กรณีพลทหาร 'วรปรัชญ์' เสียชีวิตภายในค่ายนวมินทราชินี ชลบุรี กมธ.ทหารได้ข้อสรุปประชุม เตรียมทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด เข้ามาดูแลคดีนี้ และให้ ผบ.ทบ. คุ้มครองพยานและผู้เสียหาย ชี้ถ้าอยากให้กรณีนี้เป็นกรณีสุดท้ายต้องมีคนรับผิดชอบ

22 ส.ค. 2567 ทีมสื่อพรรคประชาชน ระบุว่า วันนี้ (22 ส.ค.) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร (กมธ.ทหาร) สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณี วรปรัชญ์ พัดมาสกุล พลทหารค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ถูกซ้อมทรมานและเสียชีวิตในค่าย ซึ่งเป็นประเด็นที่หารือในการประชุม กมธ.ทหารวันนี้ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ แต่ผู้บังคับบัญชาการค่ายนวมินทราชินี กลับไม่มาร่วม และไม่ส่งตัวเแทนมาชี้แจง

วิโรจน์ กล่าวว่า จากเอกสารการฝากขังผู้ต้องหาที่ทำร้ายพลทหารวรปรัชญ์ ซึ่งทำโดยพนักงานสอบสวน ระบุว่า ก่อนพลทหารวรปรัชญ์ เสียชีวิต ถูกทำร้ายร่างกายอย่างต่อเนื่องจนมีรอยฟกช้ำปรากฏนอกร่มผ้า ถึงขั้นต้องให้เพื่อนทหารแบกมารับประทานอาหาร และอาบน้ำ

วิโรจน์ กล่าวต่อว่า ผลชันสูตรของวรปรัชญ์ พบว่า พลทหารคนดังกล่าวถูกซ้อมทรมานอย่างรุนแรง มีอาการบาดเจ็บ ปอดฉีก สมองบวม กระดูกสันหลังร้าว กระดูกซี่โครงหัก ซึ่งเชื่อได้ยากว่าอาการบาดเจ็บทั้งหมดนี้มาจากการธำรงวินัยตามระเบียบของกระทรวง แต่คาดว่าถูกทหารกลุ่มซ้อมทรมาน

"สิ่งเหล่านี้ผู้บังคับบัญชาจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ทราบไม่ได้" วิโรจน์ กล่าว

สส.พรรคประชาชน ระบุว่า โครงการพลทหารปลอดภัยของ กมธ.การทหาร อ้างอิงตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย มาตรา 42 เป็นเหตุให้สงสัยว่าผู้บังคับบัญชาการค่าย ผู้หมวด ผู้กอง ฯลฯ ย่อมต้องมีส่วนรับผิดด้วยหรือไม่ วันนี้จึงมีมติจาก กมธ. 2 ทาง

ส่งหนังสือถึงอัยการสูงสุด-ผบ.ทบ.

สส.พรรคประชาชน ระบุว่า ทางที่ 1 กมธ. เตรียมทำหนังสือด่วนถึงอัยการสูงสุด ให้เข้ามากำกับดูแลคดีตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ โดยจากการรายงานทราบมาว่า พนักงานสอบสวนคดีมีความกังวลต่อการดำเนินคดีกับนายทหารชั้นสัญญาบัตรระดับยศนายพันขึ้นไป ซึ่งคงต้องมีการนำเรียนถึงอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาว่าจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทำคดีนี้ หรือจะให้อัยการฝ่ายสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการ

นอกจากนี้ กมธ.การทหาร จะนำเรียนอัยการให้มีการคุ้มครองพยานด้วย เพราะจากการตั้งข้อกล่าวหาในครั้งแรก ปรากฏมีผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกจากศาลทหารแล้ว และมีพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายไปข่มขู่พยานที่อยู่ในค่าย

สส.พรรคประชาชน กล่าวว่า ประเด็นที่ 2 กมธ.จะทำหนังสือด่วนถึงผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อคุ้มครองพยานที่ยังอยู่ในค่าย และเพื่อไม่ให้นายทหารระดับบังคับบัญชาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดี หรือมีพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายข่มขู่สร้างความรำคาญใจกับผู้เสียหาย

วิโรจน์ กล่าวว่า ตนและ กมธ.ทหาร หวังให้กรณีนี้เป็นกรณีสุดท้าย แต่จะเป็นเช่นนั้นได้ก็ต่อเมื่อมีคนที่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง และรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น