‘สเปน’ สามารถเอาชนะ 'อังกฤษ' ไปด้วยสกอร์ 2-1 คว้าแชมป์บอลยูโร ประจำปี 2024 โดยได้ประตูจากผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง 'นิโก วิลเลียมส์' และ 'โอยาร์ซาบัล' ส่วนทัพ 'สิงโตคำราม' ได้เข้าชิงบอลยูโร 2 ครั้งติดกัน แต่อกหักหมด

15 ก.ค. 2567 เว็บไซต์ PPTV ถ่ายทอดสดออนไลน์เมื่อเวลา 2.00-4.00 น. ที่สนามโอลิมเปียสตาดิโอน กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี มีการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของงานฟุตบอลระดับภูมิภาคยุโรป 'ฟุตบอลยูโร ประจำปี 2024' (พ.ศ. 2567) โดยเป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติ สเปน และสิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ผลปรากฏว่าภายใน 90 นาที สเปน สามารถเอาชนะอังกฤษด้วยสกอร์ 2-1 โดยทีมสเปนได้ประตูแรกจาก นิโก วิลเลียมส์ (นาทีที่ 47) และ มิเกล โอยาร์ซาบัล (นาทีที่ 86) ขณะที่อังกฤษ ได้ประตูจาก โคล พาลเมอร์ (นาทีที่ 73) 

CAMPEONES 🏆#EURO2024 pic.twitter.com/bJxBAGqbq3

— UEFA EURO 2024 (@EURO2024) July 14, 2024

สเปนมาในแผนการเล่น 4-2-3-1 โดยมีผู้เล่นที่น่าจับตามองอย่าง ลามิน ยามาล ปีกขวาดาวรุ่งวัย 17 ปี จากสโมสรบาร์เซโลนา ที่เพิ่งยิงประตูสุดสวยในนัดรอบรองชนะเลิศ ปะทะกับทีมชาติฝรั่งเศส ดับฝันของ คิริยัน เอ็มบาปเป กองหน้าตัวเก่ง และกัปตันทีมตราไก่

ขณะที่ อังกฤษ ใช้แผนการเล่น 3-4-2-1 โดยมีผู้เล่นที่น่าสนใจหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น แฮร์รี เคน กองหน้าจากทีมบาร์เยิน มิวนิค จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์จากสโมสรรีลมาดริด เจ้าของแชมป์ลาลีกาสเปน และแชมป์ยูฟาแชมเปียนลีค ฟิล โฟเดน มิดฟิลด์จากทีมสโมสร แมนซิตี แชมป์พรีเมียร์ลีคอังกฤษล่าสุด และมีผู้เล่นที่คุ้นหน้าคุ้นตาจากพรีเมียร์ลีคอังกฤษอีกหลายคน

ครึ่งแรกสเปน กับอังกฤษ ทำอะไรกันไม่ได้เสมอกัน 0 ประตูต่อ 0 แต่เริ่มครึ่งหลังได้ไม่นาน นาทีที่ 47 นิโก วิลเลียมส์ อายุ 22 ปี ปีกซ้ายตัวเก่งจากสโมสรลาลีกาสเปน 'แอตแลนติกบิลเบา' สามารถเบิกสกอร์แรกให้สเปน ขึ้นนำอังกฤษ 1 ประตูต่อ 0

ทีมสเปน ยังคงบุกใส่อังกฤษอย่างต่อเนื่อง และได้โอกาสทำประตูอีกหลายครั้ง แต่ในนาทีที่ 73 กลายเป็นทีม ‘สิงโตคำราม’ อังกฤษที่ได้ประตูตีเสมอ 1 ต่อ 1 โดยโคล พาลเมอร์ ตัวสำรอง ปีกดาวรุ่งอายุ 22 ปี จากทีมสโมสรเชลซี ตะบันด้วยเท้าซ้ายจากนอกเขตโทษ บอลเลียดพื้นผ่านกองหลังสเปน และผ่านมือ ‘อูไน ซิมมอน’ โกลของสเปน เข้าไปเป็นประตู

อย่างไรก็ตาม อังกฤษไม่สามารถสร้างโมเมนตัมการบุกหลังทำประตูตีเสมอได้ และสเปนเป็นฝ่ายบุกอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในนาทีที่ 86 สเปน สามารถทำประตูที่ 2 หนีอังกฤษอีกครั้ง โดยมาร์ก คูคูเรลลา แบ็กซ้ายจากเชลซี เปิดบอลเลียดเข้ามาจากฝั่งซ้าย และเป็น 'มิเกล โอยาร์ซาบัล' กองหน้าจากทีมสโมสร ‘เรอัลโซเซียดาด’ ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาแทนกัปตันทีม อัลวาโร โมราต้า สามารถวิ่งแซงมาร์ก เกฮี เซ็นเตอร์แบ็กของอังกฤษ เข้าฮอร์สใช้เท้าขวาจิ้มบอลก่อนถึงตัว จอร์แดน พิกฟอร์ด โกลอังกฤษ เข้าไปเป็นประตู

ช่วงเวลาที่เหลืออีก 4 นาที อังกฤษพยายามบุกและมีจังหวะหวาดเสียวช่วงก่อนหมดเวลาการแข่งขัน เพราะเมื่อนาทีที่ 89 อังกฤษเปิดบอลจากลูกเตะมุมเข้ามาจากด้านซ้าย และเป็น เดแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ จากทีมปืนใหญ่อาร์เซนอล ได้โอกาสโหม่งในกรอบเขตโทษเพื่อทำประตูตีเสมอ แต่บอลไม่หนีจากมือผู้รักษาประตูทีมชาติสเปน สามารถปัดออกมาได้

อย่างไรก็ตาม บอลที่ปัดออกมาไม่ไกลจากหน้าปากประตูมากนัก ถูกมาร์ก เกฮี กองหลังอังกฤษโหม่งซ้ำจ่อๆ น่าเป็นประตูสุดๆ แต่เป็นแดนี โอลโม มิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติสเปน สามารถโหม่งสกัดบอลออกมาจากเส้นประตูอย่างฉิวเฉียด ทำให้อังกฤษไม่ได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดาย

สุดท้าย ทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ หมดเวลา 90 นาที บวกทดเวลาบาดเจ็บอีก 4 นาที สเปนสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร ประจำปี 2024 โดยไม่แพ้ใครตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ และเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ส่งผลให้ 'เจ้ากระทิงดุ' 'สเปน' เป็นทีมที่ได้แชมป์ยูโรมากที่สุด รองลงมา เป็นทีมชาติเยอรมนี ได้แชมป์ยูโร 3 สมัยเท่านั้น

ขณะที่อังกฤษ ได้เข้าชิงฟุตบอลยูโร 2 ครั้งติดต่อกัน และต้องผิดหวังทั้ง 2 ครั้ง โดยครั้งแรก ทีมสิงโตคำรามแพ้รอบชิงชนะเลิศให้กับทีมชาติอิตาลี ในการดวลจุดโทษ

สำหรับสถิติในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเป็นสเปน ที่ทำได้เหนือกว่าอังกฤษ ทั้งด้านการครองบอล เปอร์เซ็นต์การผ่านบอลสำเร็จ และการสร้างจังหวะทำประตู ส่วนผู้เล่นดีเด่น (Man of the Match) ตกเป็นของนักเตะสเปน คือ นิโก วิลเลียมส์