Skip to main content
sharethis

โอลิมปิกปารีส 2024 ปิดฉากแล้ว นักกีฬาไทยได้ 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง อันดับ 44 ตารางรวม เป็นอันดับ 11 เอเชีย และอันดับ 3 อาเซียน

มติชนออนไลน์ รายงานว่ากีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปิดฉากแล้ว เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2567 ที่สนามสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ สนามกีฬาแห่งชาติในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีความจุ 80,000 ที่นั่ง ในส่วนตัวแทนประเทศไทย มี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมในพิธี

เจ้าภาพกลับมาใช้สนามกีฬาเป็นสถานที่ปิดเหมือนโอลิมปิกครั้งก่อนๆ หลังจากในพิธีเปิดใช้แม่น้ำแซนเป็นสถานที่จัดพิธีเปิด โดยช่วงต้นของพิธี ทัพนักกีฬาชาติต่างๆ ส่งตัวแทนหญิง 1 ชาย 1 เชิญธงชาติประเทศนั้นๆ เข้าสู่สนาม โดยในส่วนของนักกีฬาไทยคือ “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง เจ้าของเหรียญทองแดงมวยสากล รุ่น 66 กก.หญิง และ “เวฟ” วีรพล วิชุมา เจ้าของเหรียญเงินยกน้ำหนัก รุ่น 73 กก.ชาย

จากนั้นนักกีฬาชาติต่างๆ ซึ่งยังไม่ได้เดินทางกลับต่างทยอยเข้าสู่สนาม แล้วต่อด้วยพิธีการมอบเหรียญรางวัลมาราธอนหญิง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จากประเพณีปฏิบัติที่จะมอบเหรียญให้กีฬามาราธอนชาย โดยซีฟาน ฮัสซัน ปอดเหล็กหญิงทีมชาติเนเธอร์แลนด์เชื้อสายเอธิโอเปีย คว้าเหรียญทอง ขณะที่ทิกสต์ อัสเซฟา จากเอธิโอเปีย ได้เหรียญเงิน และเฮลเลน โอบิรี จากเคนยา คว้าเหรียญทองแดง

สำหรับการแสดงจะมีการโชว์เต้น ยิมนาสติก ว่าด้วยการถือกำเนิดของโอลิมปิกเกมส์ยุคใหม่ซึ่งบารอนปิแอร์ เดอ คูร์แบแต็ง ชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ริเริ่ม ร่วมด้วยการร้องเพลง มีศิลปินชื่อดังของฝรั่งเศส “ฟีนิกซ์” เจ้าของรางวัลแกรมมี่ และคู่ดูโอ “แอร์” ซึ่งโด่งดังอย่างมากตั้งแต่ยุค 90 มาร่วมแสดง

ส่วนการรับธงของเจ้าภาพครั้งต่อไปในลอสแอนเจลิส 2028 ผู้รับธงเจ้าภาพหนหน้าเป็น คาเรน บาส นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส ที่รับต่อจากอานน์ อิดาลโก้ นายกเทศมนตรีกรุงปารีส ก่อนส่งต่อให้ซีโมน ไบล์ส นักยิมนาสติกสาวทีมชาติสหรัฐที่คว้า 3 เหรียญทองจากโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้

จากนั้น ทอม ครูซ นักแสดงฮอลลีวู้ด วัย 62 ปี ทำเซอร์ไพรส์ร่วมแสดงในการมารับธง ด้วยการโรยตัวลงมาจากหลังคาของสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ เพื่อรับธงโอลิมปิกจากไบล์ส จากนั้นขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากสนาม ตัดเข้าคลิปขึ้นเครื่องบินไปลอสแอนเจลิส ก่อนจะกระโดดร่มลงไปใกล้ป้ายของฮอลลีวู้ด แลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเจ้าภาพในปี 2028

หลังจากนั้นครูซส่งต่อธงโอลิมปิกให้กับนักกีฬาสหรัฐอเมริกาอีกหลายคน ซึ่งมุ่งหน้าไปยังชายหาดที่วงร็อกระดับตำนาน “เรดฮอตชิลีเพปเปอร์ส” วงร็อกอเมริกัน ที่ก่อตั้งวงในลอสแอนเจลิส รวมถึงบิลลี่ เอลลิช ศิลปินสาวชื่อดัง และสนูปด็อกกับ ดร.เดร สองแร็ปเพอร์ชื่อดัง ร้องเพลงต้อนรับ

ในช่วงสุดท้าย เลออง มาร์ชองด์ ฉลามหนุ่มทีมชาติฝรั่งเศส เจ้าของ 4 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดงปารีสเกมส์ นำตะเกียงที่บรรจุไฟจากคบเพลิงโอลิมปิกจากสวนตุยเลอรีหน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เข้าสู่สนาม จากนั้นบาค, มาร์ชองด์ และตัวแทนนักกีฬาจาก 5 ทวีป ร่วมด้วยตัวแทนนักกีฬาทีมผู้อพยพ ร่วมเป่าดับไฟในตะเกียง เป็นสัญญาณการสิ้นสุดโอลิมปิกเกมส์ 2024 อย่างเป็นทางการ

สำหรับโอลิมปิกเกมส์ “แอลเอ 2028” จะแข่งขันระหว่างวันที่ 14-30 ก.ค. 2028 ขณะที่กรุงปารีสจะต้องเป็นเจ้าภาพกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ระหว่างวันที่ 28 ส.ค.-8 ก.ย. ต่ออีก 1 รายการ

นักกีฬาไทยได้ 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง

เว็บไซต์เดลินิวส์  รายงานว่าในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ สรุปแล้วนักกีฬาไทยได้ 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง โดย 1 เหรียญทอง จาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง, 3 เหรียญเงิน “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แบดมินตัน ชายเดี่ยว, “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยกน้ำหนัก รุ่น 61 กก.ชาย, “เวฟ” วีรพล วิชุมา ยกน้ำหนัก รุ่น 73 กก.ชาย และ 2 เหรียญทองแดง จาก “ออย” สุรจนา คำเบ้า ยกน้ำหนัก รุ่น 49 กก.ชาย และ “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มวยสากล รุ่น 66 กก.หญิง

ยอดรวมเหรียญโอลิมปิกของไทย นับตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันปี 1952 จนถึงปัจจุบันทำเหรียญรางวัลแล้วทั้งสิ้น 41 เหรียญ แบ่งเป็น 11 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน และ 19 เหรียญทองแดง ในจำนวนนั้น “ยกน้ำหนัก” คว้ามาครองได้มากที่สุด 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง รวม 17 เหรียญ, อันดับ 2 “มวยสากล” 4 ทอง 4 เงิน 8 ทองแดง รวม 16 เหรียญ, อันดับ 3 “เทควันโด” 2 ทอง 2 เงิน 3 ทองแดง และล่าสุด “แบดมินตัน” เพิ่งได้เหรียญครั้งแรก จาก กุลวุฒิ 1 เหรียญเงิน

1 ทอง 3 เงิน 2 ทองแดงของไทย จบอันดับที่ 44 ในตารางเหรียญรวม ร่วมกับ จาเมกา และ แอฟริกาใต้ เป็นอันดับที่ 11 ของเอเชีย ต่อจาก จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อุซเบกิสถาน, อิหร่าน,​ บาห์เรน,​ ไทเป, ฮ่องกง, ฟิลิปปินส์, และอินโดนีเซีย

ส่วนในอาเซียนไทย เป็นอันดับที่ 3 มีฟิลิปปินส์ ซึ่งจบอันดับ 37 นับเป็นที่ 1 ของย่านนี้ ได้ไป 2 ทอง 2 ทองแดง ตามมาด้วย อินโดนีเซีย จบที่ 39 ร่วม ได้ 2 ทอง 1 ทองแดง, ไทย เป็นอันดับ 3, อันดับ 4 มาเลเซีย อันดับ 80 ร่วม จาก 2 ทองแดง และอันดับ 5 สิงคโปร์ อันดับ 84 ร่วม ได้ไป 1 ทองแดง ส่วน เวียดนาม, กัมพูชา, ลาว, บรูไน และติมอร์เลสเต ไม่ได้เหรียญรางวัล

ส่วนเจ้าเหรียญทองเป็นของ สหรัฐอเมริกา 40 เหรียญทอง ตามมาด้วยอันดับ 2 คือ จีน ที่ได้ 40 เหรียญเท่ากัน แต่ สหรัฐ เหรียญเงินมากกว่า, อันดับ 3 ญี่ปุ่น 20 ทอง, อันดับ 4 ออสเตรเลีย 18 ทอง และอันดับ 5 ฝรั่งเศส 16 ทอง

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net