Skip to main content
sharethis

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเผยศาลจังหวัดสมุทรสาคร นัดแม่ 'สยาม ธีรวุฒิ' ไต่สวนคำร้อง ขอศาลสั่งให้เป็นบุคคลสาบสูญ 21 ต.ค 2567 นี้

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งข่าวว่าเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2567 กัญญา ธีรวุฒนิ มารดาของ“สยาม ธีรวุฒิ” ผู้ลี้ภัยทางการเมืองได้ถูกบังคับให้สูญหายที่ประเทศเวียดนาม ตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งบัดนี้ก็เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว ที่มารดาของสยามไม่สามารถติดต่อและไม่สามารถทราบชะตากรรมได้เลย มารดาจึงตัดสินใจยื่นคำร้องขอศาลสั่งให้สยาม ธีรวุฒิ เป็นบุคคลสาบสูญ ในวันนี้ศาลกำหนดนัดไต่สวนกัญญา ในฐานะผู้ร้อง วันที่ 21 ต.ค. 2567 เวลา 13.30 น. ที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร

สืบเนื่องจากกรณีที่ สยาม ธีรวุฒิ เป็นหนึ่งในผู้ลี้ภัยทางการเมืองจากการมีหมายจับข้อมาตรา 112 จากการแสดงละครเวที ‘เจ้าสาวหมาป่า’ โดยถูกบังคับให้สูญหายไปพร้อมกับ ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือลุงสนามหลวง และ กฤษณะ ทัพไทย หรือสหายยังบลัด กัญญา ธีรวุฒิ มารดาของสยามได้รับทราบข่าวเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2562 ว่ามีตำรวจเวียดนามจับกุมและส่งตัวผู้ลี้ภัยทางการเมืองทั้งสามคน ซึ่งถูกควบคุมตัวจากประเทศเวียดนามและส่งกลับมาไทย แต่หลังจากนั้นไม่มีใครทราบชะตากรรมหรือพบตัวทั้งสามคนอีกเลย โดยทั้งสามคนเป็นหนึ่งใน 9 ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ทำการลี้ภัยไปนอกประเทศหลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และถูกบังคับให้สูญหายในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันตั้งแต่ปี 2559 ถึง 2563  ต่อมาประเทศไทยได้มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการซ้อมทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา กัญญา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานอัยการ ณ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2566 เพื่อขอให้มีการติดตามและค้นหาและทราบชะตากรรมของสยาม มาโดยตลอด

นอกจากนี้ กัญญา ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปที่คระกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อขอให้มีการสืบสวนสอบสวน ค้นหาความจริงถึงเหตุการณ์การหายตัวไปของสยาม ธีรวุฒิ และผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ อีกด้วย กระทั่งเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้แถลงข่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวในทำนองว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้จัดทำรายงานการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีการบังคับสูญหายนักกิจกรรมทางการเมืองที่ลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ใน สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งถูกบังคับให้สูญหายและไประหว่างปี 2560 – 2564 จำนวน 9 ราย ได้แก่ อิทธิพล สุขแป้น, วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ, สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์, ชัชชาญ บุปผาวัลย์ (เสียชีวิต), ไกรเดช ลือเลิศ, ชูชีพ ชีวะสุทธิ์, กฤษณะ ทัพไทย, สยาม ชีรวุฒิ และวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นการบังคับให้สูญหายจริงและมีความเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐไทยอีกด้วย จึงสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเยียวยาความเสียหายให้กับครอบครัวของผู้เสียหายทั้ง 9 ราย

ตลอดการต่อสู้ที่ผ่านมา กัญญา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและการออกมาต่อสู้เรียกร้องตลอดกว่า 5 ปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง โดยตนได้คิด ทบทวนมาโดยตลอดว่า สยามไปทำอะไรให้ใครให้เจ็บช้ำน้ำใจได้ขนาดไหน จึงต้องมีการอุ้ม มีการทำให้ลูกชายของตนสูญหายไปด้วย ตนเองรู้สึกตั้งคำถามต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด สำหรับในนัดนี้ กัญญา กล่าวถึงความรู้สึกและความคาดหวังว่า “อยากให้ศาลเห็นใจครอบครัวแม่ สงสารครอบครัวแม่ ไม่ใช่ปล่อยละเลย หวังว่าในนัดไต่สวนจะได้นำเสนอความจริงให้กับศาล”

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเชิญชวนสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจร่วมติดตามความคืบหน้าการยื่นคำร้องดังกล่าว รวมถึงการดำเนินการสืบสวนสอบสวนค้นหาความจริงการบังคับสูญหายสยาม ธีรวุฒิ ต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าครอบครัวสยามจะได้ทราบความจริง เข้าถึงความเป็นธรรม และได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสมในทุกมิติ ตลอดจนสามารถนำผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ในที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดกรณีการบังคับสูญหายเช่นนี้กับใครได้อีก

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net