'พริษฐ์' ไม่ขอให้ความเห็นปมกลุ่มที่อ้างตัวเป็นสมาชิก 'ก้าวไกล' ยื่นหนังสือขู่ลาออก ไม่พอใจการจัดการ สส.ของพรรค เป็นดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ แต่ไม่ว่าเจตนาเป็นอย่างไร ยินดีรับฟังคำวิจารณ์ พร้อมฟื้นฟูศรัทธาด้วยการกระทำ
20 พ.ย. 2566 เพจเฟซบุ๊ก The Reporters รายงานกรณีที่วันนี้ (20 พ.ย.) เมื่อช่วงเวลา 11.04 น. มีกลุ่มบุคคลอ้างตัวเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล เดินทางมายื่นหนังสือ และผลส้มสีน้ำตาล ให้ ณ ที่ทำการพรรคก้าวไกล และเรียกร้องให้พรรคมีมาตรฐานเด็ดขาดลงโทษ สส.บางส่วนที่กระทำผิด เพื่อรักษาชื่อเสียงของพรรคที่ได้อันดับ 1 จากการเลือกตั้งล่าสุด
ขณะที่ พริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรณีดังกล่าวว่า ในภาพรวมพรรคก้าวไกล ตั้งเป้าหมายไว้อยู่แล้วว่า เราต้องการเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นพรรคการเมืองของประชาชน และสมาชิกอย่างแท้จริง หากมีสมาชิกพรรคที่อาจจะมีความกังวล หรือมีข้อท้วงติงมา เราก็ยินดีรับฟังทุกเสียง
ปัจจุบัน พรรคก้าวไกล มีฐานสมาชิกทั้งหมด 70,000 กว่าคนทั่วประเทศ และยังคงตั้งเป้าไว้อีก 2 ส่วน คือ การเพิ่มจำนวนสมาชิกให้มากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าว่าในปีนี้อยากจะทำให้มากขึ้นถึง 100,000 คน และมีทิศทางที่เป็นไปด้วยดี หวังว่าในปีต่อไปจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ รวมถึงการเพิ่มการมีส่วนร่วมของสมาชิกแต่ละคน ซึ่งในปัจจุบันก็มีการนำเสนอโครงสร้างใหม่ ในการคัดเลือกตัวแทนประจำอำเภอหากอำเภอนั้นๆ มีสมาชิกครบ 100 คน จะมีสิทธิในการมาประชุมร่วมกัน เพื่อเลือกสมาชิกหนึ่งคนเป็นตัวแทนประจำแต่ละอำเภอ เป็นตัวแทนในการเข้ามามีส่วนร่วมกำหนดทิศทางของพรรค รวมถึงการประชุมสามัญประจำปีของพรรคด้วย
พริษฐ์ กล่าวต่อว่า ในการประชุมสามัญประจำปีของพรรคก้าวไกล คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน เม.ย. ถึง พ.ค. 2567 ผู้บริหารพรรคได้ให้คำมั่นสัญญาว่า เมื่อกรรมการบริหารพรรคชุดนี้จะหมดวาระลง ก็จะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยจะเปิดให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการหาตัวแทนประจำอำเภอที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงนี้ เข้ามามีส่วนร่วม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคก้าวไกล จะมีแนวทางในการฟื้นฟูศรัทธาของพรรคอย่างไร พริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าการฟื้นฟูที่ดีที่สุดคือการฟื้นฟูด้วยการกระทำ ดังนั้น หากมีข้อท้วงติงอะไรมาว่า ที่ผ่านมา เราอาจจะไม่สามารถป้องกัน หรือรับมือกับปัญหาใดๆ ได้ดีเท่าที่ควร เราสามารถประกาศมาตรการที่เราจะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเดิมๆ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สิ่งที่น่าจะเป็นบทพิสูจน์ในการเรียกความเชื่อมั่นได้ดีที่สุดคือ การพิสูจน์ด้วยการกระทำ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราจะเดินหน้าต่อ
เมื่อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้มองว่าเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากมีการโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียซ้ำๆ พริษฐ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าที่มาของความเห็นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อมีความเห็นเข้ามาว่าอาจจะมีประชาชนคนใดคนหนึ่งไม่พอใจ หรือต้องการวิพากษ์วิจารณ์ ท้วงติงพรรค ไม่ว่าเจตนาจะเป็นอย่างไร ตนยินดีรับฟัง
“ถ้าพรรคการเมืองจะเข้าไปบริหารประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกเสียงก็มีความหมาย” พริษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ พริษฐ์ ระบุอีกว่า ขอไม่ให้ความเห็นว่าเจตนาเป็นอย่างไร สิ่งที่ตนให้ความสำคัญมากที่สุดคือ เนื้อหาสาระของคำวิพากษ์วิจารณ์นั้น และหากคำวิพากษ์วิจารณ์นั้น สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นจริง เราก็พร้อมที่จะรับฟัง และนำไปปรับปรุงแก้ไข
ด้านไทยพีบีเอส รายงาน ย้อนกรณีก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกล ต้องเผชิญกับเสียงวิจารณ์หนาหูต่อกรณีที่ สส.ล่วงละเมิดทางเพศ
เมื่อ 2 พ.ย. 2566 วุฒิพงษ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล เพราะกระทำขัดต่ออุดมการณ์และคุณค่าของพรรค โทษสูงสุดสำหรับกรณีนี้เป็นการให้พ้นจากสมาชิกพรรค หลังมีแชทคุกคามทางเพศของเขาถูกนำมาเปิดเผย และเมื่อ 7 พ.ย. 2566 ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. ถูกขับออกพรรคฯ กรณีคุกคามทางเพศ
นอกจาก 2 กรณีดังกล่าวข้างต้น มีกรณี สิรินทร์ สงวนสิน สส. กทม. เคยถูกร้องทุกข์กล่าวโทษข้อหาทำร้ายแฟนสาว เป็นเหตุให้ถูกตัดสิทธิที่พึงมี ไม่ให้ดำรงตำแหน่ง และถูกคาดโทษการกระทำผิดซ้ำ จะถูกขับออกจากพรรค และเกรียงไกร จันกกผึ้ง อดีตผู้สมัคร สส. ชัยภูมิ ถูกขับออกจากสมาชิกพรรค เนื่องจากพบว่ากระทำการล่วงละเมิดทางเพศ