Skip to main content
sharethis

'ผสานวัฒนธรรม-เครือข่ายผู้ถูกกระทำทรมานและญาติผู้สูญหาย' ร้องรัฐบาลเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับโดยทันที โดยไม่มีเงื่อนไขและข้อสงวนใดๆ และ ยกเลิกข้อสงวนที่ประเทศไทยได้ทำไว้ภายใต้อนุสัญญาต่อต้านการทรมานโดยทันทีเช่นกัน

 

18 ก.ย.2566 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งสื่อมวลชนว่า มูลนิธิฯและเครือข่ายผู้ถูกกระทำทรมานและญาติผู้สูญหาย เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการดำเนินการ 1. ให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (ICPPED) โดยทันที โดยไม่มีเงื่อนไขและข้อสงวนใดๆ และ 2. ยกเลิกข้อสงวนที่ประเทศไทยได้ทำไว้ภายใต้อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน (CAT) โดยทันทีเช่นกัน

โดยมีรายละเอียดดังนี้ : 

 

เรียกร้องให้รัฐบาลเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วย การคุ้มครองบุคคลจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (ICPPED) โดยทันที โดยไม่มีเงื่อนไขและข้อสงวน

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรและเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการรับรองโดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มูลนิธิฯ ทำงานด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและสิทธิในการเข้าถึงความยุติธรรมของประชาชน โดยเฉพาะกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ โดยการทรมาน การปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการบังคับบุคคลให้สูญหาย

สืบเนื่องจากขณะนี้ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 (‘พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน-อุ้มหาย’) ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2565 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 กฎหมายดังกล่าว ถือเป็นกฎหมายอนุวัติการเพื่อให้ประเทศไทยปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ภายใต้ อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี (Convention Against Torture - CAT) ซึ่งไทยเข้าเป็นภาคีโดยการภาคยานุวัติ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2550 และมีผลใช้บังคับกับไทยเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance - ICPPED) ซึ่งประเทศไทยได้ลงนามแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าเป็นภาคี เนื่องจากรอกฎหมายอนุวัติการอยู่

บัดนี้ เมื่อพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน-อุ้มหาย มีบทบัญญัติสำคัญที่กำหนดให้การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายเป็นความผิดทางอาญา และอื่นๆ ที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาทั้งสองฉบับได้แล้ว แต่ยังคงขาดการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นภาคีของอนุสัญญาทั้งสองฉบับอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะ บัดนี้เป็นเวลากว่า 7 เดือนนับแต่ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน-อุ้มหาย ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้แล้ว แต่ประเทศไทยยังไม่ได้ดำเนินการเพื่อเป็นรัฐภาคีอย่างสมบูรณ์

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และเครือข่ายผู้ถูกกระทำทรมานและญาติผู้สูญหาย ซึ่งร่วมลงนามตามแนบท้ายนี้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การทำของท่าน ดำเนินการดำเนินการดังต่อไปนี้

1.       ให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (ICPPED) โดยทันที โดยไม่มีเงื่อนไขและข้อสงวนใดๆ

2.       ยกเลิกข้อสงวนที่ประเทศไทยได้ทำไว้ภายใต้อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน (CAT) โดยทันทีเช่นกัน

รายชื่อเครือข่ายผู้ถูกกระทำทรมานและญาติผู้สูญหาย                                                                           

1.       สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์

2.       กัญญา ธีรวุฒิ แม่ของสยาม ธีรวุฒิ

3.       ก่อการ บุปผาวัฎฎ์ ลูกชายของชัชชาญ บุปผาวัลย์

4.       ปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ภรรยาของสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์

5.       อรรถสิทธิ์ นุสสะ ผู้ได้รับผลกระทบจากการทรมาน

6.       มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net