพนักงาน ฯลฯ จะบอกว่าไม่ใช่กิจการประเภทเดียวกันได้ไง

พอลงมติอย่างนี้ ดับเบิลโหวตอย่างนี้ ก็ย่อมทำให้ประชาชนมองว่าไม่ชอบมาพากล และเห็นคล้อยตาม TDRI ยกเว้น “สลิ่ม” ที่เคยค้าน “ขายชินขายชาติ“ ค้านทักษิณแปรสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต

งั้นให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้ ขายชาติไหม? นี่ก็ก๊อบนโยบายมาจากยุคทักกี้ แต่ทำให้ง่ายขึ้น

แค่ลงทุน 40 ล้านซื้อพันธบัตรหรือกองทุน 3 ปี (เดิม 5 ปี) ก็ซื้อที่ดินอยู่อาศัยในกรุงเทพฯ พัทยา หรือเขตเทศบาลได้ 1 ไร่ ซึ่งที่ดินในกรุงเทพฯ อาจมีมูลค่าหลายร้อยล้าน

เข้าใจได้นะ รัฐบาลต้องการให้คนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง มีความมั่งคั่งสูง มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ มาอยู่อาศัยในประเทศไทย โลกปัจจุบัน นักลงทุนหรือพวกเศรษฐีรุ่นใหม่เก่ง IT ใช้มือถือเครื่องเดียวก็ทำงานข้ามโลกได้ ระหว่างนั่งกินไข่เจียวปูเจ๊ไฝ หรือตากอากาศอยู่กระบี่

คนเหล่านี้อพยพเข้ามา เพื่อใช้บริการในประเทศไทย ที่ดินราคาถูก อาหารอร่อย บริการต่างๆ ประทับใจ คนไทยก็จะได้ขายที่ดิน ขายฝีมือ ขายบริการ ได้ค่าทิปเยอะๆ

เพราะคนไทยไม่มีศักยภาพที่จะสร้างตัวเป็นคนมีความมั่งคั่งสูง คนไทยทำได้แค่ขายบริการ ทางเดียวที่จะยกระดับได้คือ ดึงต่างด้าวมาใช้บริการ ผัดกะเพราที่ขาย 40-50 บาทก็อาจขายคนพวกนี้ได้แพงลิบ โดยปรุงแต่งหน่อย เช่นกะเพราออร์แกนิกเนื้อโคขุนผัดพริกกะเหรี่ยงต้านอนุมูลอิสระ จานละพันบาท

ขณะที่ชาวบ้านทั่วไปก็กินผัดกะเพราแพงขึ้นหน่อย 50-60 บาท (800 จานซื้อไอโฟนได้ 1 เครื่อง)

นั่นละครับอนาคตคนไทย บ้าน ที่ดิน คอนโดฯ แพงขึ้น จากที่ปัจจุบันคนชั้นกลางทั่วไปก็ซื้อไม่ไหวอยู่แล้ว เคยเห็นไหม หมู่บ้านจัดสรรที่แค่ซุ้มประตูก็ทำราวกับปราสาท ราคาหลายสิบล้าน ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยปัจจุบันสูงมาก และจะยิ่งสูงขึ้นไปอีกจากเศรษฐกิจหลังโควิดที่จะเป็นรูปตัว K บวกมาตรการต่างชาติซื้อที่ดินได้

นี่ไม่ใช่เรื่องชาตินิยมหรอก คนรุ่นต่อไปจะเป็นพลเมืองโลก หลากหลายเชื้อชาติผสมกัน เราไม่ควรกีดกันคนต่างชาติ แต่นี่เป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำที่จะยิ่งสูงลิบลิ่วต่างหาก

คนจนคนต่างจังหวัดจะยิ่งสูญเสียที่ดิน จากกฎหมายบังคับคดีใหม่ ที่บังคับขายทอดตลาดได้ทันที ฮั้วประมูลกดราคาต่ำ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขายที่ดินต่างชาติจะอู้ฟู่

ในทางตรงข้าม กฎหมายส่งเสริมธุรกิจกลางย่อยอย่าง “สุราก้าวหน้า” กลับจะถูกเบรก ด้วยการบิดเบือนว่า จะทำให้เกิดการต้มเหล้าเถื่อนหรือผลิตสุราไม่ได้คุณภาพ ออกมาขายเกลื่อนเมืองเหมือนกัญชา

อุบาทว์นะครับ พูดราวกับว่าจะเปิดเสรีให้ต้มเหล้าบ้านละ 15 ขวด ทั้งที่กฎหมายสุราก้าวหน้าแค่ต้องการปลดล็อกจากปัจจุบันที่บังคับว่า ต้องมีกำลังการผลิตเบียร์ขั้นต่ำ 10 ล้านลิตรต่อปี เหล้า 3 หมื่นลิตรต่อวัน สุราชุมชนต้องมีเครื่องจักรน้อยกว่า 5 แรงม้า คนงานน้อยกว่า 7 คน ซึ่งทำให้มีแต่รายใหญ่ รายย่อยเกิดไม่ได้ สุราชุมชนก็มีข้อห้ามมากมายจนแข่งขันไม่ได้

ปัจจุบันคนไทยเก่งๆ ผลิตคราฟต์เบียร์ได้รางวัลมากมาย แต่ต้องไปผลิตในประเทศเพื่อนบ้านแล้วส่งกลับมาขายเมืองไทย ฉลาดหรือโง่ไม่รู้ แค่ปลดล็อกให้เขาผลิตได้ โดยรัฐก็เก็บภาษี-ควบคุมคุณภาพ เหมือนที่ทำอยู่ กลับไปให้ร้ายว่าจะต้มเหล้าเถื่อนเกลื่อนเมือง

นึกภาพยุโรป หรือญี่ปุ่น ผลิตไวน์ผลิตสาเกกันทุกตำบล ขายความแตกต่าง ถ้าอ้างเมืองไทยเมืองพุทธก็ห้ามขายให้หมด อย่าดัดจริตห้ามแค่วันพระใหญ่

รูปธรรมเหล่านี้สะท้อนว่า ระบอบอำนาจที่เอื้อต่อการผูกขาด ยิ่งแก้ยิ่งเหลื่อมล้ำ ไร้ภูมิปัญญาสร้างสรรค์ จะทำให้ประเทศวิบัติลงไปเรื่อยๆ

ปัญหาเศรษฐกิจสังคมใหญ่โตมหึมา สุมกองรอระเบิดอยู่ข้างหน้า

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7338070

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net