Skip to main content
sharethis

'เพื่อไทย' เตือนยื่นยุบพรรคไร้เหตุผลเป็นการเมืองแบบเก่า เป็นภัยต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเสียเอง สังคมไทยควรเรียนรู้ได้แล้ว - 'จตุพร' ชี้คำร้องยุบเพื่อไทยของ 'สนธิญา' แค่เผาหลอก เผาจริงเตรียมการไว้แล้ว ระบุเพื่อไทยไม่ได้มีแค่กรณีเดียว แต่รู้ว่า กกต.มีข้อมูลร่วม 20 กรณี

https://live.staticflickr.com/65535/52612406605_c451c9d228_o_d.png
ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย (แฟ้มภาพ)

11 มี.ค. 2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนว่าลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีความพยายามจากหลายฝ่ายในการยื่นยุบพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้งในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า เป็นความหวังของพี่น้องประชาชนที่จะแสดงออกถึงเจตจำนงในการใช้สิทธิที่พึงมีเลือกผู้แทนราษฎรและเลือกพรรคการเมืองซึ่งเป็นที่พึ่งที่หวังในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ปรากฏว่าผู้ไม่หวังดีกำลังใช้อำนาจของกระบวนการยุติธรรมไปในทางที่ผิด เล่นการเมืองแบบเก่าโดยใช้ข้อกฎหมายที่ไม่มีเหตุหรือมูลความจริงมาสกัดกั้น นำมาเป็นเหตุอ้างในการยุบพรรคการเมือง รัฐธรรมนูญ

สำหรับเหตุของการยุบพรรคการเมือง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มี 4 ประเด็นหลัก คือ 1. กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2. กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3. กระทําการฝ่าฝืนมาตรา 20 วรรคสอง มาตรา 28 มาตรา 30 มาตรา 36 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 46 มาตรา 72 หรือมาตรา 74 ซึ่งว่าด้วยการดำเนินการของพรรค ว่าจะต้องไม่แสวงหากำไร ไม่ถูกครอบงำ ต้องยึดหลักประธิปไตย และปฏิบัติตามข้อบังคับเรื่องการเงิน 4. มีเหตุอันจะต้องยุบพรรคการเมืองตามที่มีกฎหมายกําหนด

จากเหตุผลข้างต้นจะเห็นได้ว่าตอนนี้ไม่มีพรรคการเมืองใดที่เป็นภัยต่อการล้มล้างการปกครอง เว้นเสียแต่ว่าเหตุผลเดียวที่ต้องการยุบพรรค เป็นไปเพื่อต้องการสกัดกั้นเป้าหมายแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ จึงมีความพยายามทุกวิถีทางที่สร้างประเด็น เพื่อให้เกิดการชะงักงันในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยละเลยความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง

ประวัติศาสตร์การเมืองไทยนับตั้งแต่มีการประกาศใช้ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มี 110 พรรคถูกยุบพรรค และทุกครั้งที่มีการยุบพรรคมักจะเกิดวิกฤตทางการเมืองที่ยากจะหาทางออก ซึ่งสังคมไทยหรือนักการเมืองไทยควรเรียนรู้ได้แล้วว่าการยุบพรรคการเมืองไม่เป็นผลดี ไม่เคารพต่อเสียงของประชาชน ไม่มีประโยชน์ต่อพลวัตน์ของการเมืองไทย ดังนั้นพรรคเพื่อไทยหรือพรรคการเมืองอื่นที่ไม่มีความผิดไม่สมควรที่จะต้องถูกยุบพรรค เพื่อดำรงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

“ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนตั้งตาตั้งตารอคอย กระบวนการยุบพรรคที่ไม่ว่าเกิดจากใคร ที่พยายามสกัดกั้นขัดขวางพรรคอื่นโดยพยายามใส่ร้าย ถือเป็นการเมืองแบบเก่า เป็นภัยต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเสียเอง” ลิณธิภรณ์ กล่าว

'จตุพร' ชี้คำร้องยุบเพื่อไทยของ 'สนธิญา' แค่เผาหลอก เผาจริงเตรียมการไว้แล้ว ปูด กกต.มีข้อมูลร่วม 20 กรณี

เว็บไซต์ไทยโพสต์ รายงานเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2566 ว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ คณะหลอมรวมประชาชน ระบุผ่านเฟสบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ในช่วงหนึ่งกล่าวถึงกรณีข้อหายุบพรรคเพื่อไทยว่าคำร้องของนายสนธิญา สวัสดี นั้นเป็นเพียงการเผาหลอก ส่วนเผาจริงได้เตรียมการไว้แล้ว โดยผ่านการไต่สวนชี้ข้อหามีมูลเป็นที่ยุติและกำลังอยู่ในขั้นตั้งอนุกรรมการไต่สวน จากนั้นเสนอให้ กกต.ชุดใหญ่มีมติชี้มูลแล้วยื่นศาลรัฐธรรมนูญลงโทษด้วยการยุบพรรค ซึ่งนายจตุพรคาดว่าคงใช้เวลาไม่นานนับจากนี้

ทั้งนี้บุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง และถูกตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปี นอกจากได้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงแล้ว ยังเหลือเพียงหน้าที่เชียร์พรรคการเมืองได้อย่างเดียว โดยต้องได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "ผู้ช่วยหาเสียง" เท่านั้น โดยสิ่งสำคัญ ผู้ช่วยหาเสียงมีหน้าที่เชียร์ อย่าได้ทำหน้าที่เกินเลยไปเป็นโค้ชสั่งการผู้เล่นเด็ดขาด ยิ่งกองเชียร์ยังมีสถานะคนนอกพรรค การพูด การเชียร์อะไร อย่างไร ต้องระมัดระวัง โดยให้พรรคพูดล่วงหน้าก่อน กองเชียร์ค่อยพูดตามเป็นดีที่สุด จะปลอดภัยจากการครอบงำที่สุด ผมผ่านบทบาทตรงนี้มาแล้ว ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงคนแรกของประเทศ

นายจตุพรระบุว่าช่องว่างของผู้ช่วยหาเสียงมีช่องเดียวตามที่เสนอแนะมาเท่านั้น หากเดินผิดจะติดกับดักข้อหาครอบงำ ซึ่งเพื่อไทยไม่ได้มีแค่กรณีเดียว แต่รู้ว่า กกต.มีข้อมูลร่วม 20 กรณี ดังนั้นเพื่อไทยควรมีสมาธิไปรับมือข้อกล่าวหาที่อยู่ในข่ายเผาจริง ส่วนกรณีคำร้องของนายสนธิญา เป็นเพียงการเผาหลอก หรือแค่น้ำจิ้ม ไม่ใช่สาระสำคัญทางอำนาจ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net