Skip to main content
sharethis

อัยการสั่งฟ้องทักษิณ “ทักษิณ” ม.112 และ ม.14 พ.ร.บ.คอมฯ ศาลรับฟ้องก่อนอนุญาตให้ประกันตัวด้วยวงเงิน 5 แสนตั้งเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ นัดตรวจพยาน 19 ส.ค.นี้ 9 โมง ทนายวิญญัติแจงสำนวนยังมีข้อไม่สมบูรณ์ทำหนังสือเตือนถึงอัยการสูงสุดแล้วก็ยังไม่มีการดำเนินการก่อนจะฟ้อง

18 มิ.ย.2567 ช่วงเช้าประมาณ  9.00 น. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปศาลอาญา รัชดาฯ ตามนัดของอัยการเพื่อส่งฟ้องต่อศาลในคดีที่ทักษิณถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีใต้เกี่ยวกับการเข้ามาบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่ามีองคมนตรีอยู่เบื้องหลัง

ทั้งนี้อัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องทักษิณต่อศาล 2 ข้อหาคือ มาตรา 112 และมาตรา 14(3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ศาลมีคำสั่งรับคำฟ้อง อย่างไรก็ตามทักษิณได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐานของทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยอีกครั้งในวันที่ 19 ส.ค.2567 เวลา 9.00 น.จากนั้นทางฝ่ายจำเลยได้ยื่นขอประกันตัวต่อศาลด้วยวงเงิน 500,000 บาท

จากนั้นเวลาประมาณ 11.45 น. มีการรายงานว่าศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ทักษิณประกันตัวตามวงเงินที่ยื่นพร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

จากนั้นในเวลา 12.30 น. วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของทักษิณออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าเบื้องต้นในวันนี้ทางอัยการได้ฟ้องทักษิณใน 2 ข้อหาที่กล่าวไปโดยประกอบกับมาตรา 83 ตามประมวลกฎหมายอาญาซึ่งเป็นการฟ้องประกอบเข้ามาว่าทักษิณเป็นตัวการร่วม คือเป็นการกล่าวหาว่าทักษิณได้ร่วมกับบุคคลอื่นที่ยังจับกุมมาไม่ได้ ทางทีมทนายความก็ไม่ได้หนักใจอะไรเพราะการจะแสวงหาตัวผู้ร่วมกระทำความผิดทางทนายความเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร 

ส่วนประเด็นเรื่องยึดหนังสือเดินทางนั้น ทนายความชี้แจงว่ามีการตั้งเงื่อนไขห้ามเดินทางไปต่างประเทศ แต่ยังไม่ได้มีการยึดหนังสือเดินทางในวันนี้เนื่องจากทักษิณไม่ได้ใช้หนังสือเดินทางของไทยนานแล้วฉบับใหม่ก็ยังไม่ได้ทำ แต่ตามคำสั่งของศาลก็ต้องปฏิบัติตามก็จึงขอเวลาเพื่อนำหนังสือเดินทางที่มีอยู่มาวางไว้ให้ศาล ส่วนพาสปอร์ตต่างประเทศก็ไม่ได้ใช้แล้ว 

ส่วนเรื่องคลิปสัมภาษณ์ที่ประเด็นว่าไม่ใช่ฉบับจริงนั้น วิญญัติกล่าวว่าประเด็นเรื่องหลักฐานนี้คงได้เห็นในนัดตรวจพยานหลักฐาน แต่เขาก็เชื่อและมั่นใจว่าพนักงานสอบสวนและอัยการไม่ได้สอบสวนและไม่ได้ทำให้สิ้นกระแสความตามหลักฐานที่ควรแสวงหามา หมายความว่ายังมีข้อไม่สมบูรณ์หลายประการที่เคยชี้ให้เจ้าพนักงานเห็นแต่ก็ยังมีการสั่งฟ้องมาและเห็นว่าประเด็นความไม่สมบูรณ์นี้สามารถมองข้ามได้ ทางฝ่ายจำเลยก็เคารพและเข้าสู่กระบวนการมาสู้คดี แต่เมื่อมีข้อไม่สมบูรณ์แล้วไม่แสวงหาหลักฐานมาทั้งที่ควรจะทำได้ การพิสูจน์หลักฐานต่อศาลเมื่อปรากฏความจริงว่าเมื่อพนักงานสอบสวนและอัยการไม่ได้ทำ เขาก็มีคำถามว่าแล้วจะรับผิดชอบอย่างไรและเขาก็มั่นใจว่าไม่ได้ทำ

วิญญัติชี้ปัญหาว่าทางอัยการและพนักงานสอบสวนไม่ได้มีการสอบสวนกับนักข่าวชาวเกาหลีทั้งที่เป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร พนักงานสอบสวนเองก็มีงบประมาณในการแสวงหาหลักฐานแต่ก็ไม่ทำใช่หรือไม่ ถ้าไม่ได้ทำพนักงานสอบสวนก็ต้องเตรียมตอบคำถามไว้ดีๆ นอกจากนั้นยังมีประเด็นเรื่องหลักฐานข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์และพยานหลักฐานทางดิจิทัลด้วยซึ่งก็จะนำมาสืบกันในชั้นศาล และประเด็นนี้ทางทนายความก็ได้ทำหนังสือเตือนถึงอัยการสูงสุดแล้วเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2567 เพื่อให้มีการดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อที่ไม่สมบูรณ์ต่างๆ ในสำนวนก่อนที่จะมีการฟ้องทักษิณ ซึ่งหากไม่มีการดำเนินการก็จะขอใช้สิทธิทางกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้วิญญัติได้ตอบคำถามประเด็นที่มีการเตรียมเงินประกัน 2,000 ล้านบาทด้วยว่า ผู้พิพากษาการจะรับฟังอะไรต้องมีพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่เชื่อถือและรับฟังได้ ไม่เช่นนั้นก็จะมีการเอาข่าวตัดหรือโพสต์เฟซบุ๊กมาเป็นหลักฐาน แล้วเมื่อมีการพาดพิงต่อผู้บริหารหรือคนในวงการตุลาการก็เป็นการเสียหายต่อกระบวนการและคนพูดเองก็เสียหายด้วยจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองพูดหรือไม่ เขาก็เชื่อว่าการรับฟังหรือแสวงหาข้อเท็จจริงของสำนักงานศาลยุติธรรมที่มีข่าวว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมารับฟังข้อเท็จจริงก็เป็นเรื่องดีแต่คิดว่าไม่ควรให้น้ำหนักกับเรื่องนี้ เพราะเมื่อเป็นข่าวลือแล้วมีพยานหลักฐานหรือไม่ ศาลก็ต้องเชื่อตามพยานหลักฐานเพราะเมื่อเป็นข้อเท็จจริงจึงมีทั้งที่เป็นจริงและเป็นเท็จซึ่งอาจเป็นเท็จหมดเลย หากกระบวนการศาลเชื่อข่าวลือหรือข่าวปั้นแล้วประเทศนี้จะเชื่อใครได้บ้าง

ทนายความกล่าวด้วยว่าเมื่อมีการพาดพิงทั้งทักษิณและอธิบดีศาลอาญาเมื่อมีผู้เสียหายจากการถูกพาดพิงเขาซึ่งเป็นทนายความของทักษิณก็กำลังดำเนินการเพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหาย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรมด้วยซึ่งจะมีการแจ้งข่าวเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้า

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net