Skip to main content
sharethis

ปภ.สรุปสถานการณ์น้ำท่วม ณ เช้าวันที่ 21 ก.ย. ยังมีอยู่ใน 7 จังหวัด รวม 26 อำเภอ 132 ตำบล 673 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 25,883 ครัวเรือน ส่วนภาพรวมตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. เป็นต้นมา เกิดน้ำท่วม 30 จังหวัด รวม 160 อำเภอ 717 ตำบล 3,770 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 153,143 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 46 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 24 คน

21 ก.ย. 2567 เพจกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM รายงานว่ากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. รายงานมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ หนองคาย หนองบัวลำภู พระนครศรีอยุธยา และสตูล รวม 26 อำเภอ 132 ตำบล 673 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 25,883 ครัวเรือน

โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่พร้อมดูแลให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวมถึงเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายให้กลับคืนสู่สภาพปกติอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง

ปภ.รายงานว่า ในระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 21 ก.ย. 2567 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 30 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ระยอง ชุมพร ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง สตูล รวม 160 อำเภอ 717 ตำบล 3,770 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 153,143 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 46 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 24 คน

ซึ่งปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 26 อำเภอ 132 ตำบล 673 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 25,883 ครัวเรือน รายละเอียด ดังนี้

1) เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย และ อ.เมืองฯ รวม 4 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,268 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

2) พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และอ.เมืองฯ รวม 7 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 576 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

3) เพชรบูรณ์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหนองไผ่ รวม 1 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 300 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

4) หนองคาย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ อ.เมืองฯ อ.รัตนวาปี และ อ.โพนพิสัย รวม 27 ตำบล 151 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,132 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

5) หนองบัวลำภู เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

6) พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และ อ.บางไทร รวม 67 ตำบล 305 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,374 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

7) สตูล เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ควนโดน อ.เมืองฯ อ.ท่าแพ อ.มะนัง อ.ละงู อ.ควนกาหลง และ อ.ทุ่งหว้า รวม 25 ตำบล 167 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,210 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

เตรียมถกร่วม 57 จังหวัด 24 ก.ย. นี้ ชี้แจงแนวทางจ่ายเงินช่วยเหลือน้ำท่วม

เว็บไซต์ TNN รายงานว่า นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นหน่วยรับงบประมาณและดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น เพื่อให้การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างถูกต้อง ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็ว

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้เตรียมจัดประชุมกับ 57 จังหวัดที่ได้รับการจัดสรรเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เพื่อชี้แจงขั้นตอนและแนวทางการปฏิบัติงานให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีกำหนดจัดประชุมชี้แจงในวันที่ 24 ก.ย. 2567 เวลา 13.30 น.

เบี้องต้น ผู้ประสบภัยสามารถยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือได้ 2 ช่องทาง ทั้งแบบ onsite และ online

1. การยื่นคำร้องฯ ด้วยตนเอง ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย

2. การยื่นคำร้องฯ ด้วยตนเองผ่านทาง website

ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการยื่นคำร้องและติดตามสถานะการขอรับเงินช่วยเหลือฯ ช่วยลดขั้นตอนเอกสารและระยะเวลาในการเดินทางมาติดต่อ และเพื่อให้ประชาชนเข้าใช้งานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วที่สุด

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

สำนักข่าวไทย รายงานว่ากรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “ซูลิก” เคลื่อนปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือ ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net