Skip to main content
sharethis

'เศรษฐา' ยอมรับมีหนังสือจากสหรัฐฯ ให้เร่งซื้อ F-16 แต่ยังมีรายละเอียดอีกมาก ย้ำหากจะซื้อต้องสอดคล้องกับเรื่องแผนการพัฒนากองทัพ 10 ปี


ที่มาภาพ: Wikimedia 

30 มิ.ย. 2567 สำนักข่าวไทย รายงานว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ส่งหนังสือให้เร่งผลักดันโครงการช่วยเหลือทางทหารในการเสนอขายเครื่องบิน F-16 Block 70 พร้อมเสนอเงินกู้ยืม 9 ปี แต่เสียดอกเบี้ยว่า ความชัดเจนคือความไม่ชัดเจน เพราะว่ามีการส่งจดหมายเข้ามาถาม และเคยมีการคุยกันเรื่องเอฟ-16 ซึ่งเราก็ได้ยินมานานแล้วหลาย 10 ปี

แต่ก็มีการพัฒนาในหลายเจนเนอเรชั่น ที่เรามีอยู่เข้าใจว่าเป็น Block 35 แต่อันใหม่คือ Block70 ซึ่งได้สอบถามจากผู้บัญชาการทหารอากาศ ก็เคยมีการพูดคุยกัน แต่มีรายละเอียดอีกมากว่าจะเป็นรุ่นใด

ส่วนเรื่องของจะมาดูว่าเราจะซื้อไปเท่าไหร่ เขาก็จะต้องมาลงทุนที่เราเท่านั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราให้ความสำคัญ สอดคล้องกับเรื่องแผนการพัฒนากองทัพ 10 ปี ด้วยว่าจะนำ F-16 จะมาลงตรงไหนอย่างไร

ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่าเมื่อวันที่ 28 มิ.ย 2567 นายโรเบิร์ต โกเดค เอกอัคราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ได้เข้าพบนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมในการโครงการช่วยเหลือทางทหารในการเสนอขายเครื่องบิน F-16 block70 ของบริษัท ล็อคฮีด มาร์ติน หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังไม่มีรายงานว่าเนื้อหาในหนังสือที่ส่งให้นายกรัฐมนตรีว่ามีรายละเอียดอย่างไร

คาดว่าเป็นการแจ้งข้อเสนอในเรื่องของความช่วยเหลือเพิ่มเติมที่นอกจากโปรแกรมการซื้ออาวุธในโครงความช่วยเหลือกับมิตรประเทศ และข้อมูลการค้าต่างตอบแทนที่มีกับไทย พร้อมกันนั้นเอกอัคราชฑูตสหรัฐประจำประเทศไทย ยังได้เชิญ รมว.กลาโหมของไทยไปเยือนสหรัฐฯ ด้วย

ทางด้าน  พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนกองทัพอากาศจีนอย่างเป็นทางการ  ปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องที่ฑูตสหรัฐฯ ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี แต่ในส่วนของกองทัพอากาศกำลังดำเนินการตามขั้นตอนในการคัดเลือกแบบให้มีความคุ้มค่าในทุกด้าน และเป็นไปตามนโยบายการตอบแทนทางเศรษฐกิจ โดยยังรับฟังข้อเสนอที่เพิ่มเติมจากทั้ง2ชาติ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงการประชุมเชียงการีน่าไดอาล็อค ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา  ลอยด์ ออสติน รมว.สหรัฐ ได้ร่วมหารือทวิภาคี กับ นายสุทิน พร้อมหยิบยกข้อเสนอในโปรแกรม Foreign Military Financing (FMF)  ซึ่งเป็นการมอบเงินช่วยเหลือและเงินกู้แก่ในรัฐบาลประเทศพันธมิตร  เพื่อใช้ในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร และการฝึกอบรมของสหรัฐฯ

แต่ประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณแต่มีความจำเป็นในการพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร จากเดิมที่มีการลดราคา F-16 block แล้ว จะให้ผ่อนชำระในระยะยาว 9 ปี มีดอกเบี้ยต่ำกว่า 5เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำกว่ากรอบที่กำหนดไว้  และเป็นระยะเวลาที่ผ่อนยาวกว่าการจัดซื้อปกติ ซึ่งสหรัฐฯจะอนุมัติให้กับมิตรประเทศที่ใกล้ชิด

มีรายงานว่า ในร่างพระราชบัญญติงบประมาณรายจ่ายประจำปี  2568 ได้บรรจุรายละเอียดโครงการผูกพันงบประมาณในปีแรกวงเงินประมาณ 3,500 ล้านบาทจำนวน 4 โครงการ  ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นงบฯซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน 4 เครื่อง (ระยะที่ 1) แต่ในเอกสารงบประมาณไม่ได้แบ่งเป็นรายการให้เห็นว่าเป็นโครงการใดบ้าง  ทั้งนี้จะเข้าสู่การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการวิสามัญฯ  ในช่วงเดือนกรกฎาคมก่อนลงมติในวาระ 2 และ 3 ต่อไป

ทำให้ระหว่างนี้บริษัทและประเทศผู้ผลิตเครื่องบินรบ  2 ชาติ คือ SABB จากสวีเดนผู้ผลิตเครื่องบิน Gripen /E และ Lockheed Martin สหรัฐฯ ผู้ผลิตเครื่องบิน F-16 block 70 ซี่งกองทัพอากาศให้ความสนใจ ต่างเร่งยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมเพื่อให้ชนะการคัดเลือกในโค้งสุดท้าย    

ซึ่งคณะกรรมการพิจารณารวบรวมข้อมูลฯ ที่มี พล.อ.อ.เสกสรร คันธา เสนาธิการทหารอากาศเป็นประธาน เดิมจะแถลงข่าวผลการสรุปว่า เครื่องบินแบบใดได้รับคะแนนลำดับที่ 1 และ 2 แต่ได้เลื่อนออกไปก่อนเพื่อรอเอกสารจากบริษัท กองทัพอากาศก็จะให้คณะกรรมการคัดเลือกแบบฯ เป็นผู้เลือกแบบในขั้นตอนสุดท้าย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2567 Mr.Marcus Wallenberg ประธานกลุ่มบริษัท SAAB SEB ได้เดินทางเข้าพบ นายกรัฐมนตรี  ที่ทำเนียบรัฐบาล  โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง

รวมถึงเรื่องเครื่องบินกริพเพน โดยปีหน้านายกฯ จะเดินทางไปดาวอสอีกครั้ง และอาจจะจัดเป็นฟอรั่มเล็กๆ ระหว่างไทยกับสวีเดนในการนำบริษัทที่เกี่ยวข้อง 2 ประเทศมาพูดคุยจะพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีร่วมกันได้หรือไม่  พร้อมยังระบุว่าในกรณีของเครื่องบิน F-16 ของสหรัฐฯ ถ้าซื้อก็ต้องมาพัฒนาที่เมืองไทยเหมือนกัน เป็นการต่างตอบแทน 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net