ศาลนราธิวาสนัดฟังคำสั่งไต่สวนมูลฟ้องคดีตากใบที่ผู้เสียหายฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐเอง วันที่ 23 ส.ค. 2567 ก่อนหมดอายุความในอีก 2 เดือนข้างหน้า ทนายเชื่อว่าศาลจะรับฟ้อง และจำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจะไม่หลบหนี ไม่ลากคดีจนหมดอายุความ

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาสนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส หรือคดีตากใบซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 จำนวน 48 คน ได้ฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเอง ก่อนที่คดีจะหมดอายุความ 20 ปี โดยมีจำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 9 คน ทั้งฝ่ายทหาร ฝ่ายตำรวจและฝ่ายปกครอง

โดยวันนี้เป็นการไต่สวนเป็นครั้งที่ 2 มีพยานฝ่ายโจทย์ 2 ปาก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นัดไต่สวนมาแล้ว 1 ปากเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา จากที่กำหนดนัด 3 ครั้ง ซึ่งคดีนี้โจทย์ได้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ทนายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ทนายความประจำมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.ยะลา ในฐานะทนายความ เปิดเผยว่าคดีนี้ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 23 ส.ค. 2567 เวลา 9:00 น. ซึ่งจะเหลือเวลาอีก 2 เดือนก่อนคดีจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค. 2567

ทนายอาดิลัน กล่าวว่า หากศาลมีคำพิพากษาประทับรับฟ้อง แต่ถ้าจำเลยไม่ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลจนถึงวันที่ 25 ต.ค. 2567  หมายความว่า จำเลยไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ไม่ยื่นคำให้การหรือไม่มาแสดงตัวหรือมาปรากฏตัวต่อศาล คดีก็จะหมดอายุความทันที ไม่สามารถเข้าสู่การพิจารณาได้อีกต่อไป การฟ้องร้องก็ศูนย์เปล่า

“การไม่มาศาลก็ถือเป็นการหลบหนี เหมือนกรณีของบอส อยู่วิทยาที่ไม่มาศาล จนคดีหมดอายุความ แต่ถ้าจำเลยมาศาลและได้รับการประกันตัวไป แม้อาจหลบหนีไประหว่างประกันตัว อายุความของคดีก็จบไปแล้ว เพราะถือว่าจำเลยรู้ตัวแล้วแต่หนีไป”

ทนายอาดิลัน กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ ประเมินว่าจากการไต่สวนพยานมา 2 ครั้งจำนวน 3 ปาก เชื่อว่าศาลจะมีคำพิพากษาประทับรับฟ้อง เพราะได้ทำให้ศาลเห็นได้ว่า

1. คดีนี้ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

2. โจทย์ทั้ง 48 คนนี้ เป็นโจทย์ที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นผู้เสียหายจริงเป็นญาติผู้ตายจริง ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุและระหว่างขนย้ายไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี รวม 85 คน

3. ในจำนวนจำเลยทั้ง 9 คน มี 3 คนเป็นจำเลยที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยอยู่ในเหตุการณ์นี้จริง ตามรายงานของคณะกรรมการอิสระเพื่อการสอบสวนเหตุการณ์ตากใบ

ทนายอาดิลัน กล่าวว่า ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องเราขอเพียงเท่านี้ เพื่อให้ศาลเห็นว่าคดีนี้มีมูลที่เชื่อได้ว่าจำเลยกลุ่มนี้ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้จริง แต่จะมีความผิดหรือไม่นั้นก็ต้องไปว่ากันในการพิจารณาคดีต่อไป จึงประเมินว่าคดีนี้ศาลจะมีคำสั่งประทับรอบฟ้อง

“เมื่อศาลรับฟ้องแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับจำเลยว่าจะมีเทคนิคในการลากคดีไปจนหมดอายุความหรือไม่ ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นจำเลยของสังคมไปตลอดชีวิต แม้จะความผิดฐานหนีคดี แต่การที่จำเลยไม่มาปรากฏตัวต่อศาลก็ถือว่าจำเลยยังไม่รับรู้ก็ต้องยึดอายุความเดิม” ทนายอาดิลัน กล่าว