Skip to main content
sharethis

สมชาย จวก คุณภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่ตอนนี้ยิ่งกว่าเลวทราม ไม่ต่างจาก “การสังหารหมู่แบบเลือดเย็นในระยะยาวโดยน้ำมือรัฐ” เตรียมร่วมกับเครือข่ายประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ไปยื่นฟ้อง “พล.อ.ประยุทธ์” ต่อศาลปกครองจากความล้มเหลวในการจัดการปัญหา PM2.5 วันจันทร์ที่ 10 เม.ย. นี้

 

6 เม.ย. 2566 สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ยังคงย่ำแย่ต่อเนื่อง ในวันนี้ (6 เม.ย. 2566) ช่วงเวลา 10.00 น. เว็บไซต์รายงานคุณภาพอากาศ Iqair.com วัดดัชนีคุณภาพอากาศเชียงใหม่ได้ที่ 350 US AQI และมี PM2.5 อยู่ที่ 299.6 ไมโครกรัม องค์การอนามัยโลกกำหนดให้ค่า PM2.5 ไม่ควรเกิน 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในเวลา 24 ชั่วโมง กรมควบคุมมลพิษประเทศไทย ค่า PM2.5 ไม่ควรเกิน 50 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตรใน 24 ชั่วโมง

สภาพเมืองเชียงใหม่ วันที่ 6 เม.ย. 2566

สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์กับประชาไทถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ขณะนี้ว่า คุณภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่ยิ่งกว่าเลวทราม ค่าฝุ่นอยู่ในระดับที่เกินค่ามาตรฐานติดต่อกันเป็นสัปดาห์โดยที่รัฐบาลไม่สามารถจัดการได้ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างอันตรายร้ายแรง ทั้งนี้ สมชายและเครือข่ายประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ที่ต้องเผชิญปัญหาฝุ่น PM2.5 เตรียมรวมตัวกันยื่นฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นคดีต่อศาลปกครอง จากความล้มเหลวในการจัดการปัญหา PM2.5

ก่อนหน้านี้ศาลปกครองเชียงใหม่ได้พิพากษายกฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ ในคดีการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ไปแล้วครั้งหนึ่ง การยื่นฟ้องคดีครั้งนี้จะแตกต่างจากเดิมอย่างไร

สมชาย : อันที่หนึ่งคือเราคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้แตกต่างไปอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงประมาณ 10 วันที่ผ่านมาปริมาณฝุ่นในเชียงใหม่อยู่ในระดับที่คนทั่วไปสามารถเห็นว่าฝุ่นเพิ่มขึ้นเยอะแล้ว และเป็นอันตรายต่อสุขภาพแน่ๆ ถ้าเราเข้าไปดูบรรดาแอปพลิเคชันจำนวนมากที่บอกปริมาณฝุ่นล้วนบอกว่าปริมาณฝุ่นในเชียงใหม่ตอนนี้อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อระดับสุขภาพอย่างร้ายแรง

“ผมคิดว่าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนเสียจนคงไม่มีใครปฏิเสธว่าฝุ่นตอนนี้อยู่ในระดับที่เกินกว่าเราจะบอกว่ามันปกติได้ สมมติว่ายังมีใครแสดงความเห็นว่าค่าฝุ่นตอนนี้ยังเป็นสภาวะปกติที่ไม่ได้อันตรายร้ายแรง ผมคิดว่าคนคนนั้นคงต้องมีปัญหาในทางสติปัญญา” สมชาย กล่าว

สมชาย ปรีชาศิลปกุล

ในฐานะคนเชียงใหม่ที่ต้องอยู่กับฝุ่นตลอด อาจารย์คิดว่าหน่วยงานรัฐระดับจังหวัดหรือรัฐบาลควรจะออกมาแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างไร

สมชาย: อันนี้เพื่อความเป็นธรรมกับรัฐบาล ผมคิดว่ารัฐบาลมีแผนที่เรียกสั้นๆ ว่า “แผนฝุ่นชาติ” ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 มีการออกมาตรการต่างๆไว้ ทั้งมาตรการระยะสั้น มาตรการระยะยาว เมื่อมีปริมาณฝุ่นจะต้องทำอะไรบ้าง ผมคิดว่าตั้งแต่ปี 2562, 2563, 2564, 2565 มาจน 2566 ผมคิดว่าถึงตอนนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าแผนฝุ่นที่ทำมาไม่มีความหมายอะไรเลย ปริมาณฝุ่นก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งๆ ที่ในแผนฝุ่นแชาติมีการพูดถึงทั้งปัญหาฝุ่นภายในเมือง นอกเมือง ภาคการเกษตร และฝุ่นข้ามแดนด้วยซ้ำ แต่ปัญหาทั้งหมดคือการเขียนลงในกระดาษ โดยที่ไม่ได้มีการกระทำอะไรติดตามมา

“เพราะฉะนั้นที่คุณประยุทธ์พูดว่าทำแล้ว ทำอยู่ และทำต่อไป ถ้าผมจะบอกก็คือแกทำในกระดาษ แล้วแกก็คิดว่าในกระดาษคือประสบความสำเร็จ ซึ่งไม่ใช่ ผมคิดว่าถ้าคนจะเป็นผู้นำประเทศต้องมีสติปัญญามากกว่าการรู้ว่าแค่เขียนลงกระดาษแล้วมันจะนำไปสู่ความสำเร็จ ผมคิดว่าไม่ใช่” สมชาย กล่าว

สมชายระบุว่า สถานการณ์อากาศเชียงใหม่ตอนนี้คำว่า “เลวทราม” ยังน้อยเกินไป “อากาศตอนนี้มากกว่าคำว่าเลวทรามแล้ว ผมคิดว่าสำหรับชนชั้นกลาง ข้าราชการ ซึ่งทำงานในสำนักงานยังมีทางเลือกในตอนทำงาน คุณทำงานในออฟฟิศคุณเปิดแอร์ มีเครื่องฟอกอากาศ”

“ผมพนันได้เลยว่าห้องทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด ห้องทำงานของผู้พิพากษา ห้องทำงานของปลัดจังหวัด ห้องทำงานของอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ ห้องทำงานของคณบดีในมหาวิทยาลัย ทุกคนล้วนมีเครื่องฟอกอากาศ แต่ว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้นั่งอยู่ในนั้น คนส่วนใหญ่อยู่บนท้องถนน อยู่ในตลาด อยู่ในการก่อสร้าง อยู่ในถนนหนทาง ไรเดอร์ขับรถ นี่คือคนส่วนใหญ่ ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่กำลังได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง หน่วยงานรัฐควรต้องทำอะไรบ้าง” สมชาย กล่าว

สมชายยังอธิบายเสริมว่า สิ่งที่หน่วยงานรัฐทำได้อย่างง่ายๆ เลยคือการแจกหน้ากากให้ประชาชนอย่างกระจายทั่วถึง ไม่ใช่การให้ประชาชนเดินทางไปที่ศาลากลาง เดินทางไปที่ไหน แล้วก็ไปรับหน้ากากอนามัยคนละหนึ่งอันกลับมา “ผมคิดว่านี่เป็นการแจกที่ไร้ประสิทธิภาพและไร้ปัญญาอย่างมาก ควรต้องมีการเปิดโอกาสให้มีการตรวจสุขภาพ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ต้องมีพื้นที่ปลอดฝุ่น เช่น อาจจะไปตั้งที่โรงเรียนที่ใกล้กับชุมชน ทำห้องที่ปลอดฝุ่น ทำพื้นที่ปลอดฝุ่นให้เกิดขึ้น นี่เป็นมาตรการพื้นฐานง่ายๆ”

“ต้องแจกหน้ากากให้ทั่วถึง ไม่ใช่แจกแบบราชการที่พอจะแจกทีต้องมีประธานมาเปิดงาน ข้าราชการอีก 300 คน มายืนตบไม้ตบมือ แล้วก็ให้ชาวบ้านไปนั่งสูดฝุ่นเพื่อรอแจกหน้ากาก 1 อัน อย่าไปทำ กระจายหน้ากากลงไปตามชุมชน ตามสถานที่ใกล้ชิดกับประชาชน ผมคิดว่าอันนี้คือเรื่องง่ายมาก เป็นเรื่องพื้นฐานที่ควรทำ” สมชายกล่าว

สุดท้าย สมชายกล่าวว่า เรื่องบางเรื่องในการแก้ไขอาจต้องใช้เวลา เช่นการนโยบายของรัฐบาลที่ไปซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านแทนที่จะซื้อจากภายในประเทศ จนทำให้รอบบ้านเรากลายเป็นจุดความร้อนเพิ่มขึ้น คงต้องแก้ไขในระยะยาว แต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้ารัฐบาลควรต้องทำอะไรกันบ้าง มิเช่นนั้นก็จะเป็นปัญหาระยะยาวกับผู้คน

“ผมเห็นด้วยนะครับที่มีคนพูดว่านี่คือการสังหารหมู่แบบเลือดเย็นในระยะยาว ผมว่าสถานการณ์ตอนนี้นี่คือการสังหารหมู่ ถ้าจะพูดให้ชัดคือนี่เป็นการสังหารหมู่แบบเลือดเย็นในระยะยาวโดยน้ำมือรัฐ” สมชาย กล่าวปิดท้าย

 

ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 10 เม.ย. 2566 สมชายและเครือข่ายประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่จะรวมตัวกันไปยื่นฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ต่อศาลปกครองเชียงใหม่ เวลา 10.00 น. ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM2.5 สามารถร่วมชื่อสนับสนุนการฟ้องคดีครั้งนี้ได้ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันศุกร์ที่ 7 เม.ย. 2566

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net