'คาเมเนอี' ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศแก้แค้น หลังเกิดเหตุสังหาร ‘ฮานิเยห์’ ในกรุงเตหะราน ขณะที่อิสราเอลยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเรื่องการสังหารแกนนำกลุ่มฮามาส ด้านนานาชาติหวั่นเกิดสงครามเต็มรูปแบบทั่วทวีปตะวันออกกลาง 

2 ส.ค. 2567 เว็บไซต์สื่อตะวันออกกลาง อัลจาซีรา รายงานวานนี้ (1 ส.ค.) ว่า ผู้นำสูงสุดของประเทศอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ให้คำมั่นว่าจะลงโทษอิสราเอลอย่างรุนแรง หลังเกิดเหตุสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำปีกการเมืองของกลุ่ม ‘ฮามาส’ ในกรุงเตหะราน โดยกลุ่มฮามาส กล่าวหาว่า อิสราเอลเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง 

คาเมเนอี กล่าวเมื่อ 31 ก.ค.ที่ผ่านมาด้วยว่า นี่เป็นหน้าที่ของอิหร่านในการแก้แค้นการสังหารฮานิเยห์ ที่อยู่ระหว่างเดินทางมาเข้าร่วมพิธีรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ มาซุส เปเซสเคียน

"เราพิจารณาแล้วว่านี่เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องแก้แค้นให้กับเลือดของเขา (ฮานิเยห์) ในเหตุการณ์อันขมขื่นและยากลำบากในดินแดนของสาธารณรัฐอิสลาม” คาเมเนอี กล่าว และเขายังได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของฮานิเยห์ และกลุ่มจากปาเลสไตน์

อิหร่าน ได้ประกาศให้สาธารณชนทั่วประเทศไว้อาลัยให้กับฮานิเยห์เป็นเวลา 3 วัน

อัลจาซีรา รายงานอ้างเทเลแกรมของกลุ่มฮามาส เปิดเผยว่า พิธีศพของฮานิเยห์ จะจัดขึ้นในอิหร่านในวันที่ 1 ส.ค. 2567 หลังจากนั้นร่างของฮานิเยห์ จะถูกส่งไปที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ 

ฮามาส ระบุด้วยว่า ร่างของฮานิเยห์จะถูกฝังที่เมืองหลวงของประเทศกาตาร์ในวันศุกร์ที่ 2 ส.ค.นี้ 

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ กองกำลังปฏิวัติอิหร่าน รายงานว่า ฮานิเยห์ เสียชีวิตพร้อมบอดีการ์ดของเขา 1 คนจากการถูกโจมตีในที่พักในกรุงเตหะราน เมื่อ 2.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นอิหร่าน เมื่อ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่คาลิล อัล-ฮัยยา (Khalil Al-Hayya) รองหัวหน้าประจำฉนวนกาซาของกลุ่มฮามาส ให้สัมภาษณ์สื่อว่า ฮานิเยห์ ถูกโจมตีด้วยจรวดนำวิถี ซึ่งยิงใส่บ้านพักรับรองในกรุงเตหะราน โดยบ้านพักดังกล่าวเป็นที่ๆ เขาเคยมาพำนักเมื่อครั้งเยือนกรุงเตหะรานครั้งก่อนๆ ด้วยคำบอกเล่าของพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ชี้ว่า จรวดโดนเป้าหมายคือ ‘ฮานิเยห์’ แบบตรงๆ

ขณะที่อิสราเอล ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเรื่องเหตุโจมตีฮานิเยห์ 

ขณะที่อิสราเอล ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเรื่องการโจมตีดังกล่าว แต่ก่อนหน้านี้เคยระบุว่าจะสังหารฮานิเยห์ และผู้นำฮามาสคนอื่นๆ หลังจากเหตุการณ์ฮามาสเปิดปฏิบัติการบุกทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีประชาชนเสียชีวิตกว่า 1,139 ราย และนำมาสู่การทำสงครามที่ฉนวนกาซาของอิสราเอล ซึ่งปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 39,400 รายแล้ว 

หวั่นเกิดสงครามเต็มรูปแบบทั่วทวีปตะวันออกกลาง

ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจากการเสียชีวิตของผู้นำปีกการเมืองของกลุ่มฮามาส และ ฟูอัด ชูเคอร์ ผู้บัญชาการของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ อาจทำให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบทั่วทวีปตะวันออกกลาง 

โดยอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ออกแถลงการณ์ผ่านโฆษกประจำตัวว่า เหตุโจมตีทั้งในกรุงเบรุตของเลบานอน รวมถึงเหตุล่าสุดในแผ่นดินอิหร่าน เสี่ยงจะทำให้ความขัดแย้งขยายวงไปทั่วตะวันออกกลาง
ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (31 ก.ค.) คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้เปิดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยที่ประชุมเรียกร้องให้ยกระดับความพยายามทางการทูต เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้วิกฤตความขัดแย้งลามเป็นสงครามเต็มรูปแบบทั่วภูมิภาค

'ฮิซบอลเลาะห์' ประกาศว่าบทใหม่ของสงครามกับอิสราเอลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

เว็บไซต์ อัลจาซีรา รายงานเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) ว่า เลขาธิการของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซาเอ็ด ฮัสซัน นาสรัลลาห์ กล่าวต่อผู้สนับสนุนที่มารวมตัวที่พิธีศพของ 'ฟูอัด ชูเคอร์' ผู้บัญชาการคนสำคัญของฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งมีฐานบัญชาการอยู่ทางใต้ของเลบานอน ระบุว่า สงครามกับอิสราเอลได้เข้าสู่บทใหม่แล้ว

นาสรัลลาห์ กล่าวว่า ฮิซบอลเลาะห์กำลังพิจารณาการตอบโต้การโจมตีด้วยวิธีการที่จริงจังและรอบคอบ มากกว่าเป็นเชิงสัญลักษณ์ แม้ว่าหลายประเทศกำลังเรียกร้องให้ฮิซบอลเลาะห์ไม่ตอบโต้อิสราเอลกลับก็ตาม

นาสรัลลาห์ กล่าวต่อว่า อิสราเอล "ล้ำเส้น" และการตอบโต้เป็นเรื่องที่ "ไม่สามารถเลี่ยงได้" และเขาระบุเพิ่มว่า ความตึงเครียดในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองอิสราเอล หลังการใช้กำลังทหารตอบโต้กลับภายในระยะเวลาอันใกล้นี้

สำหรับการโจมตีที่สังหาร 'ฟูอัด ชูเคอร์' เกิดขึ้นเมื่อ 27 ก.ค. 2567 มีเป้าหมายที่ย่านฮาเรตเฮรค (Haret Hreik) เขตดาฮิเยห์ (Dahiyeh) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน รายงานจากกระทรวงสาธารณสุขของเลบานอน ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวทำให้มีหญิงเสียชีวิต 3 ราย เด็ก 3 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน

เว็บไซต์ PPTV36HD รายงานเมื่อ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ได้จัดการแถลงข่าวที่กองบัญชาการกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เมื่อช่วงค่ำเมื่อ 31 ก.ค. 2567 หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคง

เนทันยาฮู คาดว่า สถานการณ์ในอีกไม่กี่วันนับจากนี้จะเต็มไปด้วยเรื่องท้าทายจากการโจมตีของอิหร่าน และกลุ่มติดอาวุธตัวแทนในภูมิภาค เนื่องจากการโจมตีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อศัตรู ทั้งกลุ่มฮามาส และฮิซบอลเลาะห์ แต่ก็ไม่ได้มีการพูดถึงเหตุที่ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของฮามาส ถูกลอบสังหารในอิหร่านโดยตรง

เนทันยาฮู ยืนยันว่า อิสราเอลพร้อมรับมือกับทุกๆ สถานการณ์ และจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาดกับทุกๆ ภัยคุกคาม

"พลเมืองอิสราเอล ช่วงเวลาที่ยากลำบากรออยู่ข้างหน้า นับตั้งแต่เหตุโจมตีกรุงเบรุต มีเสียงขู่มาจากทุกทิศทาง แต่เราพร้อมสำหรับสถานการณ์ใดก็ตาม เราจะยืนหยัดร่วมกันและมุ่งมั่นต่อต้านทุกภัยคุกคาม อิสราเอลจะจัดให้อย่างสาสมต่อเหตุโจมตีรุนแรงใดๆ จากทุกสมรภูมิ" เนทันยาฮู กล่าว