'โรม' จ่อยื่น ป.ป.ช.เอาผิด 'ส.ว.อุปกิต' พรุ่งนี้ งง นายกฯ ไม่จัดการทุนสีเทา ชี้ปล่อยให้สังคมลืม ถาม ส.ว.คนดี ไม่สอบเหรอ ขณะที่ 'เพื่อไทย' จี้ 'ประยุทธ์' ชี้แจงทุนจีนสีเทา พัวพัน เครือญาติ ชี้ตั้งใจทำทุกทางเพื่อสืบทอดอำนาจ
22 ก.พ.2566 หลังจาก รังสิมันต์ โรม โฆษกและส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เปิดโปงกรณี ‘ไทยดำ-จีนเทา’ ซึ่งพาดพิง อุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. จนรังสิมันต์ถูกอุปกิตฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท เรียกร้องค่าเสียหาย 100 ล้านบาทนั้น ล่าสุด วันนี้ (22 ก.พ.) สำนักข่าวไทย รายงานความเคลื่อนไหวของ รังสิมันต์ ซึ่งเขากล่าวว่าว่า ที่อภิปรายว่าตนตั้งเป้าจะเอาส.ว. ดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทำให้ประชาธิปไตยกลับคืนมา ซึ่งผมก็งงกับรัฐบาลที่ปากก็บอกว่าจะจัดการทุนสีเทา แต่ถึงเวลาไม่ทำอะไร ไม่แม้แต่เสแสร้งจะทำ ถ้าตนเป็นนายกฯ จะบอกว่าจะตั้งกรรมการสอบสวนและจัดการ แต่ไม่แม้แต่จะพูดประโยคนี้ แสดงให้เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องที่สังคมลืมไป
เมื่อถามถึงความคืบหน้าขั้นตอนการยื่นป.ป.ช. นั้น รังสิมันต์ กล่าวว่า ช่วงเช้าพรุ่งนี้(23 ก.พ.) จะไปยื่นหนังสือต่อป.ป.ช.เกี่ยวกับเรื่องที่เพิ่งเปิดโปงไป แต่ยื่นไม่ครบทุกเรื่อง เพราะบางเรื่องเป็นหน้าที่ตำรวจ แต่บางเรื่องเป็นเรื่องของป.ป.ช. และบางเรื่องเป็นเรื่องของคณะกรรมการจริยธรรมส.ว.
“ขอฝากไปถึงคณะกรรมการจริยธรรมส.ว.ที่ส.ว.ชอบพูดเสมอว่าตัวเองเป็นคนดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมเรื่องนี้ไม่สอบ ไม่สอบหน่ยอเหรอ ไม่ทำอะไร สุดท้ายายก็ช่วยเหลือพวกเดียวกันเอง” รังสิมันต์ กล่าว
'เพื่อไทย' จี้ 'ประยุทธ์' ชี้แจงทุนจีนสีเทา พัวพัน เครือญาติ ชี้ตั้งใจทำทุกทางเพื่อสืบทอดอำนาจ
ขณะที่ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ หรือ ส.ส. ทนายบิลลี่ ว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. เขตทวีวัฒนา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจในมาตรา 152 ได้สร้างความสั่นสะเทือนและสร้างความเสียหายให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอย่างมาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ชี้แจงให้กระจ่าง ทำให้ประชาชนจำนวนมากยังมีข้อกังขาอย่างมาก
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์น่าจะตั้งใจที่จะสืบทอดอำนาจของตัวเองต่อไป โดยพล.อ.ประยุทธ์ คงยังหวังที่จะอยู่ต่อเพราะกองเชียร์ภายในทำเนียบ และบริวารต่างได้ประโยชน์และอำนาจจากเครือข่ายของระบอบประยุทธ์ มานานจนเคยชิน และมีความพยายามไปถึง พรรค ส.ว. 250 คน ที่มีการโยนหินถามทางเป็นระยะๆ ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปอดล็อควาระการดำรงตำแหน่งของนายก ฯ ไม่ให้มีข้อจำกัดเพื่อให้ประยุทธ์ สามารถครองอำนาจได้ต่อครบ 4 ปีในสมัยหน้า และ การต่ออายุของ ส.ว. 250 คน ซึ่งยังไม่นับขบวนการสบคบคิดที่กำลังทยอยวางแผนกันออกมา ทั้งการสกัดกั้นพรรคเพื่อไทย รวมถึงการออกกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อนำไปสู่การยุบพรรค นี่คือสาเหตุที่วันนี้การเมืองและการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยวันนี้กำลังสู้อยู่กับระบอบและเครือข่ายอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ หากต้องการเปลี่ยนรัฐบาล และต่อสู้กับอำนาจของสภาสูง จำเป็นต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์ไสล์เพื่อก้าวข้ามสู้ข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญในการเลือกนายกรัฐมนตรี ให้พรรคเพื่อไทยได้แลนไสล์สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งจะมีผลผลักให้พล.อ.ประยุทธ์ ออกจากกระดานอำนาจไปโดยปริยาย นี่คือสาเหตุที่ต้องตอกย้ำกับพี่น้องประชาชนในการวางยุทธศาสตร์ทางการเมืองร่วมกันเพื่อให้พรรคเพื่อไทยสามารถข้ามผ่านเงื่อนปมของรัฐธรรมนูญในบทเฉพาะการของ พรรคส.ว. ที่มี 250 คนไปได้
โดยการอภิปรายทั่วไปที่ผ่านมานั้นถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของอายุสภา แม้จะไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติก็ตาม แต่ก็ถือว่าพล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นตำบลกระสุนตกเพียงฝ่ายเดียวที่ถูกระชากหน้ากากคนดีตามหัวเรื่องการอภิปรายของผู้นำพรรคฝ่ายค้านอย่างคุณหมอชนน่าน ศรีแก้ว รวมถึงผู้อภิปรายท่านอื่น ๆ ได้อธิบายอย่างละเอียดว่าวันนี้อำนาจที่พล.อ.ประยุทธ์เคยมีทั้งอำนาจสมัยรัฐบาล คสช รวมถึงอำนาจ นายก ฯ ที่ผ่านมารวม 8 ปี ไม่เคยมีรัฐบาลไหนในประวัติศาสตร์ที่จะมีอำนาจล้นฟ้าเหมือนที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยมีท่านสามารถใช้อำนาจนี้ในการปฏิรูป ยกเครื่องระบบราชการ ทลายการทุจริต ยาเสพติด บ่อนการพนัน การซื้อขายตำแหน่งราชการ การพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวทั้งหมดที่ควรจะได้รับการแก้ไขกลับกลายเป็นโซ่คล้องที่พันธนาการบีบรัดประเทศไทยไว้กับปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้แน่นหนามากกว่าเดิม
จิรวัฒน์ กล่าวต่อว่า ช่วงเพียง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเปรียบเสมือนน้ำลดแล้วตอพุด ความชั่วร้าย ความสกปรก การทุจริตคอรัปชั่น การซื้อขายตำแหน่ง ขบวนการฟอกเงิน ทุนจีนสีเทา การใช้อำนาจส.ว.ผ่านการกำหนดบุคคลในการดำรงตำแหน่งภายในองค์กรอิสระ หรือหน่วยงานของรัฐระดับสูงที่มีผลต่อการปกป้องรัฐบาลและทำลายพรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม การปล่อยให้องค์กรตำรวจโดยเฉพาะตำรวจบางนายเข้าไปพัวพันต่อขบวนการเว็ปพนันออนไลน์ซึ่งตัวเองก็อยู่ในฐานะประธานก.ตร. ยังคงมีเรื่องราวที่ทำให้พวกเราในฐานะประชาชนยังคงสงสัยและตั้งคำถามมากมายต่อรัฐบาลนี้ที่มีปัญหาผัวผันเรื่องการทุจริตและภาพสีเทาติดตัวนายก ฯ เต็มไปหมดจนเป็นลุงตู่ สีเทาไปแล้ว
โดยเฉพาะประเด็นที่มีการอภิปรายไว้นั้นน่าสนใจมากในเรื่องที่พัวพันเกี่ยวกับคนในครอบครัวของพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งเรื่องหลานใกล้ชิดที่เข้าไปได้รับประโยชน์จากการประมูลหลายโครงการตลอดแปดปีที่ผ่านมาจนได้รับประโยชน์จากโครงการต่าง ๆ ของรัฐกว่าพันล้านบาท ซึ่งบริษัทมีทุนจดทะเบียนไม่สอดคล้องกับงานที่ได้รับการประมูล รวมถึงการเข้าไปมีส่วนในการปล่อยเช่ารถยนต์ให้กับกลุ่มทุนจีนสีเทาของห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) แห่งหนึ่งซึ่งเป็นของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นการตอบอภิปรายในสภาที่ผ่านมาเป็นเพียงการตอบโดยเบี่ยงประเด็น หลีกเลี่ยงในการชี้แจง ซึ่งสุดท้ายภาพของการขายในทางการเมืองเพื่อบอกว่าตัวเองซื่อสัตย์ ไม่ทุจริต ดูจะขัดแย้งกับพฤติการณ์และสภาพแวดล้อมปัญหาที่เกิดขึ้นลายล้อมรอบตัวท่านตลอดมา
จึงเป็นประเด็นที่อยากจะฝากพี่น้องประชาชนเอาไว้ว่าวันนี้เราให้โอกาสพล.อ.ประยุทธ์ มานานมากพอกว่าที่ควรจะได้รับโอกาศในการเป็นรัฐบาลต่อไปแล้ว ประเทศต้องเปลี่ยนผู้นำโดยเร็วที่สุด และวันนี้ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะให้การตอบรับกับพรรคเพื่อไทย ผู้ที่เป็นผู้ถูกกระทำมาตลอดบนเส้นทางการเมืองกว่า 20 ปี แต่พรรคเพื่อไทยก็ผ่านร้อนผ่านฝนมาได้และยืนหยัดในเจตนารมณ์เช่นเดิมแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะวันนี้กว่าครึ่งพรรคที่มีคนรุ่นใหม่พร้อมที่จะรับฟังกลุ่มคนทุกกลุ่มเพื่อประสานประโยชน์ร่วมกันให้ประเทศของเราได้พัฒนาและเจริญรุ่งเรืองในยุคที่เราและลูกหลานของเราต้องเติบโตไปในอนาคต
จิรวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เราให้โอกาสพล.อ.ประยุทธ์มามากพอแล้ว ถ้าจะเปลี่ยนรัฐบาลได้บนเงื่อนไข ส.ว. 250 ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์ไสด์