Skip to main content
sharethis

ศูนย์ทนายความฯ รายงานเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) มีนัดไต่สวนแพทย์ที่รักษา “รุ้ง ปนัสยา” หลังขอเลื่อนสืบพยานคดี ม.112 เพราะท้องร่วง ก่อนสั่งให้เลื่อนได้ ส่วนนัดสืบพยานตั้งแต่วันนี้ 3 ก.ค. ถึง 5 ก.ค.ให้คงวันนัดไว้ตามเดิม

วานนี้(2 ก.ค.2567) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ที่ศาลอาญา รัชดาฯ มีนัดสืบพยานในคดีของปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นักกิจกรรมประชาธิปไตย ในคดีที่อัยการฟ้องข้อหามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 จากกรณีแชร์โพสต์ข้อเรียกร้อง 3 ข้อต่อรัชกาลที่ 10 จากเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม 

ทั้งนี้ในการสืบพยานนัดเมื่อวานนี้ทางปนัสยาได้ให้ทนายความแถลงขอเลื่อนคดีเนื่องจากปนัสยาป่วยด้วยอาการท้องร่วงและรักษาตัวที่โรงพยาบาลเวิลด์มิดิคอล แต่ศาลเห็นว่ายังมีข้อสงสัยว่าป่วยขนาดมาศาลไม่ได้จริงหรือไม่ แม้ว่าทางทนายความจะได้ยื่นใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าต้องพักรักษาที่โรงพยาบาลในวันท่ 1-2 ก.ค.แล้วก็ตาม ศาลได้เรียกให้แพทย์มาไต่สวนในตอน 14.00 น. วันเดียวกัน เพื่อให้คดีดำเนินไปโดยเร็วไม่เสียความยุติธรรม

รายงานระบุถึงการไต่สวนแพทย์ของโรงพยาบาลเวิลด์มิดิคอลผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ว่า แพทย์ให้ข้อมูลการรักษาของปนัสยาว่าคนไข้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจริงตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เวลาประมาณ 22.30 น. ด้วยอาการถายเหลวโดยเป็นมาก่อนท่โรงพยาบาลแล้ว 1 วัน โดยคนไข้มาที่แผนกฉุกเฉินและแอดมิทที่โรงพยาบาล แพทย์ได้ให้น้ำเกลือ ยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวดมวนท้องแก่ปนัสยา

แพทย์ให้การต่อว่า เวลา 9.00 น.ของวันที่ 2 ก.ค. คนไข้มีอาการดีขึ้น ทานอาหารพอได้ สัญญาณชีพ ความดันโลหิต การทำงานของไต และอุณหภูมิ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งต่างจากตอนที่มาถึงโรงพยาบาลที่ชีพจรเต้นเร็ว จึงประเมินว่าน่าจะสามารถเดินทางกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้ อย่างไรก็ตาม ค่าเม็ดเลือดขาวคนไข้ยังถือว่าสูงกว่าปกติค่อนข้างเยอะ โดยปกติควรมีประมาณ 4,500-10,000 เซลล์ต่อปริมาณเลือด 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตร แต่ของคนไข้มีสูงถึงเกือบ 14,000 เซลล์

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่า ศาลขอบคุณพยานที่ให้ความร่วมมือ ก่อนกล่าวว่า ถ้าคนไข้ขอเลื่อนคดีแล้วมาตามขั้นตอนปกติก็จะอนุญาต แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ยังมีข้อแคลงใจ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องเรียกพยานมาไต่สวน เพื่อให้คดีเสร็จตามกำหนดนัด มิเช่นนั้นกระบวนพิจารณาก็จะเสียไปเลย ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปกติ เพราะถ้าไม่ได้ความเห็นของพยาน ก็จะขาดข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ซึ่งยากต่อการที่ศาลจะวินิจฉัย

จากนั้นแพทย์ได้ตอบคำถามของทนายความของปนัสยาด้วยว่า โดยปกติคนไข้ที่มีอาการท้องเสีย ติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร จะมีการถ่ายอุจจาระมากกว่าปกติ ซึ่งถ้าถ่ายมากกว่า 3 ครั้งจะถือว่ามีอาการท้องเสียหรือท้องร่วงได้ โดยจากประวัติของคนไข้ คนไข้มีการถ่ายมากกว่า 10 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม และมีการอาเจียน 1 ครั้ง ทั้งไม่สามารถรับประทานอาหารได้และชีพจรเต้นเร็วกว่าปกติ และการถ่ายเหลวออกมาในปริมาณมากอาจำให้ค่าความดันโลหิตและระดับเกลือแร่ในร่างกายลดลงได้ ถ้าความดันต่ำและค่าเกลือแร่ต่ำกว่ามาตรฐาน ก็อาจจะกระทบ่อการตัดสินใจของคนไข้ได้ อย่างไรก็ตามการที่พยานมีความเห็นว่าคนไข้สามารถกลับบ้านได้ ไม่ได้หมายความว่าคนไข้หายแล้ว เพียงแค่อาการทุเลาลงจนสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ซึ่งคนไข้ก็ต้องนำยากลับไปทานที่บ้านอยู่

หลังการไต่สวนศาลมีคำสั่งให้เลื่อนนัดได้เนื่องจากศาลเชื่อว่าจำเลยป่วยจนไม่สามารถมาศาลได้จริง และให้มีการสืบพยานฝ่ายโจทก์ต่อในวันนี้ (3 ก.ค.) และสืบพยานจำเลยในวันที่ 4-5 ก.ค.2567 ตามกำหนดนัดเดิม

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net