Skip to main content
sharethis

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลมีกำหนดการจะไปกล่าวสุนทรพจน์ที่สภาคองเกรส กรุง วอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่มีกลุ่มแนวร่วมนักกิจกรรมกลุ่มใหม่ที่บางส่วนนำโดยชาวยิวประท้วงเรียกร้องให้นักการเมืองสหรัฐฯ "ช่วยขยายเสียงให้กับคนในอิสราเอล, ปาเลสไตน์, และทั่วโลกที่ปฏิเสธการนำที่ล้มเหลวของเนทันยาฮู" และขอให้บอยคอตสุนทรพจน์ของผู้นำอิสราเอลเนื่องจากเหตุรุนแรงในกาซ่า

 

24 ก.ค. 2567 มีการเคลื่อนไหวกดดันมากขึ้นต่อผู้แทนสหรัฐฯ ให้มีการยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์ของ เบนจามิน เนทันยาฮู หลังจากที่มีแนวร่วมกลุ่มภาคประชาสังคมกลุ่มใหม่ก่อตัวขึ้นประกาศว่าจะประท้วงต่อต้านผู้นำขวาจัดอย่างเนทันยาฮู ผู้ที่มีนโยบายและปฏิบัติการรุนแรงต่อกาซ่า และกำลังเผชิญกับการดำเนินคดีจากศาลโลกในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

แนวร่วมกลุ่มใหม่ในสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า ในขณะที่เนทันยาฮูเป็นผู้ที่นำข้อความของตัวเองมาพูดต่อหน้าสภาคองเกรสในเรื่องการขยายเวลาและขยายพื้นที่สงครามทำลายล้างกาซ่า ละเลยความปลอดภัยของตัวประกันชาวอิสราเอล และให้ความแน่นอนในเรื่องที่รัฐบาลอิสราเอลจะไม่ต้องรับผิดต่อการกระทำของตนเอง พวกเขาก็ขอให้นักการเมืองสหรัฐฯ "ช่วยขยายเสียงต่อข้อความในเรื่องความปลอดภัย, เสรีภาพ, สันติภาพที่เป็นธรรม, การปลดปล่อยผู้คนร่วมกัน และสิทธิมนุษยชนแก่ชาวปาเลสไตน์และอิสราเอลทุกคน"

แนวร่วมกลุ่มใหม่ตั้งชื่อแนวร่วมว่า "Peace and Justice Protest Bloc" ที่แปลว่า "กลุ่มประท้วงเพื่อสันติภาพและความยุติธรรม" มาจากการรวมตัวของกลุ่มต่างๆ 9 กลุ่ม ได้แก่ American Friends of Combatants for Peace (AFCFP), Win Without War, T'ruah, Sisterhood of Salaam Shalom, Israelis for Peace, Halachic Left และกลุ่มย่อยระดับท้องถิ่น 3 กลุ่มย่อยของ Supporters of Standing Together

แถลงการณ์ระบุว่าพวกเขาจะ "ออกมารวมตัวกันในวอชิงตันในสัปดาห์นี้เพื่อเรียกร้องให้สมาชิกสภาคองเกรสยกเลิกการแสดงสุนทรพจน์ของเนทันยาฮู, ให้สนับสนุนงานกิจกรรมในระดับชุมชนของนักกิจกรรมเพื่อสันติภาพในภูมิภาค และช่วยขยายเสียงให้กับผู้คนในอิสราเอล, ปาเลสไตน์ และจากทั่วโลกที่ปฏิเสธการนำที่ล้มเหลวของเนทันยาฮู"

กลุ่มแนวร่วมระบุว่า "กลุ่มๆ นี้ที่มาจากคนจำนวนมากประกอบด้วยชาวอิสราเอล, ชาวปาเลสไตน์, ชาวอาหรับ, ชาวยิว และผู้สนับสนุนอื่นๆ ผู้ที่จะร่วมมือกันในการแสดงให้เห็นว่าการต่อสู้และปลดปล่อยร่วมกันนั้นเป็นไปได้ แล้วก็มีขบวนการที่กำลังเติบโตขึ้นคอยรองรับมัน ... พวกเราจะต้องกระทำในตอนนี้เพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่าเสียงที่เรียกร้องเพื่อสันติภาพเท่านั้นจะเป็นเสียงที่ดังกว่าเสียงของการแบ่งแยกและการนองเลือด"

ทั้งนี้ยังมีกลุ่มประท้วงที่ใหญ่กว่าอีกแนวร่วมหนึ่งซึ่งประกอบด้วย Palestinian Youth Movement, National Students for Justice in Palestine, CodePink, ANSWER Coalition, the People's Forum, International Peoples' Assembly, Al-Awda-N.Y และ Palestinian American Community Center-N.J ได้วางแผนจัดประท้วงในวันที่ 24 ก.ค. นี้ที่จะมีการขึ้นพูดของเนทันยาฮู โดยที่ผู้จัดการประท้วงวางแผนจะให้มีการประท้วงรอบเมืองหลวงของสหรัฐฯ

นูร์ จากามา ผู้ประสานงานโครงการปาเลสไตน์ของ CodePink ระบุว่า การที่เนทันยาฮูมาเยือนสภาคองเกรสและสหรัฐฯ นั้นเป็นการยืนยันสิ่งที่พวกเขารู้อยู่แล้วคือการที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนทั้งทางการเงินและสนับสนุนในเชิงศีลธรรมให้มีการสังหารชาวปาเลสไตน์ซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในกาซ่า จากามา มองว่า เรื่องนี้ทำให้สหรัฐฯ "ไม่ได้ดีไปกว่าเนทันยาฮูและเจ้าหน้าที่อิสราเอลทุกนาย ผู้ที่สั่งการให้ทิ้งระเบิดในโรงพยาบาลที่ถูกปิดล้อม"

กลุ่มแนวร่วมที่ส่วนหนึ่งประกอบด้วย สภาด้านความสัมพันธ์อเมริกันอิสลาม และ CodePink ได้เวียนส่งแถลงการณ์ลงนามเรียกร้องให้สภาคองเกรสบอยคอตการกล่าวสุนทรพจน์ของเนทันยาฮู มี ส.ส. และ ส.ว. พรรคเดโมแครตหลายคนที่บอกว่าพวกเขาจะไม่เข้าร่วมงานสุนทรพจน์ดังกล่าวนี้ อีกทั้ง ส.ว. อิสระ เบอร์นี แซนเดอร์ส ก็กล่าวยืนยันว่าเขาจะไม่เข้าร่วมเช่นกัน

แซนเดอร์ส กล่าวถึงการที่เนทันยาฮูและรัฐบาลขวาจัดของเขาก่อสงครามเต็มรูปแบบต่อประชาชนปาเลสไตน์จนทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 39,000 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 89,000 ราย ซึ่งร้อยละ 60 ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง, เด็ก และคนชรา แซนเดอร์สประกาศว่า "เนทันยาฮูไม่ควรจะได้รับการต้อนรับเข้าสู่สภาคองเกรสของสหรัฐฯ" ในทางตรงกันข้ามแซนเดอร์ส มองว่า ควรจะมีการประณามเนทันยาฮูผู้ที่ปฏิเสธจะสนับสนุนแนวทางอยู่ร่วมกันสองรัฐกับปาเลสไตน์

"ในมุมมองของผมรัฐบาลขวาจัดหัวรุนแรงของเขา(เนทันยาฮู) ไม่ควรจะได้รับการสนับสนุนแม้แต่แดงเดียวจากผู้จ่ายภาษีในสหรัฐฯ ในการที่จะก่อความพินาศอย่างไร้มนุษยธรรมในกาซ่าต่อไป" แซนเดอร์สกล่าว

ทั้งนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ผู้ที่ถูกมองเป็นตัวเต็งจะมาแทนที่ โจ ไบเดน ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะเป็นประธานในงานสุนทรพจน์ของเนทันยาฮู โดยที่กลมานั้นมีจุดยืนเรื่องอิสราเอลแบบเดียวกับไบเดนคือให้การสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งขัน แต่ในช่วงที่ผ่านมาเธอก็เผชิญกับการเรียกร้องให้ "มีจุดยืนที่ชัดเจน" ในการที่จะไม่ขายอาวุธให้กับอิสราเอลอีกต่อไป

ก่อนหน้านี้ เนทันยาฮูได้มาพูดที่สภาคองเกรสของสหรัฐฯ เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2558 ซึ่งในตอนนั้นก็มีผู้แทนในสภาเกือบ 60 ราย รวมถึงแซนเดอร์ส ที่บอยคอตสุนทรพจน์ของเขา

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์เพื่อสิทธิรัฐธรรมนูญได้เรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ สืบสวนเกี่ยวกับเรื่องที่เนทันยาฮูและเจ้าหน้าที่อิสราเอลถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงคราม, การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์, ทารุณกรรม อีกทั้งยังเรียกร้องให้ฟ้องร้อง ไบเดน, แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในเรื่องที่มีส่วนร่วมกระทำผิดในเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซ่าด้วย แต่ทางกระทรวงก็มีการตัดสินไม่รับฟ้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ในเดือน มิ.ย. อดีต ส.ว. โอไฮโอพรรคเดโมแครต นีนา เทอร์เนอร์ กล่าวว่า เนทันยาฮู "ควรจะถูกจับกุมโดยทันที" จากการที่เขา "เป็นผู้ดูแลสั่งการเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

ขณะเดียวกัน ไมค์ จอห์นสัน โฆษกสภาผู้แทนสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ก็ได้กล่าวเตือนผู้เข้าร่วมงานประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยบอกว่าเขาจะสั่งให้มีการจับกุม ส.ส. รายใดก็ตามที่ "ไม่ควบคุมตัวเอง" ในช่วงที่มีการกล่าวสุนทรพจน์ของเนทันยาฮู

 

 

เรียบเรียงจาก

Calls to Boycott Netanyahu Speech Grow as Israeli PM Heads to DC, Common Dreams, 22-07-2024

https://www.commondreams.org/news/netanyahu-congress-boycott

 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net